ในยุคที่เด็กทุกคนมีสมาร์ทโฟน พ่อแม่หลายคนเริ่มเจอกับสถานการณ์ที่ชวนให้ใจหล่นวูบ เช่น เปิดดูมือถือของลูกแล้วพบ “รูปลับในมือถือของลูก” หรือพบภาพอวัยวะเพศที่ลูกถ่ายเองเก็บไว้ บางครั้งเป็นภาพของลูกเอง บางครั้งเป็นภาพจากคนอื่น หรือจากแอปโซเชียล
แม้พ่อแม่อาจรู้สึกตกใจ แต่การ “โวยวาย” กลับยิ่งผลักลูกให้ปิดใจ และอาจทำให้พลาดโอกาสสำคัญในการพูดเรื่องเพศอย่างเข้าใจ ซึ่งจริง ๆ แล้วเรื่องแบบนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสอนลูกเรื่อง การเคารพร่างกายตัวเอง ความปลอดภัยในโลกดิจิทัล และทักษะการรู้เท่าทันสื่อ
ทำไมเด็กบางคนถึงถ่ายรูป “ของสงวน” ของตัวเอง?
การที่พ่อแม่เจอ รูปลับในมือถือของลูก ไม่ได้แปลว่าลูกกำลัง “เสียคน” หรือ “มีพฤติกรรมผิดปกติ” เสมอไป ตรงกันข้าม การถ่ายภาพส่วนตัวหรือสำรวจร่างกายตัวเอง เป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการทางจิตใจและร่างกายที่ปกติในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น
นักจิตวิทยาชื่อดังอย่าง Sigmund Freud เคยอธิบายว่า เด็กช่วงวัยอนุบาลถึงประถมต้น จะมีพัฒนาการทางเพศในรูปแบบ “สำรวจร่างกาย” ซึ่งเป็นช่วง “phallic stage” ที่พวกเขาเริ่มใส่ใจในอวัยวะเพศ และอาจแสดงออกในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การถามเรื่องเพศ การสัมผัสตัวเอง หรือแม้กระทั่งการถ่ายภาพ
ในขณะเดียวกัน Erik Erikson ก็เสนอว่า วัยรุ่นอยู่ในช่วง “identity vs. role confusion” ซึ่งเป็นช่วงสำคัญในการค้นหาตัวตน เขาอาจสงสัยว่า “เราหน้าตาเป็นยังไง?” “ร่างกายเราปกติไหม?” “เราเหมือนหรือแตกต่างจากเพื่อนอย่างไร?” เมื่อประกอบกับโลกออนไลน์ที่เต็มไปด้วยภาพจากดารา เซเลบ หรือเพื่อน ๆ ที่แชร์ภาพเซ็กซี่ หรือคลิปแนว “challenge” ทำให้เด็กบางคนอาจลองถ่ายรูปของตัวเองโดยไม่รู้ว่าพฤติกรรมนี้มีความเสี่ยงแค่ไหน

พฤติกรรมที่ “ควรกังวล” vs “ปกติ”
การที่ลูกถ่ายรูปลับเก็บไว้ในเครื่อง ไม่ได้หมายความว่าลูกมีปัญหาเสมอไป แต่พ่อแม่ควรแยกให้ออกว่าอะไรคือ “พฤติกรรมปกติที่พัฒนาได้” กับ “พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ”
|
พฤติกรรมที่ยังอยู่ในขอบเขตพัฒนาได้
|
พฤติกรรมที่ควรห่วง
|
ลูกถ่ายรูปเก็บไว้ส่วนตัว ไม่ได้ส่งต่อให้ใคร |
รูปถูกส่งให้คนอื่น (หรือมีร่องรอยแชตน่าสงสัย) |
ไม่มีแคปชันลามก หรือท่าทางล่อแหลม |
ลูกมีท่าทางหมกมุ่นกับรูปลับบ่อยเกินไป |
รูปถูกถ่ายด้วยความอยากรู้ร่างกายของตัวเอง ไม่ใช่เพื่อยั่วยวนผู้อื่น |
มีสัญญาณว่าลูกถูกบังคับให้ถ่ายภาพ (เช่น sextortion) |
ลูกสามารถอธิบายเหตุผลได้โดยไม่รู้สึกอับอายหรือกลัว |
ลูกมีท่าทางเศร้า ซึม หรือเปลี่ยนพฤติกรรมหลังจากพบเหตุการณ์นี้ |
พ่อแม่ควรทำยังไง? หลัก 5C รับมือ รูปลับในมือถือของลูก
1. Calm – ตั้งสติ อย่าตกใจจนโวยวาย
จำไว้ว่า “ลูกจะไม่กล้าเล่าอะไรอีกเลย” ถ้าเจอการตะคอก ดุด่า หรือสบถใส่ สูดลมหายใจลึก ๆ แล้วตั้งเป้าหมายว่า “ครั้งนี้ เราจะเป็นผู้ใหญ่ที่ลูกไว้ใจได้”
2. Curiosity – ถามด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่จับผิด
เริ่มจากคำถามเชิงเปิด เช่น “แม่เห็นภาพในมือถือแล้วตกใจนิดหน่อย แม่อยากเข้าใจว่าลูกถ่ายไว้เพราะอะไรเหรอ?”
3. Connection – แสดงออกว่าห่วง ไม่ใช่จะลงโทษ
“แม่ไม่โกรธนะ แต่อยากรู้ว่าลูกเข้าใจเรื่องนี้ยังไง แม่อยากให้ลูกปลอดภัย”
4. Consent Education – ใช้โอกาสนี้สอนเรื่องสิทธิในร่างกาย
อธิบายเรื่อง “สิทธิในร่างกาย” การไม่ควรถ่ายหรือส่งภาพเปลือยแม้จะเป็นของตัวเอง เพราะอาจถูกแอบบันทึก ส่งต่อ หรือแบล็กเมล์ได้
5. Cyber safety – สอนเรื่อง digital footprint
ภาพในมือถือแม้ลบแล้ว อาจหลงเหลือในคลาวด์ หรือถูก backup ไปที่อื่น และถ้าหลุดออกไป อาจถูกใช้ในทางไม่เหมาะสม เช่น deepfake หรือกลั่นแกล้ง

ตัวอย่างคำพูด “ควรใช้” และ “ไม่ควรใช้”
|
ห้ามพูดแบบนี้
|
ควรพูดแบบนี้
|
“น่าอาย! ทำแบบนี้ได้ยังไง!” |
“แม่ตกใจนิดหน่อย แต่อยากเข้าใจว่าทำไมลูกถึงถ่ายรูปนี้” |
“ทำแบบนี้โรคจิตหรือเปล่า?” |
“แม่เข้าใจว่าช่วงวัยนี้ ลูกอาจเริ่มสำรวจร่างกายตัวเอง” |
“อายเขาบ้างไหม ถ้ามีคนเห็น!” |
“รูปพวกนี้อาจทำให้ลูกเสียหายถ้าไปตกอยู่ในมือคนไม่ดี” |
“ห้ามยุ่งกับมือถืออีก!” |
“มาคุยกันเรื่องการใช้มือถืออย่างปลอดภัยดีกว่า” |
“แบบนี้เรียกว่าไม่รักดี!” |
“แม่ห่วงลูกมาก อยากให้เข้าใจว่าแม่อยู่ข้างลูกเสมอ” |
เมื่อไหร่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
พ่อแม่ควรพาลูกไปพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเด็กหากพบว่า
- ลูกมีพฤติกรรมทางเพศที่หมกมุ่นหรือรุนแรงผิดวัย
- ลูกดูถูกทำร้ายร่างกายทางเพศ
- ลูกมีอาการเครียด ซึมเศร้า หรือพฤติกรรมเปลี่ยนไป
- ลูกไม่ยอมคุยเลยแม้พ่อแม่จะพยายามแล้วหลายครั้ง
รูปลับในมือถือของลูก ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป แต่เป็นโอกาสครั้งสำคัญ ที่พ่อแม่จะสอนลูกให้รู้จักร่างกายตัวเอง เข้าใจความปลอดภัยในโลกออนไลน์ และเรียนรู้เรื่องเพศอย่างเหมาะสม ควรพูดคุยด้วยความเข้าใจและเคารพ จะทำให้ลูกกล้าเล่าเรื่องที่สำคัญ และพ่อแม่กลายเป็น “ที่พึ่งทางใจ” ในช่วงวัยที่ลูกสับสนและเปราะบางที่สุด
ที่มา: สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ , verywillmind
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
สังเกตลูกด่วน! พฤติกรรมทางเพศในเด็กเล็ก แบบไหน”ไม่ปกติ”?
10 วิธี สอนลูกสาวให้รักตัวเอง สร้างเกราะอันแข็งแกร่ง มีภูมิคุ้มกันทางใจ
ลูกชอบจับจู๋ จับจิ๋ม ผิดปกติไหม? พ่อแม่ควรรับมือยังไงดี?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!