TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

10 สัญญาณเตือน พ่อแม่ที่ล้มเหลว สำรวจตัวเองก่อนสาย!

บทความ 5 นาที
10 สัญญาณเตือน พ่อแม่ที่ล้มเหลว สำรวจตัวเองก่อนสาย!

การเป็น พ่อแม่ที่ล้มเหลว ไม่ได้หมายถึงความตั้งใจที่ไม่ดี แต่อาจเป็นผลจากพฤติกรรมบางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อลูก รีบสำรวจและทบทวนตัวเองโดยด่วน

คุณพ่อคุณแม่เคยสงสัยไหมคะว่าวิธีการเลี้ยงลูกของคุณกำลังส่งผลกระทบต่อลูกอย่างไร? การเป็น พ่อแม่ที่ล้มเหลว ไม่ได้หมายถึงความตั้งใจที่ไม่ดี แต่อาจเป็นผลจากลักษณะและพฤติกรรมบางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อลูก theAsianparent ขอเป็นกระจกสะท้อน 10 สัญญาณของ พ่อแม่ที่ล้มเหลว โดยอ้างอิงหลักจิตวิทยาและงานวิจัย เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้สำรวจและทบทวนบทบาทของตนเองก่อนสาย

 

10 สัญญาณเตือน พ่อแม่ที่ล้มเหลว สำรวจตัวเองก่อนสาย!

  1. คุณมองข้ามความรู้สึกของลูก

เมื่อลูกบ่นเรื่องเล็กน้อยแล้วคุณบอกว่า “แค่นี้เองทำไมต้องร้องไห้” หรือ “หยุดงอแงได้แล้ว” นั่นคือสัญญาณของการมองข้ามความรู้สึกของลูก

ผลกระทบต่อลูก: ลูกจะเรียนรู้ที่จะเก็บกดความรู้สึก ไม่กล้าแสดงออก ขาดทักษะจัดการอารมณ์ และอาจนำไปสู่ภาวะวิตกกังวล หรือ ซึมเศร้าในอนาคตได้

ทฤษฎีความผูกพัน ของ John Bowlby และ Mary Ainsworth ชี้ว่าการตอบสนองทางอารมณ์ที่ไม่เพียงพอจากพ่อแม่ ทำให้เด็กมีความผูกพันที่ไม่มั่นคง ส่งผลต่อพัฒนาการด้านอารมณ์และสังคม นอกจากนี้ การมองข้ามความรู้สึก ยังสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพจิตและพฤติกรรมในวัยผู้ใหญ่อีกด้วย

 

  1. คุณควบคุมลูกมากเกินไป แทบไม่ให้มีพื้นที่เป็นของตัวเอง

คุณอาจคิดว่าการกำหนดทุกอย่างในชีวิตลูก เลี้ยงดูแบบตีกรอบตั้งแต่เรื่องเรียน เพื่อน การแต่งตัว หรือแม้แต่ความคิด เป็นการแสดงความรักและห่วงใย แต่ถ้าคุณไม่เปิดโอกาสให้ลูกได้เลือก ตัดสินใจ หรือแม้แต่ลองผิดลองถูกเลย นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังควบคุมลูกมากเกินไป

ผลกระทบต่อลูก: การถูกควบคุมมากเกินไปทำให้ลูกขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่กล้าคิดเอง ทำเอง หรือแม้แต่ตัดสินใจเรื่องง่ายๆ ด้วยตัวเอง สิ่งนี้จะส่งผลให้ลูกขาดทักษะการแก้ปัญหาที่จำเป็น และเมื่อโตขึ้นอาจกลายเป็นคนที่ไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ หรือในทางกลับกันก็อาจกลายเป็นคนที่มีพฤติกรรมต่อต้านได้

ผลการศึกษาเกี่ยวกับ รูปแบบการเลี้ยงดูแบบเผด็จการ ของนักจิตวิทยาชื่อดัง Diana Baumrind แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เด็กที่ถูกเลี้ยงดูด้วยการควบคุมที่เข้มงวด และไม่มีการให้เหตุผลที่ดี มักจะขาดความคิดริเริ่ม ความเป็นตัวของตัวเอง และความสามารถในการตัดสินใจอย่างอิสระ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ค่ะ

 

 

พ่อแม่ที่ล้มเหลว

 

  1. คุณใช้คำพูดที่บั่นทอนจิตใจหรือตำหนิลูกบ่อยครั้ง

คำพูดมีพลังมากกว่าที่เราคิดการที่คุณตำหนิ เปรียบเทียบ หรือใช้คำพูดรุนแรงกับลูกบ่อยๆ เช่น “ไม่ได้เรื่องลเย” “ดูพี่สิ เก่งกว่าตั้งเยอะ” หรือ “เป็นตัวปัญหาจริง ๆ” เหล่านี้คือสัญญาณร้ายที่กำลังบั่นทอนจิตใจลูก

ผลกระทบต่อลูก: คำพูดเหล่านี้จะทำลายความภาคภูมิใจในตนเองของลูก ทำให้ลูกรู้สึกด้อยค่า ไม่เป็นที่รัก และอาจส่งผลให้ลูกมีปัญหาด้านพฤติกรรม เช่น ก้าวร้าวหรือพัฒนาไปสู่ปัญหาทางสุขภาพจิตอย่างภาวะซึมเศร้า และวิตกกังวลได้

งานวิจัยด้าน การใช้คำพูดรุนแรงในวัยเด็กได้ชี้ชัดเจนว่า การที่เด็กต้องเผชิญกับคำพูดที่ทำร้ายจิตใจซ้ำๆ มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับการเพิ่มความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพจิตและพฤติกรรมต่อต้านสังคมในระยะยาว ซึ่งเป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ

 

  1. คุณปล่อยปละละเลย ไม่ใส่ใจความต้องการพื้นฐานของลูก

บางครั้งพ่อแม่อาจจะยุ่งมากจนไม่มีเวลา หรือคิดว่าลูกดูแลตัวเองได้แล้ว แต่ถ้าคุณไม่สนใจเรื่องการเรียน สุขภาพ ความปลอดภัย หรือแม้กระทั่งไม่รู้ว่าลูกไปทำอะไรที่ไหน ปล่อยให้ลูกต้องดูแลตัวเองเกินวัย นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังปล่อยปละละเลยลูกโดยไม่รู้ตัว

ผลกระทบต่อลูก: เมื่อลูกรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่ใส่ใจความต้องการพื้นฐาน ลูกจะขาดความรู้สึกปลอดภัย รู้สึกไม่เป็นที่รัก และอาจไม่มีทักษะการควบคุมตัวเองที่ดีพอ นอกจากนี้ ลูกยังมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมเสี่ยง หรือออกไปแสวงหาความสนใจและการยอมรับจากแหล่งภายนอกที่ไม่เหมาะสมได้ง่ายขึ้นค่ะ

งานวิจัยยืนยัน การเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลย ได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวาง โดยชี้ให้เห็นว่าการขาดการดูแลเอาใจใส่ขั้นพื้นฐานส่งผลเสียต่อพัฒนาการรอบด้านของเด็กอย่างรุนแรง และที่สำคัญคือการถูกทอดทิ้ง เป็นหนึ่งในประสบการณ์เลวร้ายในวัยเด็ก ที่มีข้อมูลสถิติยืนยันว่าเชื่อมโยงกับการเพิ่มความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพจิตและปัญหาสุขภาพอื่นๆ ในระยะยาวได้

 

พ่อแม่ที่ล้มเหลว

 

  1. คุณเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีในเรื่องพฤติกรรมและอารมณ์

คุณอาจไม่รู้ตัวว่าพฤติกรรมที่คุณแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมก้าวร้าว การใช้คำหยาบคาย การจัดการอารมณ์ที่ไม่ดี การมีพฤติกรรมเสพติด หรือแม้แต่การโกหกต่อหน้าลูก กำลังส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง เพราะลูกน้อยกำลังซึมซับและเรียนรู้จากคุณอยู่ตลอดเวลา นี่คือสัญญาณว่าคุณกำลังเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับลูก

ผลกระทบต่อลูก: เด็กๆ เรียนรู้จากการสังเกตพฤติกรรมของผู้ใหญ่ใกล้ตัวเป็นหลัก เมื่อพวกเขาเห็นพฤติกรรมเหล่านั้นบ่อยๆ ลูกอาจมองว่าเป็นเรื่องปกติที่ยอมรับได้ ซึ่งจะทำให้เขามีปัญหาในการเข้าสังคม การควบคุมอารมณ์ และการแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสมค่ะ

เรื่องนี้สอดคล้องกับ ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม ของ Albert Bandura นักจิตวิทยาชื่อดัง ที่เน้นย้ำว่าเด็กๆ เรียนรู้พฤติกรรมต่างๆ ผ่านการสังเกตและเลียนแบบผู้ใหญ่ โดยเฉพาะพ่อแม่ ซึ่งเป็นแบบอย่างที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเขา ดังนั้น พฤติกรรมของคุณจึงมีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนาพฤติกรรมและบุคลิกภาพของลูกในอนาคต

 

  1. คุณตั้งความหวังกับลูกสูงเกินจริง ไม่ยืดหยุ่น

พ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกได้ดี แต่ถ้าคุณคาดหวังให้ลูกสมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง ไม่ยอมรับความผิดพลาดของลูก และกดดันให้ลูกต้องทำตามความต้องการของคุณเท่านั้น นี่คือสัญญาณว่าคุณกำลังตั้งความหวังกับลูกสูงเกินจริงและไม่ยืดหยุ่น

บทความจากพันธมิตร
การมีสติ ฉบับเด็ก ๆ เป็นอย่างไร ฝึกลูกให้มีสติ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย
การมีสติ ฉบับเด็ก ๆ เป็นอย่างไร ฝึกลูกให้มีสติ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคใหม่ด้วย ทักษะ Executive Function
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคใหม่ด้วย ทักษะ Executive Function
ปี 2567 เด็กป่วยด้วยโรคอะไร? LUMA แบ่งปันสถิติให้เข้าใจมากขึ้น
ปี 2567 เด็กป่วยด้วยโรคอะไร? LUMA แบ่งปันสถิติให้เข้าใจมากขึ้น
Value Health (Kids) ประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เจ้าของรางวัล Most Promising จากเวที TAP Awards 2023
Value Health (Kids) ประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เจ้าของรางวัล Most Promising จากเวที TAP Awards 2023

ผลกระทบต่อลูก: การถูกกดดันแบบนี้ทำให้ลูกรู้สึกเครียด กลัวความล้มเหลว และขาดความสุขในการเรียนรู้ เพราะไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็รู้สึกไม่ถึงมาตรฐานที่คุณตั้งไว้ สิ่งนี้อาจนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพจิตที่รุนแรงขึ้น เช่น ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หรือแม้แต่ความผิดปกติในการกิน

มีงานวิจัยจำนวนมากที่เชื่อมโยง การเป็นคนสมบูรณ์แบบในเด็กและวัยรุ่นกับการตั้งความคาดหวังที่สูงเกินไปจากพ่อแม่ โดยพบว่าเด็กที่ถูกคาดหวังให้สมบูรณ์แบบมากๆ มักจะมีความกดดันทางจิตใจสูง มีความกังวลเรื่องความล้มเหลว และเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตมากกว่าเด็กทั่วไป

 

  1. คุณขาดการสื่อสารแบบสองทางกับลูก

คุณมักเป็นฝ่ายพูด สั่งสอน หรือให้คำเทศนาลูกอยู่ตลอด แต่ไม่ค่อยได้ฟังความคิดเห็น ความรู้สึก หรือข้อเสนอแนะของลูกเลย หรือบางทีคุณอาจจะมีการพูดคุยกับลูกน้อยมากๆ นี่คือสัญญาณว่าคุณกำลังขาดการสื่อสารแบบสองทางกับลูก

ผลกระทบต่อลูก: เมื่อลูกรู้สึกไม่ถูกรับฟัง ไม่ถูกเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น ลูกจะค่อยๆ ไม่กล้าพูด ไม่กล้าบอกความรู้สึก ทำให้ขาดทักษะการสื่อสารที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิต และที่สำคัญคือ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับลูกอาจจะห่างเหินกันไปเรื่อยๆ เพราะลูกไม่รู้สึกว่าตัวเองสำคัญพอที่จะได้รับการรับฟัง

งานวิจัยด้าน การสื่อสารระหว่างพ่อแม่และลูก เน้นย้ำถึงความสำคัญอย่างยิ่งของการสื่อสารแบบเปิดใจและเชิงบวก การสื่อสารที่มีคุณภาพไม่ใช่แค่การพูด แต่คือการรับฟังด้วยความเข้าใจ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรง ความไว้วางใจ และส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคมและอารมณ์ที่ดีของเด็ก

 

พ่อแม่ที่ล้มเหลว

 

  1. คุณเปรียบเทียบลูกกับคนอื่นอยู่เสมอ

พ่อแม่หลายคนอาจเผลอพูดเปรียบเทียบกับพี่น้อง เพื่อน หรือคนอื่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะในแง่ลบ คืออีกหนึ่งสัญญาณที่ทำร้ายลูก

ผลกระทบต่อลูก: การถูกเปรียบเทียบจะทำลายความภาคภูมิใจในตนเองของลูกอย่างรุนแรง ทำให้ลูกรู้สึกด้อยค่า ไม่เก่งเท่าคนอื่น และอาจเกิดความรู้สึกอิจฉาคนที่ถูกนำมาเปรียบเทียบด้วย นอกจากนี้ยังอาจนำไปสู่ปัญหาความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เพราะลูกอาจมองคนอื่นเป็นคู่แข่งมากกว่าเพื่อน

การศึกษาทางจิตวิทยาหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า การเปรียบเทียบเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กเกิดความรู้สึกไม่มั่นคงในตัวเอง และลดคุณค่าในตนเอง การที่เด็กเติบโตมาโดยรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอหรือไม่เป็นที่ยอมรับเท่าคนอื่น ส่งผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพจิตและพัฒนาการทางสังคมในระยะยาวของพวกเขาค่ะ

 

  1. คุณไม่ให้พื้นที่ลูกในการเผชิญกับความยากลำบากหรือความผิดหวัง

เวลาเห็นลูกเผชิญปัญหา หรือกำลังจะผิดหวัง คุณพ่อคุณแม่มักจะเข้าไปช่วยเหลือทันที แม้จะทำไปด้วยความรัก แต่ถ้าคุณไม่ปล่อยให้ลูกได้ลองผิดลองถูก หรือเรียนรู้จากความล้มเหลวเลย นั่นคือสัญญาณว่าคุณกำลังไม่ให้พื้นที่ลูกในการเผชิญกับความยากลำบากหรือความผิดหวัง

ผลกระทบต่อลูก: การช่วยเหลือลูกมากเกินไปจะทำให้ลูกขาดความสามารถในการเผชิญปัญหา (Resilience) ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการล้มแล้วลุกได้เอง ลูกจะขาดทักษะการแก้ปัญหา ไม่รู้จักวิธีรับมือกับความผิดหวัง และอาจไม่สามารถปรับตัวเข้ากับความท้าทายในชีวิตได้ดีเมื่อเติบโตขึ้นค่ะ

งานวิจัยยืนยัน แนวคิดเรื่อง “Overparenting” หรือที่บางคนเรียกว่า “Helicopter Parenting” ซึ่งหมายถึงการที่พ่อแม่คอยวนเวียนอยู่รอบตัวลูกและเข้ามาแทรกแซงทุกอย่าง ได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวาง โดยงานวิจัยพบว่าการเลี้ยงดูในลักษณะนี้ส่งผลเสียต่อพัฒนาการด้านความสามารถในการปรับตัวและความเป็นอิสระของเด็กอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เด็กไม่สามารถพัฒนาทักษะชีวิตที่จำเป็นได้อย่างเต็มที่ค่ะ

 

  1. คุณมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ คาดเดาไม่ได้

บางทีคุณก็ใจดีกับลูกมาก แต่ไม่ทันไรก็กลับโกรธรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน การที่คุณมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ คาดเดาไม่ได้ แบบนี้คือหนึ่งในสัญญาณสำคัญที่ส่งผลเสียต่อลูกอย่างมาก

ผลกระทบต่อลูก: เมื่ออารมณ์ของพ่อแม่ไม่สม่ำเสมอ ลูกจะรู้สึกไม่มั่นคงและไม่ปลอดภัย ต้องคอยระแวงอยู่ตลอดเวลาว่าอารมณ์ของคุณจะเปลี่ยนไปเมื่อไหร่ สิ่งนี้ทำให้เด็กเกิดความวิตกกังวลสูง และยังส่งผลต่อความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงและไว้วางใจกับผู้อื่นในอนาคตด้วยค่ะ

งานวิจัยด้านการเลี้ยงดูที่ไม่สม่ำเสมอส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงทางอารมณ์และพฤติกรรมของเด็ก เด็กที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่คาดเดาไม่ได้ มักจะมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์ของตัวเองและปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้ยากกว่าเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูที่สม่ำเสมอและมั่นคง

ไม่มีพ่อแม่คนไหนสมบูรณ์แบบ หากสำรวจตัวเองแล้วพบว่ามีข้อไหนที่คุณกำลังเป็นอยู่ นี่คือโอกาสที่ดีในการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลง ไม่พาตัวเองไปสู่ พ่อแม่ที่ล้มเหลว พูดคุยกับลูกให้มากขึ้น เรียนรู้ที่จะขอโทษเมื่อทำผิด และการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่คุณทำในวันนี้ จะกลายเป็นรากฐานที่มั่นคงให้กับของลูกคุณในวันหน้า

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

7 วิธีทำให้ลูกโชคดีที่มีเราเป็นพ่อแม่

ลูกเกิดมาต้องเลี้ยงพ่อแม่จริงหรือ? ความกตัญญู ต้องมาจากใจ ไม่ใช่แรงบังคับ

ลูกชอบตีตัวเอง สัญญาณเตือนที่พ่อแม่ต้องรู้ และวิธีหยุดอย่างปลอดภัย

 

ที่มา: 

  • American Psychological Association (APA) – Attachment
  • American Psychological Association (APA) – Parenting Styles
  • Simply Psychology – Bandura’s Social Learning Theory

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • ชีวิตครอบครัว
  • /
  • 10 สัญญาณเตือน พ่อแม่ที่ล้มเหลว สำรวจตัวเองก่อนสาย!
แชร์ :
  • เปลี่ยนคำขู่ เป็นคำพูดที่ไม่ทำร้ายใจลูก ให้ลูกเติบโตอย่างมั่นใจและปลอดภัย

    เปลี่ยนคำขู่ เป็นคำพูดที่ไม่ทำร้ายใจลูก ให้ลูกเติบโตอย่างมั่นใจและปลอดภัย

  • หยุดก่อนแม่! ปล่อยลูกดูคลิปสั้นทั้งวัน ผลเสียอาจไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ อย่างที่คิด

    หยุดก่อนแม่! ปล่อยลูกดูคลิปสั้นทั้งวัน ผลเสียอาจไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ อย่างที่คิด

  • ทำไมแค่ ให้ลูกช่วยงานบ้าน ถึงช่วยให้ลูกโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ประสบความสำเร็จมากกว่า?

    ทำไมแค่ ให้ลูกช่วยงานบ้าน ถึงช่วยให้ลูกโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ประสบความสำเร็จมากกว่า?

  • เปลี่ยนคำขู่ เป็นคำพูดที่ไม่ทำร้ายใจลูก ให้ลูกเติบโตอย่างมั่นใจและปลอดภัย

    เปลี่ยนคำขู่ เป็นคำพูดที่ไม่ทำร้ายใจลูก ให้ลูกเติบโตอย่างมั่นใจและปลอดภัย

  • หยุดก่อนแม่! ปล่อยลูกดูคลิปสั้นทั้งวัน ผลเสียอาจไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ อย่างที่คิด

    หยุดก่อนแม่! ปล่อยลูกดูคลิปสั้นทั้งวัน ผลเสียอาจไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ อย่างที่คิด

  • ทำไมแค่ ให้ลูกช่วยงานบ้าน ถึงช่วยให้ลูกโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ประสบความสำเร็จมากกว่า?

    ทำไมแค่ ให้ลูกช่วยงานบ้าน ถึงช่วยให้ลูกโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ประสบความสำเร็จมากกว่า?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว