รู้ไหมว่า ถ้าวันหนึ่ง เราไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว “เงินในบัญชีคนตาย” จะกลายเป็นของใคร? ใช่ค่ะ หลายคนอาจคิดว่า ลูก หรือสามี จะสามารถไปถอนเงินในบัญชีของเราได้ทันที แต่ ความจริงคือ “ถอนเองไม่ได้” ถ้าไม่มีคำสั่งศาล หรือพินัยกรรมรองรับ! แล้วแบบนี้แม่ ๆ อย่างเรา จะวางแผนยังไงไม่ให้ลูกลำบากในวันที่เราจากไป วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่อง การจัดการเงินในบัญชี เมื่อเราจากโลกนี้ไปแล้ว แบบเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับแม่ ๆ ที่ต้องการวางแผนอนาคตให้ลูก และครอบครัว พร้อมแนะแนวทางที่ถูกต้องตามกฎหมายไทย เพื่อให้เงินที่เราหาไว้ทั้งชีวิต ส่งต่อถึงลูกหลานได้แบบไม่มีสะดุด!
ทำไม เงินในบัญชีคนตาย ถึงถอนเองไม่ได้?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า บัญชีธนาคาร คือ ทรัพย์สินส่วนตัว ที่จะสามารถจัดการได้ เฉพาะเจ้าของบัญชีเท่านั้น
สถานการณ์จริง:
- แม่เสียชีวิตกะทันหัน มีเงินในบัญชีหลักแสน
- ลูกและสามีไปธนาคาร พร้อมใบมรณบัตร
- ธนาคารปฏิเสธการถอนเงิน เพราะไม่มี “คำสั่งศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก” และหนังสือยื่นรับรองคดีถึงที่สุด
บทเรียนคือ หากไม่วางแผนไว้ล่วงหน้า ลูกอาจต้องเสียเวลาหลายเดือน เพื่อดำเนินคดีในศาล กว่าจะได้ใช้เงิน ที่เป็นของแม่แท้ ๆ

กฎหมายไทยพูดถึงเรื่องนี้ไว้อย่างไร?
ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599–1733 กล่าวถึง “มรดก” ว่าจะตกทอดไปยังทายาทโดยธรรม (เช่น สามี/ภรรยา ลูก พ่อแม่) แต่ การจัดการมรดกนั้น ต้องมีผู้รับผิดชอบอย่างเป็นทางการ คือ “ผู้จัดการมรดก” ซึ่งจะได้รับคำสั่งแต่งตั้งจากศาล
ขั้นตอนทางกฎหมาย:
- ยื่นคำร้องขอเป็น “ผู้จัดการมรดก” ที่ศาล
- ศาลนัดไต่สวนเพื่อพิสูจน์ความเหมาะสม
- ได้รับคำสั่งศาล จากนั้นนำเอกสารไปธนาคาร เพื่อดำเนินการถอนเงิน
- ใช้เวลาทั้งหมด 1–6 เดือน แล้วแต่กรณี
วิธีง่าย ๆ ที่แม่ ๆ ควรทำ เพื่อให้ลูกเข้าถึงเงินได้ทันที
1. เปิดบัญชีร่วม (Joint Account)
- ข้อดี: คนร่วมบัญชีสามารถถอนเงินได้ แม้เจ้าของอีกคนเสียชีวิต
- ข้อเสีย: มีความเสี่ยง ถ้าอีกฝ่ายไม่ซื่อสัตย์ หรือโดนยึดทรัพย์ บัญชีจะโดนผลกระทบทั้งหมด
2. ทำพินัยกรรม ระบุชื่อผู้รับเงิน
เป็นหลักฐานช่วยให้ศาลพิจารณาคดี ได้ง่ายกว่าการไม่มีพินัยกรรม โดยสามารถทำได้ที่:
- ทนายความ
- สำนักงานเขต
- สำนักงานคุ้มครองสิทธิฯ
เนื้อหาควรระบุ:
- รายชื่อทายาท
- จำนวนเงิน หรือสัดส่วน
- ลายเซ็นและพยาน 2 คน
3. ทำหนังสือมอบอำนาจล่วงหน้า (Power of Attorney)
เหมาะกับการมอบสิทธิ ในการดำเนินการเรื่องการเงินหลังความตาย ต้องระบุชัดเจนว่าเป็น “อำนาจมีผลหลังเสียชีวิต”
4. ซื้อประกันชีวิตไว้ให้ลูก
เงินประกัน ไม่ต้องผ่านศาล และโอนตรงถึงผู้รับผลประโยชน์ทันที เหมาะสำหรับแม่ ๆ ที่อยากให้ลูกมีเงินตั้งตัว

ความเข้าใจผิดที่คนมักมี เกี่ยวกับเงินในบัญชีคนตาย
หลายคนอาจยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่อง “บัญชีธนาคารหลังเจ้าของตาย” ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหายุ่งยากตามมา ลองมาดูว่าเข้าใจผิดเรื่องไหนกันบ้าง?
1. มีบัตร ATM ก็ถอนเงินแทนได้
แม้จะรู้รหัส ATM หรือถือบัตรอยู่ แต่เมื่อเจ้าของบัญชีเสียชีวิตแล้ว การใช้บัตร ATM ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะถือเป็นการเบิกถอน โดยไม่ใช่เจ้าของโดยชอบด้วยกฎหมาย หากธนาคารตรวจสอบเจอ อาจถูกดำเนินคดีอาญา
2. ลูกเป็นทายาทโดยธรรม ถอนเงินได้เลย
ลูกจะเป็นทายาทโดยธรรมก็จริง แต่ การเข้าถึงทรัพย์สิน ต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมาย เช่น คำสั่งศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก หรือพินัยกรรมที่ระบุสิทธิ
3: ถ้ามีทะเบียนสมรส จะจัดการได้ทุกอย่าง
แม้จะเป็นคู่สมรสกัน แต่ถ้าทรัพย์สินเป็นชื่อของอีกฝ่ายโดยเฉพาะ เช่น บัญชีธนาคารที่เป็นชื่อสามี/ภรรยาเพียงคนเดียว คู่สมรสไม่มีสิทธิถอนเงินทันที หลังจากการเสียชีวิต
หากไม่มีพินัยกรรมจริง ๆ ต้องทำยังไง?
แม้แม่ ๆ บางคนจะยังไม่ได้ทำพินัยกรรม หรือไม่ทันได้วางแผนก่อนจากไป กฎหมายก็ยังมีทางออกให้กับครอบครัว ผ่าน “การยื่นศาลขอจัดการมรดก”
เอกสารที่ต้องใช้:
- ใบมรณบัตรของเจ้าของบัญชี
- ทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของทายาท
- ทะเบียนสมรส/สูติบัตรลูก (ถ้ามี)
- รายการทรัพย์สิน เช่น สมุดบัญชี
ขั้นตอน:
- ไปยื่นเรื่องที่ศาลแพ่งหรือศาลจังหวัด
- นัดไต่สวน (อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์)
- หากศาลอนุมัติ จะออกคำสั่งให้
- นำคำสั่งศาลไปยื่นที่ธนาคาร เพื่อขอเบิกเงิน
ข้อควรระวัง: ถ้ามีทายาทหลายคน ต้องมีการ “ตกลงร่วมกัน” ไม่เช่นนั้นอาจกลายเป็นคดีฟ้องร้องระหว่างพี่น้องเอง

ถ้าลูกยังไม่บรรลุนิติภาวะ ใครจะจัดการเงินแทน?
ตามกฎหมายไทย หากลูกอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ จะไม่สามารถจัดการทรัพย์สินได้เอง ต้องมี “ผู้แทนโดยชอบธรรม” ซึ่งก็คือผู้ปกครอง
ทางเลือก:
- ตั้ง “ผู้ดูแลทรัพย์สิน” ผ่านพินัยกรรม
- ระบุเงื่อนไขว่าเด็กจะได้รับเงินเมื่ออายุถึงเกณฑ์
- เปิดบัญชีในชื่อของลูก โดยระบุให้ “ถอนเมื่ออายุครบ 20”
แนะนำ: ถ้าแม่เสียชีวิตแล้วไม่ระบุไว้ ลูกอาจถูกพ่อเลี้ยง/ญาติบางคน จัดการทรัพย์สินแทน และหากไม่โปร่งใส เด็กอาจเสียสิทธิของตัวเองในอนาคต
เตรียมตัวทำพินัยกรรมง่าย ๆ ได้ที่ไหน?
สถานที่แนะนำ:
- สำนักงานเขต: มีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษา ฟรี!
- ทนายความ: ค่าบริการโดยเฉลี่ย 2,000 – 5,000 บาท
- สำนักคุ้มครองสิทธิฯ: ให้บริการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย
เอกสารที่ต้องเตรียม:
- บัตรประชาชน/ทะเบียนบ้าน
- รายการทรัพย์สิน (เช่น เลขบัญชีธนาคาร)
- รายชื่อทายาท
- พยาน 2 คนที่ไม่ใช่ผู้รับผลประโยชน์
ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง แต่ช่วยป้องกันปัญหายาวหลายปี
ถ้าไม่อยากให้ลูกลำบาก ต้องเริ่มทำสิ่งเหล่านี้ตั้งแต่วันนี้
- แบ่งทรัพย์สินล่วงหน้า – แบ่งทรัพย์สินของแม่ให้ลูก ๆ ไปเลย ณ ตอนที่ยังมีสติสัมปัชชัญญะ
- ทำพินัยกรรม – ช่วยกำหนดชัดเจนว่าเงินต้องตกเป็นของใคร
- ตรวจสอบบัญชีร่วม – หากมีบัญชีร่วม ต้องมั่นใจว่าผู้ร่วมบัญชีไว้ใจได้
- พูดคุยกับครอบครัว – เพื่อให้ทุกคนเข้าใจเจตนา และไม่ทะเลาะกัน
- เขียนแผนมรดก – แยกชัดเจนว่าอะไรให้ใคร ลดปัญหาทางกฎหมาย
- สอนลูกเรื่องการเงิน – เพื่อให้เขาจัดการเงินหลังจากเราไปได้
เงินในบัญชีคนตาย คือปัญหาที่มักเกิดโดยไม่ตั้งใจ แต่มีผลกระทบชัดเจน เพราะถ้าเราไม่วางแผนล่วงหน้า คนที่เรารักอาจเข้าถึงเงินไม่ได้เลย ทั้งที่เราหาไว้ด้วยความเหนื่อยยากตลอดชีวิต แม่ ๆ จึงควรเริ่มต้นวางแผนทันที ไม่ว่าจะเป็น ทำพินัยกรรม บัญชีร่วม หรือซื้อประกัน และที่สำคัญคือ สอนลูกให้จัดการทรัพย์สินอย่างมีสติ เพื่อให้ความรักของเรายังปกป้องลูกได้ แม้ในวันที่ไม่มีเราอยู่แล้ว
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ไขข้อสงสัย ตายแล้วมรดกเป็นของใคร ถ้าไม่มีพินัยกรรม ลูกนอกสมรสได้ไหม
ออมเงินให้ลูกธนาคารไหนดี 2568 ดอกเบี้ยเท่าไหร่ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง
ในวันที่เสียพ่อ สอนลูกรับมือกับความสูญเสียยังไง ในวันที่เราก็ต่างสูญเสีย
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!