อันตรายหรือไม่ เมื่อแม่ตั้งครรภ์เกิด "ท้องเสีย"ขึ้นมา?

undefined

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้แม่ตั้งครรภ์ท้องเสีย ที่สำคัญอันตรายขนาดไหน ส่งผลกระทบกับลูกหรือไม่ อยากรู้ต้องอ่าน!

ขอเสียงคุณแม่ที่เคยมีหรือกำลังมีอาการท้องเสียขณะตั้งครรภ์หน่อยค่ะ? คุณแม่ทราบไหมคะว่า เพราะอะไรจู่ ๆ คุณแม่ถึงเกิดอาการท้องเสียขึ้น และที่สำคัญจะส่งผลกระทบอะไรร้ายแรงหรือไม่นั้น ไม่ต้องกังวลไปค่ะ วันนี้เราจะมีคำตอบมาให้ค่ะ

แม่ตั้งครรภ์ ท้องเสีย

ทราบไหมคะว่า อาการท้องเสียขณะตั้งครรภ์นั้น เป็นเรื่องปกติ แต่อาการท้องเสียของคุณแม่ตั้งครรภ์กับบุคคลธรรมดานั้น มีความแตกต่างกันตรงที่ อาการท้องเสียของคนทั่วไปนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากแบคทีเรีย แต่สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นั้น สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ ยกตัวอย่างเช่น

  • ความไวของระบบการทำงานของอวัยวะภายใน ที่ส่งผลให้คุณแม่มีอาการท้องเสีย ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนหน้าที่ยังไม่ได้ท้องนั้น ไม่เคยมีอาการแต่อย่างใด
  • วิตามินบางชนิด ที่ไปส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุกระเพาะอาหาร
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์

อาการท้องเสียมักไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยอย่างอาการท้องผูกในช่วงตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นแค่ช่วงสั้น ๆ เท่านั้น หากคุณแม่มีอาการท้องเสียต่อเนื่องติดต่อกันนานเกินสองถึงสามวัน ให้รีบพบแพทย์ เพราะอาการท้องเสีย สามารถทำให้ร่างกายของคุณแม่ขาดน้ำได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดอีกด้วย 

ดูแลอย่างไร เมื่อมีอาการท้องเสีย

– หลีกเลี่ยงอาหารที่มีความเสี่ยงให้เกิดอาการแย่ลง ยกตัวอย่างเช่น ผลไม้แห้ง (ลูกพรุน) อาหารมันหรือรสจัด นม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณย่อยนมไม่ได้

– ควรรับประทานแต่อาหารอ่อน ๆ เช่น กล้วย ข้าว ซอสแอปเปิ้ล ขนมปัง รวมไปถึงอาหารอื่น ๆ ที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ ดังนี้ แครอทสุก ซุปหรือต้มจืด เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ธัญพืช และมันฝรั่งเป็นต้น

– งดรับประทานเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเชิงเดี่ยวมาก ๆ เช่น น้ำแอปเปิ้ล น้ำองุ่น น้ำอัดลม

ท้องเสียขณะตั้งครรภ์จะส่งผลกระทบกับทารกในครรภ์ได้หรือไม่

อาการท้องเสียนั้น ไม่มีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ค่ะ เพราะเชื้อโรคทั้งหลายอยู่เฉพาะในลำไส้เท่านั้น แต่อาจจะมีผลแค่ทำให้ลูกดิ้นมากผิดปกติเท่านั้นเอง เนื่องจากมดลูกถูกรายล้อมรอบด้วยลำไส้  เมื่อท้องเสีย ลำไส้จะบีบตัวเสียงดังโครกคราก เสียงอาจจะรบกวนการนอนของเจ้าหนูเท่านั้นเอง  แต่ไม่มีอันตรายต่อทารกอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณแม่ควรสังเกตอาการของตัวเองให้ดี หากท้องเสียติดต่อกัน 2-3 วันอาการยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่น ๆ ที่แสดงถึงอาการขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง กระหายน้ำ ปัสสาวะมีสีเข้ม อ่อนเพลีย หน้ามืด เวียนศีรษะ เมื่ออุจจาระมีเลือดปนหรือออกสีดำ มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส มีอาการปวดท้องมาก หรือปวดบริเวณทวารหนัก ควรรีบพบแพทย์โดยทันทีค่ะ

ที่มา: Belly Belly

parenttown

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!