ลูกไม่ยอมพูด เป็นเพราะอะไร จะเป็นเด็กพัฒนาการช้าไหม ทำอย่างไรให้ลูกพูด
ลูกไม่ยอมพูด เป็นเพราะอะไร สาเหตุที่ทำให้ลูกพูดช้ามาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ หรือว่าพัฒนาการของลูกกันแน่ แบบนี้จะรู้ได้อย่างไร วิธีทำให้ลูกพูดต้องทำอย่างไรบ้าง
โดยปกติเด็กมักจะพูดเมื่ออายุระหว่าง 18 – 25 เดือน ซึ่งเด็กจะค่อย ๆ ทำความเข้าใจ และ เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่พ่อแม่ หรือ คนรอบข้างพูดคุยกับเขา ในช่วงแรก ๆ เด็ก ๆ จะมีคำศัพท์จำนวนไม่มาก ทำให้เด็ก ๆ รู้จักการใช้คำได้น้อยมากจึงพูดได้น้อย ซึ่งวิธีการจะทำให้เด็กพูดนั้นต้องอาศัยการฟัง และ การเล่นของเด็กค่ะ แล้วที่ ลูกไม่ยอมพูด เป็นเพราะอะไร เกิดจากอะไร พ่อแม่จะต้องทำอย่างไรดี
ลูกเป็นคนพูดช้าหรือไม่ จะรู้ได้ยังไง
มีนักวิจัยท่านหนึ่งชื่อว่า Elizabeth Peña ได้พบว่า เด็กจะพูดช้าหรือไม่ให้ดูที่จำนวนคำในช่วงอายุของเด็ก คือ เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 18-20 เดือน พวกเขาต้องพูดได้ประมาณ 10 – 20 คำ โดยในแต่ละคำ เด็ก ๆ อาจจะรู้มากกว่า 1 ภาษาก็ได้ค่ะ และเมื่อลูกน้อยอายุได้ราว ๆ 24 เดือน (2 ขวบ) เด็กควรรู้จักคำได้ประมาณ 50 คำ และควรพูดแบบรวมคำตั้งแต่ 2 คำขึ้นไปได้ ถ้าในช่วงวัยนี้เด็กยังพูดเป็นคำ ๆ ได้น้อยแสดงว่าเป็นเด็กพูดช้า
เด็กส่วนใหญ่มักจะเริ่มพูดคำแรกเมื่อลูกน้อยอายุประมาณ 8-15 เดือน ในช่วง 18 เดือน น้องๆ จะมีคลังคำศัพท์ประมาณ 10 คำ ซึ่งพ่อแม่ต้องกระตุ้นให้เขาใช้คำเหล่านั้นออกมาไม่ว่าจะเป็นการพูดซ้ำ ๆ หรือ การถามตอบลูกทั่วไป พอลูกอายุได้ประมาณ 17-20 เดือน ช่วงเวลานี้ เด็ก ๆ จะเรียนรู้คำศัพท์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจะมีคำศัพท์ใหม่เรื่อย ๆ เกือบ 50 คำเลยทีเดียว
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกชอบโกหกและปิดบังความจริง ทำอย่างไรดี ลูกฉันชอบโกหก
ลูก 2 ขวบไม่ยอมพูด ผิดปกติไหม
ลูกไม่ยอมพูด เป็นเพราะอะไร เด็กจะพูดช้าหรือเร็วมักขึ้นอยู่กับพัฒนาการเด็ก ซึ่งมีเด็กประมาณ 15 % ที่มีอายุ 2 ขวบแล้วแต่ยังพูดไม่ได้เลย ดังนั้น ถ้าลูกของคุณอายุครบ 2 ขวบแล้วแต่ยังพูดไม่ได้ก็ยังไม่ต้องกังวลไปค่ะ
สำหรับพ่อแม่บางคนที่สอนลูกสองภาษาไปพร้อมๆ กัน ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าหรือเป็นเพราะสอนลูกสองภาษาหรือเปล่าทำให้เด็กสับสนและไม่ยอมพูด คำตอบคือไม่เกี่ยวค่ะ การที่เด็กพูดได้มากกว่าหนึ่งภาษาไม่ได้ทำให้ลูกพูดได้ช้าลงแต่อย่างใด และไม่ควรนำลูกไปเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่นเนื่องจากเด็กแต่ละคนมีพัฒนาการที่ต่างกัน
ทำไมลูกถึงเป็นเด็กพูดช้า
สำหรับคำถามนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนค่ะ แต่มีการสันนิษฐานว่า พัฒนาการทางภาษาในระยะแรกอาจมีการส่งต่อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง นั่นหมายความว่า หากคนในครอบครัวมีประวัติว่าเคยเป็นเด็กที่พูดช้ามาก่อน ก็อาจทำให้ลูกน้อยมีโอกาสที่พูดช้าตามไปด้วย รวมถึงคุณแม่ที่คลอดก่อนกำหนดก็มีโอกาสด้วยเช่นกัน และมีความเชื่อว่า เด็กผู้ชายมักจะพูดช้ากว่าเด็กผู้หญิง
ลูกไม่ยอมพูดทำอย่างไรดี
หากลูกน้อยของคุณยังไม่ยอมพูด และไม่รู้จะทำอย่างไร มาลองดูวิธีทำให้ลูกพูดกันค่ะ
- อย่ากดดันลูก เด็กเมื่อโดนกดดันมาก ๆ ก็จะยิ่งทำให้เขาเครียด ปล่อยให้ลูกได้พูดเองตามธรรมชาติ
- ตรวจสอบการได้ยินของลูก เด็กบางคนอาจมีปัญหาด้านการได้ยินทำให้ไม่สามารถพูดสื่อสารได้
- สังเกตลูก คุณพ่อคุณแม่อาจใช้เวลาวันละประมาณ 30 นาที เพื่อดูว่าลูกน้อยมีพฤติกรรมอะไร สนใจอะไร เล่นกับอะไรบ้าง ซึ่งพ่อแม่อาจเริ่มพูดคุยกับสิ่งที่ลูกน้อยสนใจ เพราะพัฒนาการที่ดีของเด็กอาจเริ่มจากสิ่งเหล่านี้
- จดบันทึกพัฒนาการของลูก ในระหว่างวันคุณแม่อาจคอยดูว่าวันนี้ลูกมีการสื่อสารอย่างไร มีการพูดอ้อแอ้ไหม มีการออกเสียงอย่างไร เพื่อที่เวลาไปพบคุณหมอจะได้นำไปปรึกษาคุณหมอได้ค่ะ
- อ่านหนังสือด้วยกัน คุณพ่อคุณแม่อาจเลือกหนังสือที่มีตัวหนังสือน้อยๆ รูปภาพสีสันสดใสที่สามารถอธิบายคำ ๆ นั้นได้ เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ และ คอมมูนิตี้อันดับหนึ่งที่คุณแม่เลือก นอกจากสาระความรู้ที่เรามอบให้คุณแม่ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ การวางแผนมีลูกแล้ว เรายังมีแอพพลิเคชั่น รวมถึงสื่อมัลติมีเดียหลากหลายที่ช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณแม่ยุคใหม่ ที่ต้องทำงาน และ ดูแลลูกไปพร้อมกัน ให้มีความมั่นใจ และ พร้อมในการดูแลลูกทุกช่วงเวลา ตั้งแต่การให้นมบุตร การดูแลตนเองหลังคลอด ท่าออกกำลังกายหลังคลอด เพื่อให้หุ่นของแม่หลังคลอดกลับมาฟิตแอนเฟิร์มอีกครั้ง The Asianparent Thailand ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนคุณพ่อคุณแม่ในเรื่องการดูแลลูก ความรู้แม่ และ เด็กที่เต็มเปี่ยม และตอบทุกข้อสงสัยในแอพพลิเคชั่นที่เป็นสื่อกลาง และ กิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวไทย
บทความที่น่าสนใจ
เรื่องที่แม่ต้องสอนลูก การเลี้ยงลูกที่ดี วิธีการสอนลูก เลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี
หยุดเปรียบเทียบลูก ถ้าไม่อยากให้ลูกกลายเป็นเด็กดื้อต่อต้าน-ขี้อิจฉา
5 วิธีสอนลูกไม่ให้ก้าวร้าว ดื้อด้าน เอาแต่ใจ พ่อแม่ต้องทำยังให้ลูกเป็นเด็กดี มีมารยาท
ที่มาข้อมูล : 1
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
