S-26 Progress GOLD นมผงคุณภาพระดับพรีเมี่ยมสำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป จับมือสวนดุสิตโพลทำการสำรวจความคิดเห็นเด็กปฐมวัย พบว่าเด็กไทยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีแนวโน้มกล้าถามมากขึ้นเมื่อเกิดความสงสัย เป็นสัญญาณที่ดีต่อการพัฒนาต่อยอด เพราะไทยแลนด์ 4.0 คือยุคเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (Value-Based Economy) การที่เด็กช่างถามแสดงถึงสมองที่มีการพัฒนาและการเรียนรู้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการค้นพบสิ่งใหม่หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ได้ ผู้ใหญ่ พ่อแม่ และครูเป็นบุคคลสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กรู้จักถาม ในการรับมือเด็กช่างถามอย่างเหมาะสม สร้างพื้นที่ให้เด็กกล้าถาม และกระตุ้นให้เด็กต่อยอดการเรียนรู้ผ่านการถาม
นางสาวสภาพร กังวานเวชกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจผลิตภัณฑ์นมผงคุณภาพระดับพรีเมี่ยม S-26 Progress GOLD กล่าวว่า “เป็นครั้งแรกที่ S-26 Progress GOLD ร่วมมือกับสวนดุสิตโพลผลักดันให้ประเด็นนี้เป็นที่สนใจในวงกว้าง ซึ่งในอนาคตอาจจะมีแผนขยายการสำรวจในระดับประเทศอีกด้วย ในปีนี้ทางแบรนด์ยกทัพกิจกรรม “Spark to Ask ยิ่งถามยิ่งค้นพบสิ่งใหม่” แจกคู่มือ “เคล็ดลับสร้างเด็กช่างถาม” 1,000 โรงเรียนทั่วประเทศ และเรายังได้เชิญวิทยากรครูยุคใหม่ มาร่วมรณรงค์กระตุ้นให้พ่อแม่และครูตระหนักถึงความสำคัญของการตั้งคำถามของเด็กไทย”
นางสาวสภาพร กังวานเวชกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจผลิตภัณฑ์นมผงคุณภาพระดับพรีเมี่ยม S-26 Progress GOLD
ผลสำรวจมุมมองของเด็กด้วยการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวในครั้งนี้ ดำเนินการโดยสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ภายใต้การสนับสนุนของ S-26 Progress GOLD สุ่มตัวอย่างเด็กปฐมวัยอายุ 5-9 ปี กว่า 452 คน ในโรงเรียนเอกชนและรัฐบาลทั่วกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล ระหว่างวันที่ 20 กุมภาพันธ์ – 10 มีนาคม ที่ผ่านมา
ประเด็นที่น่าสนใจจากผลสำรวจ มีดังนี้:
• เมื่อเกิดความสงสัยอยากรู้ เด็กกล้าถามผู้ใหญ่ถึง 75.66%
• สาเหตุที่เด็กไม่กล้าถาม เพราะกลัวโดนดุ (42.86%) รองลงมาคือ เขินอาย (38.10%) และ ไม่รู้จะถามอย่างไร ถามไม่ถูก ไม่เคยถามมาก่อน และกลัวโดนล้อ (11.5%)
• เด็กส่วนใหญ่ชอบถามพ่อแม่มากกว่าคุณครู มีเด็กเพียงแค่ 1 ใน 6 คน (16.37%) ที่ชอบถามคุณครู ทั้งที่เด็กใช้เวลาส่วนมากอยู่ที่โรงเรียน
ผู้ใหญ่สามารถมีส่วนช่วยในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้เด็กสบายใจที่จะถามคำถามและต่อยอดการเรียนรู้ได้ ณัฏฐนี สุขปรีดี หรือ ครูพิม นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก ให้ความเห็นว่า “ต้องทำความเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของการถามของเด็กก่อน บางครั้งเด็กแค่ต้องการการตอบสนอง ไม่ได้อยากรู้ข้อมูลจริงๆ สิ่งที่ผู้ใหญ่จะทำได้ คือ เพิ่มความสนใจ ชม มอง ยิ้มให้ กระตุ้นให้ถามต่อเพื่อให้เด็กเกิดความสงสัยและอยากเรียนรู้ ค้นหาคำตอบด้วยตนเองมากขึ้น หรือพาไปสัมผัสประสบการณ์จริง เป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์กับเด็ก อีกหนึ่งปัญหาสำคัญของเด็กคือ ถามเป็นแต่ไม่กล้าถามที่โรงเรียนเพราะกลัวครูว่า กลัวเพื่อนล้อ สภาพแวดล้อมในห้องเรียนและคุณครูจึงมีอิทธิพลกับเด็กมาก เนื่องจากเด็กเป็นหนึ่งของสังคมโรงเรียนและเพื่อน”
ณัฏฐนี สุขปรีดี หรือ ครูพิม นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก
แพทย์หญิงธิศรา วีรสมัย สูติ-นรีแพทย์ โรงพยาบาลพญาไท 1 ปิดท้ายว่า “นอกเหนือจากการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการถามคำถามเพื่อต่อยอดสิ่งใหม่ๆ ให้ลูกแล้ว พ่อแม่ควรดูแลโภชนาการให้ครบ 5 หมู่ และเสริมด้วยสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์ รวมทั้ง ดีเอชเอ โคลีน ลูทีน และแอลฟา-แล็คตัลบูมิน ซึ่งเป็นโปรตีนคุณภาพ พบในน้ำนมแม่ ย่อยง่าย และให้กรดอะมิโนจำเป็นชื่อ ทริปโตเฟน เพื่อการพัฒนาสมองอย่างมีประสิทธิภาพ”
แพทย์หญิงธิศรา วีรสมัย สูติ-นรีแพทย์ โรงพยาบาลพญาไท 1
กิจกรรม “Spark to Ask ยิ่งถามยิ่งค้นพบสิ่งใหม่” พร้อมนำทัพคุณแม่ทาทา ยัง และคุณครูยุคใหม่ ได้แก่ ครูลูกกอล์ฟ ครูเบเบ้ และครูอดัมส์ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมเด็ก รณรงค์กระตุ้นให้พ่อแม่และครู ช่วยกันจุดประกายให้เด็กไทย Spark คำถามสร้างพลังเปลี่ยนโลกทั่วไทย 1,000 โรงเรียน ติดต่อขอรับคู่มือ “เคล็ดลับสร้างเด็กช่างถาม” หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทาง S-26 Progress GOLD ได้ที่ www.s-momclub.com หรือ โทร 02-640-2288
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ:
กัญญา เกื้อเกษมบุญ ทอแสง ช่วงโชติ
ธุรกิจไวเอท นิวทริชั่น บริษัท เฟลชแมน ฮิลลาร์ด ประเทศไทย
โทร. +662 657 8516 โทร. +662 207 2489
อีเมล์: [email protected] อีเมล์: [email protected]
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!