ข่าวดี!! เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร จาก 800 บาท เป็น 1,000 บาท

ข่าวดี!! เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร จาก 800 บาท เป็น 1,000 บาท เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ทาง คณะกรรมการประกันสังคม ครั้งที่ 11/2567 โดยที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ทั้ง 3 ฝ่าย ทั้งนายจ้าง ผู้ประกันตน และหน่วยงานรัฐ ให้ปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร อายุ 0-6 ปี ของผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 จาก เดิม 800 บาทต่อเดือน เป็น 1,000 ต่อเดือน

รศ.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน คณะกรรมการประกันสังคม เปิดเผยว่า มติดังกล่าวเตรียมประกาศใช้ในช่วงเดือน มกราคม 2568 โดยหลังจากนี้ จะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานนำเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อรับทราบ ก่อนจะประกาศขอกฤษฎีกา เพื่อแก้ไขในประกาศกระทรวงแรงงาน โดยจะมีเด็กที่เข้าเกณฑ์ได้รับเงินดังกล่าวประมาณ 1 ล้าน 2 แสนคน

สำหรับการปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรของประกันสังคม มีการปรับเพิ่มไปเมื่อเดือน เมษายน 2564 จาก 600 บาท เพิ่มเป็น 800 บาท ซึ่งการปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์ครั้งนี้ ได้ผ่านการพิจารณาจากหลายภาคส่วน พร้อมกับการศึกษาวิจัย ซึ่งจะไม่กระทบกับเงินกองทุนประกันสังคม

กรรมการผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน คณะกรรมการประกันสังคม เปิดเผยเพิ่มเติมว่า อาจยังไม่สามารถกระตุ้นความต้องการมีบุตรของประชาชนได้อย่างชัดเจน เนื่องจากการศึกษา พบว่า ประเทศที่มีสวัสดิการดี ก็ยังมีจำนวนการเกิดของเด็กลดลง แต่คาดหวังว่า จะช่วยส่งเสริมการเลี้ยงดูบุตรของแรงงานที่มีคุณภาพเพิ่มยิ่งขึ้น

ขอขอบคุณที่มา : thaipbs.or.th

เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร เป็น 1,000 บาท ถือเป็นข่าวดี

การปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรในครั้งนี้ ถือเป็นข่าวดีที่สร้างความยินดีให้กับผู้ประกันตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการเพิ่มสวัสดิการที่สำคัญในการดูแลบุตรหลานให้เติบโตอย่างแข็งแรง โดยเงินจำนวนนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรได้มากขึ้น

สิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นนี้ ครอบคลุมถึงผู้ประกันตนทั้งมาตรา 33 และมาตรา 39 ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกันตนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเป็นการสนับสนุนให้ครอบครัวมีกำลังในการเลี้ยงดูบุตรอย่างเหมาะสม

ข่าวดี!! เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร จาก 800 บาท เป็น 1,000 บาท

เงินสงเคราะห์บุตรคืออะไร ?

เงินสงเคราะห์บุตร คือ สิทธิประโยชน์ที่รัฐบาลมอบให้แก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร โดยจะจ่ายเป็นเงินให้กับผู้ประกันตนเป็นรายเดือน ตั้งแต่บุตรแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปีบริบูรณ์

ใครบ้างที่ได้รับเงินสงเคราะห์บุตร ?

  • ผู้ประกันตนมาตรา 33: คือ ลูกจ้างประจำทั่วไป
  • ผู้ประกันตนมาตรา 39: คือ ผู้ประกันตนภาคสมัครใจ
  • ผู้ประกันตนมาตรา 40: คือ ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม (ทางเลือกที่ 3)

เงื่อนไขในการรับเงินสงเคราะห์บุตร

  • ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย
  • อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์
  • ผู้ประกันตนต้องมีการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมอย่างต่อเนื่อง

ทำไมต้องมีเงินสงเคราะห์บุตร?

  • ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย: ช่วยให้พ่อแม่ผู้ประกันตนมีเงินทุนในการเลี้ยงดูบุตรมากขึ้น
  • ส่งเสริมให้มีบุตร: กระตุ้นให้ประชาชนมีบุตรมากขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนประชากรและกำลังแรงงานในอนาคต
  • ยกระดับคุณภาพชีวิต: ช่วยให้เด็กได้รับการดูแลที่ดี มีโอกาสทางการศึกษา และเติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติ

ข่าวดี!! เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร จาก 800 บาท เป็น 1,000 บาท

วิธีขอรับเงินสงเคราะห์บุตร

เงินสงเคราะห์บุตร เป็นสิทธิประโยชน์ดี ๆ ที่รัฐบาลมอบให้แก่ผู้ประกันตน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงลูกน้อย หากคุณเป็นผู้ประกันตน และมีบุตรอายุต่ำกว่า 6 ปี สามารถขอรับเงินสงเคราะห์บุตรได้ง่าย ๆ ดังนี้

ขั้นตอนการขอรับ

  1. ตรวจสอบคุณสมบัติ: ตรวจสอบว่าตนเองมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนด เช่น เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือ 39 มีบุตรอายุไม่เกิน 6 ปี เป็นต้น
  2. เตรียมเอกสาร: เตรียมเอกสารให้พร้อม เช่น บัตรประชาชน สูติบัตรของบุตร สมุดบัญชีธนาคาร เป็นต้น (รายละเอียดเอกสารอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละสาขา)
  3. ยื่นเอกสาร:
    • ยื่นผ่านระบบออนไลน์: สะดวก รวดเร็ว สามารถทำได้ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม (www.sso.go.th) เลือกเมนู “บริการด้วยตนเองผ่านระบบ e-Self Service”
    • ยื่นด้วยตนเอง: นำเอกสารที่เตรียมไว้ไปยื่นที่สำนักงานประกันสังคมใกล้บ้าน

ถ้าไม่เคยขอเงินสงเคราะห์บุตรมาก่อน จะขอย้อนหลังได้ไหม

การขอเงินสงเคราะห์บุตรย้อนหลังนั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนดโดยสำนักงานประกันสังคม โดยทั่วไปแล้ว หากคุณเป็นผู้ประกันตนที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และบุตรยังมีอายุไม่เกิน 6 ปี คุณอาจมีสิทธิ์ขอรับเงินสงเคราะห์บุตรย้อนหลังได้ แต่จะมีระยะเวลาย้อนหลังที่กำหนด เช่น อาจจะย้อนหลังได้ไม่เกิน 1 หรือ 2 ปี

สิ่งที่คุณควรทำ:

  1. ตรวจสอบเงื่อนไข: ติดต่อสำนักงานประกันสังคมที่คุณสังกัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขการขอรับเงินสงเคราะห์บุตรย้อนหลังในปัจจุบันให้ชัดเจน เพราะเงื่อนไขอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
  2. เตรียมเอกสาร: เตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น บัตรประชาชน สูติบัตรของบุตร สมุดบัญชีธนาคาร และเอกสารอื่นๆ ที่ทางสำนักงานประกันสังคมกำหนด
  3. ยื่นคำขอ: นำเอกสารที่เตรียมไว้ไปยื่นที่สำนักงานประกันสังคมใกล้บ้าน เพื่อดำเนินการขอรับเงินสงเคราะห์บุตรย้อนหลัง

เหตุผลที่คุณอาจขอรับเงินสงเคราะห์บุตรย้อนหลังไม่ได้:

  • เกินระยะเวลาย้อนหลัง: หากคุณเกินระยะเวลาย้อนหลังที่กำหนด คุณอาจจะขอรับเงินสงเคราะห์บุตรย้อนหลังไม่ได้
  • ไม่ครบตามเงื่อนไข: หากคุณไม่ครบตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น ไม่ได้เป็นผู้ประกันตนอย่างต่อเนื่อง หรือบุตรอายุเกิน 6 ปีแล้ว คุณก็จะขอรับเงินสงเคราะห์บุตรย้อนหลังไม่ได้

คำแนะนำ:

  • สอบถามข้อมูลให้ละเอียด: ก่อนตัดสินใจยื่นขอรับเงินสงเคราะห์บุตรย้อนหลัง ควรสอบถามข้อมูลให้ละเอียดจากเจ้าหน้าที่ประจำสาขา เพื่อความถูกต้องและเข้าใจขั้นตอนต่างๆ
  • เตรียมเอกสารให้พร้อม: การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้อง จะช่วยให้การดำเนินการเป็นไปอย่างรวดเร็ว
  • ติดตามผล: หลังจากยื่นคำขอแล้ว ควรติดตามผลการพิจารณาจากสำนักงานประกันสังคมเป็นระยะ

การปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ดีของรัฐบาลที่ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้มีบุตร และส่งเสริมให้ครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่สำนักงานประกันสังคมใกล้บ้าน

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

เช็คเงินสงเคราะห์บุตร ปี 2567 เข้าตอนไหน เช็คได้ยังไง ?

เงินประกันสังคมกรณีคลอดบุตร และ เงินสงเคราะห์บุตร ยื่นอย่างไร ให้ได้เงิน

เช็กเงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคม 2567 ใครมีสิทธิ์ได้รับบ้าง เช็กเลย

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!