ภาวะตัวเย็นเกินในเด็ก
ภาวะตัวเย็นเกินในเด็ก มักจะเกิดกับทารกในช่วงที่อากาศเริ่มมีความหนาว เย็นอาจส่งผลให้เกิดความเจ็บป่วยจาก “ภาวะตัวเย็นเกิน” (Hypothermia) ได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มทารก และเด็กเล็ก ซึ่งภาวะนี้เป็นภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิลดต่ำกว่าปกติ คือต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส อันจะส่งผลกระทบให้อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายทำหน้าที่ไม่ได้ตามปกติ เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรง เป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้
อุณหภูมิร่างกาย 35 ลูก ตัว เย็น
ภาวะตัวเย็นเกินในเด็กเกิดจากอะไรได้บ้าง ?
สาเหตุหลักของภาวะนี้ในเด็กมักเกิดจากการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สัมผัสกับอากาศหนาวเย็น เช่น อยู่ในบริเวณภูมิประเทศที่หนาว หรือ แช่อยู่ในน้ำเย็นจัด
นอกจากนี้ อาจเกิดจากความเจ็บป่วยรุนแรง หรือเกิดจากอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางขนส่ง หรือ การได้รับสารพิษ หรือยาบางชนิดก็ได้
อาการของภาวะตัวเย็นเกินมีอะไรบ้าง ?
อาการของภาวะตัวเย็นเกินจะมี 3 ระดับ ขึ้นอยู่กับระดับอุณหภูมิของร่างกายที่ลดต่ำลงดังนี้
- อาการไม่รุนแรง: อุณหภูมิของร่างกายอยู่ในช่วง 32 – 35 องศาเซลเซียส ผู้ป่วยจะมีอาการสั่น ขนลุก ดูซีด ปลายมือปลายเท้าเขียว
- อาการรุนแรงปานกลาง: อุณหภูมิร่างกายอยู่ในช่วง 28 – 32 องศาเซลเซียส ผู้ป่วยจะมีอาการพูดไม่ชัด มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ งุ่มง่าม การคิดช้าลง อ่อนเพลีย ง่วงซึม หงุดหงิด สับสน
- อาการรุนแรงมาก: อุณหภูมิของร่างกายน้อยกว่า 28 องศาเซลเซียส ผู้ป่วยจะมีการหายใจช้าลง หัวใจเต้นช้าลง และความดันลดต่ำลง ทำให้อาจจะคลำชีพจรไม่ได้ และอาจมีภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ตัวแข็งเกร็ง ม่านตาขยาย
ซึ่งหากผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมาก ๆ ก็อาจทำให้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เนื่องจากระบบ ไหลเวียนโลหิตระบบการหายใจของร่างกายจะมีการทำงานลดลงจนถึงขั้นหยุดทำงานได้ โดยในเด็กเล็กกลไกการทำงานของร่างกายในการผลิตความร้อน เมื่อเกิดภาวะตัวเย็นเกินนั้น จะยังไม่ดีเท่ากับผู้ใหญ่ อีกทั้งการสะสมพลังงาน เพื่อการสร้างความร้อนภายในร่างกาย ก็ไม่ดีเท่ากับผู้ใหญ่เช่นกัน จึงอาจเกิดอันตรายจากภาวะตัวเย็นเกินนี้ได้มากกว่าผู้ใหญ่
**ทั้งนี้ในทารก และเด็กเล็กจะไม่สามารถอธิบายอาการผิดปกติที่เกิด ขึ้นจากภาวะตัวเย็นเกินได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรสังเกตอาการของภาวะนี้ เมื่อสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กอยู่ในสภาวะอากาศหนาวเย็น โดยสังเกตว่า ลูกมีอาการต่าง ๆ ดังกล่าวต่อไปนี้หรือไม่ ได้แก่ ดูซึมผิดปกติ ไม่ค่อยดูดนม อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ขยับแขนขาน้อยลง ผิวหนังบริเวณลำตัว และแขนขา หน้าท้องเย็น มีการหายใจที่ผิดปกติหรือหยุดหายใจเป็นพัก ๆ
อุณหภูมิร่างกาย 35 ลูก ตัว เย็น
การรักษาภาวะตัวเย็นเกินทำได้อย่างไร?
ผู้ป่วยที่มีภาวะตัวเย็นเกินจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงมากขึ้น จนกระทั่งถึงแก่ชีวิต ดังนั้นหากพบผู้ป่วยมีภาวะตัวเย็นเกิน ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลด่วน โดยอาจให้การปฐมพยาบาล เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้นดังนี้
- ให้ผู้ป่วยเข้าไปอยู่ในบริเวณที่อบอุ่นไม่มีลมพัดเข้า โดยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างเบามือที่สุด
- หากเสื้อผ้าของผู้ป่วยเปียก เช่น กรณีผู้ป่วยตัวเย็นหลังจากอุบัติเหตุทางน้ำ ควรเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่แห้งแทน
- ห่อหุ้มร่างกายผู้ป่วยด้วยผ้าห่มหรือผ้าที่หนา ๆ เพื่อเพิ่มความอบอุ่น
- ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำ หรือเครื่องดื่มอุ่นๆหากยังรู้สึกตัว
- สังเกตการหายใจของผู้ป่วย เพราะหากผู้ป่วยมีภาวะตัวเย็นเกินที่รุนแรงมากอาจจะทำให้หยุดหายใจชีพจรหยุดเต้นหรือหมดสติได้ซึ่งหากมีอาการดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือโดยการปั๊มหัวใจ
เพื่อป้องกันการเกิดภาวะตัวเย็นเกินทั้งเด็กและผู้ใหญ่ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีอากาศหนาวเย็นเป็นเวลานานโดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ควรระมัดระวังหลีกเลี่ยงอากาศเย็น หากจำเป็นต้องอยู่ในบริเวณดังกล่าวควรใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิด และอบอุ่นเพียงพอ ใส่ถุงมือ ถุงเท้า ในเวลากลางคืนควรห่มผ้าห่มหรือผ้านวมหนา ๆ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมทุกชนิด
ผู้ที่มีภาวะตัวเย็นเกินหากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีอาจนำมาซึ่งการเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็วแต่หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้องแล้วก็มีโอกาสจะรอดชีวิตได้สูง ดังนั้น การวินิจฉัยและการให้การดูแลรักษาที่ถูกต้องรวดเร็วจึงมีความสำคัญมากค่ะ
อุณหภูมิร่างกาย 35 ลูก ตัว เย็น
อ้างอิง : www.healthline.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
เด็กป่วยหน้าฝน RSV ไข้หวัดใหญ่ เฮอร์แปงไจน่า โรคหน้าฝนที่ทารกเด็กเล็กต้องระวัง
20 วิธีง่ายๆ ที่ทำให้สนิทกับลูกน้อยแรกเกิดได้เร็วขึ้น ตีสนิทกับลูกตอนเป็นทารก
ทำไมทารกชอบดูดนิ้ว ลูกจะเลิกดูดนิ้วเองไหม มีวิธีไหนทำให้ลูกเลิกดูดนิ้วบ้าง
คำคมความรัก รวม 100 คำคม 100 แคปชั่นความรัก อ่านมากๆ ไม่อ้วก ก็อิน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!