วิธีคุยเรื่องเพศกับลูก คุยเรื่องเพศ เพศศึกษา และเพศสัมพันธ์
เรื่องเพศศึกษามักเป็นประเด็นที่ครอบครัวส่วนใหญ่พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยกับลูก เมื่อคุณมีลูกคุณคงเลือกที่จะคุยกับลูกเมื่อลูกโต แต่จริง ๆ แล้วการคุยกับลูกเรื่องเพศศึกษาตั้งแต่เด็กนั้นมีความสำคัญมากทีเดียว
เรื่องเพศศึกษามักเป็นประเด็นที่ครอบครัวส่วนใหญ่พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยกับลูก จริง ๆ แล้วการเลือก วิธีคุยเรื่องเพศกับลูก มีความสำคัญมากทีเดียว
วิธีคุยเรื่องเพศกับลูก ควรสอนลูกอย่างไร?
วิธีคุยเรื่องเพศกับลูก
การคุยกับลูก เรื่องเพศศึกษา ช่วยให้ลูกเข้าใจเรื่องเพศในทางที่ถูกต้อง และ รู้จักการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย คุณควรมีการสอดแทรกคุณธรรม และ หลักการเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ตามแบบที่คุณอยากให้เป็นไปด้วย นอกจากนี้ ลูกควรจะรู้ถึงผลที่ตามมา จากการมีเพศสัมพันธ์ด้วย เช่น การตั้งท้อง โรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ ตลอดจนถึง ความเสียใจที่เกิดจาก ความรัก และ การมีเพศสัมพันธ์ แต่ พ่อแม่ต้องมี วิธีคุยเรื่องเพศกับลูก อย่างถูกวิธี
จากการศึกษา พบว่า เด็กที่พูดคุยกับผู้ปกครอง เรื่องเพศศึกษา และ การมีเพศสัมพันธ์มีแนวโน้มจะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกช้ากว่าเด็กที่ไม่เคยพูดคุยเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ และ เพศศึกษากับทางบ้านเลย
แล้วเรา ควรเริ่มจากตรงไหน
กว่าเราจะสอนอะไรลูกได้เราก็ต้องค่อย ๆ ให้ข้อมูลแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง และ ควรเริ่มสอนเรื่องเพศศึกษา ตั้งแต่เด็ก เช่น เวลาเราสอนลูกเรื่องอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น นิ้วมือ นิ้วเท้า ตลอดจน หน้าที่ของของอวัยวะต่าง ๆ ทีนี้เราก็รวมอวัยวะเพศเข้าไปด้วย
พอลูกโตขึ้นคุณก็ค่อย ๆ สอดแทรกข้อมูลเกี่ยวกับ เพศศึกษาเพิ่มขึ้น การพูดคุยเรื่องเพศศึกษาอย่างต่อเนื่อง กับลูก นับว่าเป็นการสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างคุณและลูก พอลูกเข้าสู่วัยรุ่นลูกก็จะไม่อายที่จะพูดคุยเรื่องนี้กับคุณ
คอยดูจังหวะว่าช่วงไหน เป็นช่วงที่คุณสามารถพูดคุยกับลูกได้
เช่น แม่ของเพื่อนลูกสาวคุณกำลังท้อง คุณก็สามาถสอดแทรกข้อมูลได้ เช่น “ลูกสังเกตไหมว่าท้องของแม่น้องบีใหญ่ขึ้นแล้วก็ใหญ่ขึ้น? ลูกรู้ไหมว่าแม่น้องบีกำลังท้องอยู่ ในท้องของแม่น้องบีกำลังมีเด็กอยู่ในท้อง แล้วลูกรู้ไหมว่าเด็กเข้าไปอยู่ในท้องได้อย่างไร” จากนั้น ลูกก็จะเริ่มถามคำถามต่อมาเรื่อย ๆ นั่นเอง
ให้ข้อมูลเรื่องเพศศึกษา ที่เหมาะสมกับวัยของลูก
เวลาคุยเรื่องเพศศึกษา ควรดูอายุ และ ความเหมาะสมของลูก เช่น ถ้าลูกวัย 5 ขวบถามคุณว่า “ทำไมร่างกายของเด็กผู้หญิง และ เด็กผู้ชายถึงไม่เหมือนกัน” คุณอาจจะตอบว่า “ร่างกายเรามีสารพิเศษที่เรียกว่า ฮอร์โมน ซึ่งเป็นตัวกำหนดให้เป็นเด็กผู้หญิง หรือ เด็กผู้ชาย” เด็กผู้ชายจะมีองคชาติ และ ลูกอัณฑะ พอโตขึ้นเสียงผู้ชายจะทุ้มลง และ ไหล่จะขยายกว้างขึ้น ส่วนผู้หญิงจะมีอวัยวะเพศหญิง เมื่อโตขึ้นหน้าอก จะขยาย และ สะโพกจะผาย
คอยบอกพัฒนาการของร่างกายให้ลูกรู้ล่วงหน้า
เด็กมักกลัวและสับสนที่ร่างกายเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น คุณสามารถสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการของร่างกายในแต่ละช่วง เด็กอายุ 7 ขวบ ก็เข้าใจเรื่องประจำเดือนได้แล้ว ส่วนเด็กผู้ชายก็สามารถเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของร่างกายช่วงวัยรุ่นได้
บอกลูกเรื่องศีลธรรมกับการมีเพศสัมพันธ์
เรื่องนี้เป็นเรื่องค่อนข้างสำคัญ เพราะ เป็นการสอดแทรกทัศนคติของคุณ ต่อเรื่องศีลธรรม และ การมีเพศสัมพันธ์ แม้ว่าเมื่อลูกโตขึ้น ลูกอาจจะไม่ทำตามแบบอย่าง และ ทัศนคติที่คุณปูทางเอาไว้ แต่ระหว่างที่ลูกกำลังค้นหาแนวทางของตนเอง ลูกจะนึกถึงคำพูดของคุณ
เลือกใช้คำศัพท์ปกติเวลาพูดกับลูกเรื่องเพศศึกษา
เวลาที่คุณคุยกับลูกไม่ควรใช้คำแสลง หรือ ตั้งชื่อเล่นให้กับอวัยวะเพศ เช่น ของลับ เพราะ หากคุณใช้คำปกติลูกจะคิดว่า นี่เป็นเรื่องปกติ เวลาโตขึ้นจะไม่รู้สึกเขินอายเวลาพูด
ไม่ต้องเครียด
ไม่ต้องห่วงนะคะ หากคุณไม่สามารถตอบคำถามลูกได้ทุกคำถาม จริง ๆ แล้วสิ่งที่คุณรู้ไม่สำคัญเท่ากับ วิธีการโต้ตอบของคุณ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ พยายามเปิดโอกาสให้ลูกรู้ว่า เขาสามารถพูดคุยกับคุณได้ทุกเรื่อง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ถ้าเจอลูกดูหนังโป๊ต้องทำยังไงดี วิธีรับมือกับลูกง่าย ๆ ที่คุณแม่ทำได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
70 ประโยคภาษาอังกฤษคุยกับลูก จำง่าย ๆ ใช้ในชีวิตประจำวัน ให้ลูกเก่งภาษาได้ไม่ยาก
Finding Nemo การ์ตูนที่ให้ความสนุก พร้อมกับข้อคิด สอนลูกไปพร้อม ๆ กับการ์ตูน
ลูกชอบเพศเดียวกัน ถ้าลูกมาบอกว่า ชอบเพศเดียวกัน พ่อแม่ควรรับมืออย่างไร?