วิธีแก้อาการแพ้ท้อง แม่ตั้งครรภ์แพ้ท้องหนักมาก แก้อาการแพ้ท้องอย่างไร ?

แพ้ท้อง เป็นอาการหนึ่งที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ที่กำลังอยู่ในช่วงของการตั้งครรภ์ในไตรมาสที่ 1 ถึงการตั้งครรภ์ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งคุณแม่แต่ละท่านก็มีอาการแตกต่างกันออกไป นอกจากนี้คุณแม่บางท่านอาจไม่มีอาการแพ้ท้องได้อีกด้วย ซึ่งแต่ละครั้งที่มีอาการแพ้ท้องนั้นจะทำให้คุณแม่รู้สึกทรมานเป็นอย่างมาก เรามาดูกันดีกว่า หากคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นมีอาหารแพ้ท้อง จะต้องทำอย่างไรบ้างกับ วิธีแก้อาการแพ้ท้อง แม่ตั้งครรภ์แพ้ท้องหนักมาก แก้อาการแพ้ท้อง มีวิธีแก้อย่างไร?

 

อาการแพ้ท้อง คืออะไร ?

อาการแพ้ท้อง คือ หนึ่งในสัญญาณเตือนว่ากำลังตั้งครรภ์ ว่าที่คุณแม่จะรู้สึกอึดอัด เวียนศีรษะ คลื่นไส้ จนทำให้อาเจียน โดยเฉพาะตอนเช้าที่คุณแม่ท้องจะมีอาการค่อนข้างทรมานในช่วง 3 เดือนแรก แต่ทั้งนี้การแพ้ท้องของแต่ละคนจะแตกต่างกัน บางคนเป็นแค่ไตรมาสแรก บางคนมีอาการดังกล่าวไปตลอดการตั้งครรภ์เลยทีเดียว โดยอาการแพ้ท้องมักจะเริ่มขึ้นเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ 5-6 สัปดาห์ เริ่มจากอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเวียนหัว แต่ก็มีคุณแม่จำนวนมากกว่า 90% ที่กว่าจะมีอาการแพ้ท้องก็สัปดาห์ที่ 8 แล้วค่ะ ส่วนคุณแม่อีกประมาณ 20-30% จะได้มีอาการแพ้ท้องแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นคุณแม่บางท่านที่ตั้งครรภ์ได้หลายเดือนแล้วแต่ไม่มีอาการแพ้ท้องก็ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใดนะคะ

 

คนท้องแพ้ท้องนานแค่ไหน

อาการแพ้ท้องของคนท้องมักจะเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 6 ขึ้นไปแล้วจะค่อย ๆ บรรเทาอาการลงหลังจากสัปดาห์ที่ 10 หรืออาจช่วงสัปดาห์ที่ 12-16 และจะแพ้ท้องหนักมากในช่วงสัปดาห์ที่ 7 – 9 ค่ะและไปสิ้นสุดช่วง 20 สัปดาห์ก็ที แต่ก็ยังมีคุณแม่บางท่านที่แพ้ท้องนานกว่านั้นค่ะ และยังมีคุณแม่อีกประมาณ 10% ที่อาการแพ้ท้องหนักมาเมื่อตั้งครรภ์ได้ประมาณ 9 สัปดาห์ค่ะ หลายคนเชื่อกันว่าอาการคลื่นไส้ อาเจียนของคุณท้อง บ้างบอกว่าเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ที่ดีของคุณแม่ค่ะ โดยอาการแพ้ท้องมากหรือน้อยของคุณแม่นั้น อาจมีสาเหตุมาจากแนวโน้มการตั้งครรภ์ในแต่ละครั้ง หากคุณแม่ท้องสองหรือท้องสามจะมีแนวโน้มว่ามีอาการแพ้ท้องที่รุนแรงกว่า และเรื่องของเชื้อชาติที่เชื่อกันว่าผู้หญิงผิวขาวจะมีแนวโน้มที่มีอาการแพ้ท้องหลังจากตั้งครรภ์ไตรมาสแรกไปแล้ว

 

 

สาเหตุของ อาการแพ้ท้อง คืออะไร

นักวิทยาศาสตร์หลายท่านพยายามหาสาเหตุจริง ๆ ของอาการแพ้ท้องว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งหลายคนก็บอกว่าเกิดจากระดับฮอร์โมนเอชซีจี (HCG) เนื่องจากฮอร์โมนชนิดนี้มักจะเพิ่มขึ้นสูงมากในช่วง 2 – 3 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ และจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 8 – 10 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มีอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงค่ะ และยิ่งคุณแม่ท้องแฝดด้วย อาการแพ้ท้องก็จะยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีกค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : อาการแพ้ท้องแทนเมีย แพ้ท้องแทนเมียมีจริงหรือ ? แพ้ท้องแทนเมีย

 

แพ้ท้อง อาการเป็นอย่างไร?

จะรู้ได้อย่างไรว่าคุณแม่มีอาการแพ้ท้องหรือไหม อาการแบบนี้เรียกว่าอาการแพ้ท้องหรือเปล่า คุณแม่สามารถสังเกตได้จากอาการดังต่อไปนี้ค่ะ

  1. ไม่สามารถดื่มหรือกินอะไรลงได้ใน 24 ชั่วโมง
  2. ปัสสาวะน้อย หรือปัสสาวะสีเข้มไม่ใส
  3. มีอาการอาเจียน บางคนอาเจียนเป็นเลือดด้วยก็มี
  4. รู้สึกว่าร่างกายอ่อนแอ อยากจะเป็นลมตลอดเวลา
  5. ตาแห้ง ผิวแห้ง

ทั้งนี้ อาการแพ้ท้อง ของคุณแม่ตั้งครรภ์ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่า ใครแพ้มากหรือน้อย ถ้าหากปฏิบัติตัวตามที่แนะนำมาข้างต้นแล้ว อาการยังไม่บรรเทาลง แพ้ท้องหนักมาก รับประทานอาหารไม่ได้ อาเจียนตลอด คุณแม่ควรไปพบสูตินรีแพทย์โดยเร็ว ไม่แนะนำให้ซื้อยารับประทานเอง ยาอย่าง Domperidone (ดอมเพอริโดน) เป็นยาสำหรับบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไม่ใช่ยาแก้แพ้ท้อง ดังนั้นหากคุณผู้หญิงแพ้ท้องมากจนทนไม่ไหว ให้รีบปรึกษาแพทย์

 

วิธีแก้แพ้ท้อง อาการแพ้ท้อง เริ่มเมื่อไหร่  เกิดขึ้นได้อย่างไร 

อาการแพ้ท้องเริ่มตอนไหน อาการแพ้ท้องเริ่มเมื่อไหร่ แพ้ท้องกี่เดือน คุณแม่ท้องจะมีความรู้สึกอยาก “คลื่นไส้ อาเจียน” ไม่สบายเนื้อ สบายตัว ร่วมกับอาการ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ มีน้ำลายมากกว่าปกติ แต่จะดีขึ้นเมื่อมีอายุครรภ์ได้ 3 เดือนขึ้นไป ทั้งนี้แต่ละคนนั้นจะมีอาการแตกต่างกันออกไป คุณแม่บางคนอาจไม่มีอาการใด ๆ เลย ในขณะที่บางคนมีอาการแพ้ท้อง น้อยลงก่อนและหลัง 12 สัปดาห์ และบางคนแพ้ท้องตลอดช่วงการตั้งครรภ์รวมไปถึงคุณพ่อก็อาจได้รับอิทธิพลจากคุณแม่ พากันแพ้ท้องไปทั้งคู่ก็มี ซึ่งปัจจุบันทางการแพทย์ก็ยังสาเหตุการแพ้ท้องไม่ได้ชัดเจน

  • เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกายขณะตั้งครรภ์
  • เกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้จากการแทรกซึมของสเปิร์ม หรือทารกในครรภ์ ร่างกายคุณแม่จึงมีการต่อต้านสิ่งแปลกปลอม
  • เกิดจากกลไกธรรมชาติ ที่ไม่อยากให้คุณแม่กินอะไรเข้าไปมากในช่วงระยะ 3 เดือนแรก
  • ผลจากภาวะจิตใจและอารมณ์ของคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์ โดยพบว่า ผู้ที่มีจิตใจ หรืออารมณ์อ่อนไหว เครียด และวิตกกังวล มักจะมีอาการแพ้ท้องได้มากกว่าปกติ ส่วนคุณแม่ที่มีจิตใจเข้มแข็ง ไม่เครียด มักจะไม่มีอาการแพ้ท้อง หรือมีอาการน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่มีจิตใจอ่อนไหว นอกจากนี้ อาการเรียกร้องความสนใจก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ท้องได้มากขึ้นโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน

 

อาการแพ้ท้อง ตอนเช้า

 

คนแพ้ท้อง แพ้ท้องกี่เดือน มักมีอาการอย่างไรบ้าง วิธีแก้อาการแพ้ท้อง

อาการแพ้ท้อง ส่วนใหญ่แม่ท้องจะมีอาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม อาเจียน แสบลิ้นปี่ โดยมักจะมีอาการแพ้ท้องมากในตอนเช้าหลังตื่นนอน หรือที่เรียกกันว่า Morning Sickness แต่ก็อาจมีอาการแพ้ท้องในช่วงกลางวัน หรือช่วงเย็นได้บ้าง หรืออาจเกิดอาการแพ้ท้องตลอดทั้งวันเลยก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ในตอนท้องว่างก็จะมีอาการแพ้ท้องมากกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม อาการแพ้ท้องจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่โดยหลัก ๆ แล้ว จะมีอาการดังต่อไปนี้

แก้อาการแพ้ท้อง หรือ วิธีแก้แพ้ท้อง

  • คลื่นไส้อาเจียน อึดอัดท้องและหน้าอกมาก
  • ภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติ
  • ปวดแสบลิ้นปี่ เพราะน้ำย่อยที่อาเจียนออกมาทำให้แสบที่หลอดอาหาร และอาจมีความรู้สึกขมที่ลิ้น รู้สึกเจ็บปวดในอก และอาจกระจายถึงคอ จนเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการเจ็บคอ และมีอาการไอเรื้อรังได้
  • รู้สึกไวต่อกลิ่น ทำให้คุณแม่อาจรู้สึกไม่สบายเมื่อได้กลิ่นเหม็น หรือกลิ่นบางอย่าง แต่บางทีก็อาจจะรู้สึกหอมมากกับบางอย่างได้เช่นกัน
  • อาจอยากกินอาหารแปลก ๆ เช่น อาหารที่มีรสเปรี้ยว ของหมักดอง หรือบางครั้งก็อยากกินของที่เคยไม่ชอบอย่างมาก แต่คุณแม่บางคนก็อาจจะกินอาหารไม่อร่อย หรือไม่อยากจะกินอะไรเลยก็มี
  • มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย รู้สึกง่วงนอน อยากนอนหลับตลอดเวลา
  • มีอารมณ์แปรปรวน รู้สึกหงุดหงิดง่าย
  • มีอาการปวดศีรษะบ่อยขึ้น แต่อาจจะไม่รุนแรงมากนัก

 

อาการแพ้ท้อง ตอนเช้า ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แก้อาการแพ้ท้อง อย่างไร

แพ้ท้องกี่เดือน คุณแม่หลายคนกังวลว่า อาการแพ้ท้องตอนเช้า ซึ่งมักจะมีอาการพะอืดพะอมและอาเจียนหนักมาก จะเป็นอันตรายหรือไม่ จริง ๆ แล้วแพ้ท้องตอนเช้าจะมีข้อดีคือ ทำให้คุณแม่อยากรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตมากขึ้น กลับเป็นข้อดีต่อทารกในการเพิ่มสารอาหารให้แก่เขามากขึ้น

 

วิธีแก้แพ้ท้อง แก้อาการแพ้ท้อง แก้อาการแพ้ท้อง วิธีแก้แพ้ท้องตอนเช้า

  • วิธีแก้อาการแพ้ท้อง เมื่อตื่นนอน อย่าเพิ่มรีบลุกทันที ควรนอนหายใจ เข้า-ออก ลึก ๆ สักครู่ ก่อนลุกขึ้น
  • คุณแม่ควรดื่มนมอุ่น ๆ หรือน้ำอุ่นตอนเช้าหลังตื่นนอน
  • ต้มน้ำขิงติดไว้ที่บ้าน เมื่อรู้สึกคลื่นไส้ ให้นำน้ำขิงมาอุ่นแล้วค่อย ๆ จิบ
  • รับประทานอาหารอ่อน ๆ ในตอนเช้า เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม
  • คุณแม่สามารถรับประทานขนม เช่น ขนมปังกรอบธัญพืชได้ แก้อาการแพ้ท้อง หรือท้องว่างระหว่างวัน

บทความที่เกี่ยวข้อง แพ้ท้องมาก อันตรายไหม วิจัยเผย แม่แพ้ท้องมีโอกาสที่จะไม่แท้ง! 

 

วิธีแก้อาการแพ้ท้อง 2

 

แก้แพ้ท้อง วิธีแก้แพ้ท้อง ระหว่างวันทั่วไปทำอย่างไรได้บ้าง วิธีแก้อาการแพ้ท้อง

วิธีแก้แพ้ท้อง สำหรับคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องไม่มากนัก แพ้ท้องกี่เดือน ให้คุณแม่เข้าใจว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ และคิดแต่ในแง่ดี ไม่เครียด ทำจิตใจให้สดชื่น เพราะบางครั้งอาการแพ้ท้องจะดีขึ้นโดยไม่ต้องรับประทานยาใด ๆ ก็ได้ หากคุณแม่ไม่มีอะไรกังวลใจ  ซึ่งคุณแม่สามารถบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ดังนี้

  • วิธีแก้อาการแพ้ท้อง เริ่มจากการใส่ใจเรื่องของโภชนาการ ควรบริโภคอาหารธรรมชาติจำพวกสมุนไพร เช่น รับประทานผักผลไม้มากขึ้น เช่น สับปะรด ซึ่งจะช่วยในการย่อยอาหาร และรักษาอาการคลื่นไส้ และกล้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำตาลในเลือด และบรรเทาอาการแพ้ท้อง  เมนูคนแพ้ท้อง ควรลดอาหารที่มีไขมัน เช่น อาหารประเภท ทอด หรือผัด
  • เลือกกินอาหารอ่อน ๆ ลดปริมาณอาหารในมื้อหนัก แต่เปลี่ยนมารับประทานทีละน้อยให้บ่อยขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้การย่อยอาหารง่ายขึ้น และเร็วขึ้น
  • ดื่มนม 1 แก้ว หรือดื่มน้ำมาก ๆ หลังตื่นนอนตอนเช้า
  • เมื่อรู้สึกคลื่นไส้อาเจียน ให้จิบน้ำอุ่น หรือดื่มน้ำขิงอุ่น ๆ โดยควรเป็นขิงแท้ 100% ไม่ผสมน้ำตาล เพราะขิงสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องผูก และอาการคลื่นไส้ได้
  • ดื่มหรือทานอะไรที่มีรสเปรี้ยว อย่างเช่น ฝากมะนาวลงไปในน้ำชา น้ำแร่ หรือดื่มน้ำมะนาวแก้แพ้ท้อง ก็ได้
  • ในช่วงแรกหลังจากตื่นนอนแล้ว ให้นอนพักร่างกายสักครู่ อย่าเพิ่งรีบลุกออกจากเตียงทันที เพราะจะทำให้คุณแม่เกิดอาการคลื่นไส้ได้ง่าย
  • หากต้องการรับประทานของแปลก ๆ ที่อาจเป็นอันตราย ต้องพยายามหักห้ามใจ หลีกเลี่ยงอาหารประเภทนั้น ๆ
  • อย่าปล่อยให้ท้องว่าง ควรเตรียมเครื่องดื่ม หรือขนมปังแคร็กเกอร์ไว้ใกล้ตัวเสมอ
  • ความเครียดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ท้อง ดังนั้นคุณแม่จึงควรทำใจให้สบาย ไม่เครียด หรืออาจจะลองนั่งสมาธิเพื่อช่วยผ่อนคลาย
  • การเดินไปเดินมาง่าย ๆ จะสามารถช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง รวมไปถึงอาการอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นกับหญิงตั้งครรภ์ได้ด้วย เช่น อาการจุกเสียด

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 42 อาการแพ้ท้องในแต่ละเดือน

 

วิธีแก้อาการแพ้ท้อง แบบโบราณ

อาการแพ้ท้องเกิดขึ้นกับคุณแม่มาทุกยุคทุกสมัย โดยในสมัยก่อนบรรพบุรุษของเราก็ได้นะสมุนไพรพื้นบ้านที่แก้อาการวิงเวียนศีรษะ หรือแก้อาเจียนมาเป็นตัวช่วยทำให้อาการแพ้ท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นบรรเทาลงได้ มาดูกันดีกว่าค่ะวิธีแก้อาการแพ้ท้องแบบโบราณมีอะไรบ้าง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

1. ขิง

คุณแม่ควรมีสมุนไพรไทยติดบ้านเอาไว้ เช่น ขิง สะระแหน่ ตะไคร้ แต่ที่สามารถใช้ได้บ่อย ๆ คือ ขิง สามารถช่วยลดอาการ เวียนหัว แพ้ท้องงานวิจัยหลายตัวเผยว่า การกินขิง หรือชาขิง จะช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนมีอาการ น้ำตาลในเลือดต่ำ หรือ ความดันเลือดต่ำ ก็ควรรับประทานในปริมาณที่น้อยลง หรือหากต้มน้ำขิงเองก็ไม่ควรใส่น้ำตาลเลย

2. น้ำมันหอมระเหย

น้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่าง ๆ สามารถแก้อาการวิงเวียนศีรษะแบบโบราณ ซึ่งเป็นทางเลือกที่สามารถช่วยให้คุณแม่หายจากอาการวิงเวียน แพ้ท้องได้ อาจใช้กลิ่นของเปปเปอร์มินต์ กลิ่นลาเวนเดอร์ กลิ่นตะไคร้ กลิ่นซิตรัส ก็จะช่วยให้คุณรู้สึกสบายขึ้นได้

3. มะนาว

ไม่ว่าจะเป็นมะนาวผิวเขียว ผลเลมอนผิวเหลือง นำมาหั่นสไลด์บาง ๆ วางไว้ในจาน เอาไปวางตามมุมห้อง หรือบนโต๊ะ จะช่วยให้บรรยากาศในห้องรู้สึกสดชื่น ซึ่งจากการวิจัยที่นำเอาหญิงตั้งครรภ์มา 100 คนเพื่อทดสอบ พบว่า กลิ่นของเลมอนนั้นช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ค่ะ

 

ลองมาทายกันเล่น ๆ แพ้ท้องมาก ได้ลูกเพศอะไร ?

วิธีแก้แพ้ท้อง หลายวิธีทดสอบเพศลูกเป็นความเชื่อ ที่ถูกบอกต่อกันมานาน อาการแพ้ท้องก็เช่นกัน สามารถบอกเพศลูกได้ เช่น ถ้าแม่แพ้ท้องมาก ได้ลูกเพศอะไร ซึ่งมีงานวิจัยที่ศึกษาในหญิงตั้งครรภ์ชาวสวีเดนมากกว่าหนึ่งล้านคนจากปี ค.ศ. 1987-1995 พบว่า แม่ที่แพ้ท้องอย่างรุนแรงมักจะได้ลูกสาว ซึ่ง Dr. Michael Swiet จากสถาบันสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาในกรุงลอนดอนได้กล่าวไว้ว่า

“มีคำอธิบายอยู่มากมายเกี่ยวกับอาการแพ้ท้อง การแพ้ท้องเกิดเนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป หากคุณได้ลูกสาว นั่นอาจทำให้ร่างกายคุณสร้างฮอร์โมนที่ต่างชนิดกันออกไปและอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงนั่นเอง”

ความเชื่อที่ว่าแพ้ท้องมาก ได้ลูกเพศหญิง จึงมีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้ แต่ไม่สามารถฟันธงได้ 100% เพราะมีปัจจัยด้านอื่น ๆ ที่ทำให้คุณแม่เกิดอาการแพ้ท้องอย่างหนัก การตรวจเพศลูกด้วยการตรวจอัลตราซาวนด์ ตรวจน้ำคร่ำ ในช่วงไตรมาสที่ 2 จะรู้ได้ชัดเจนกว่า

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

แพ้ท้องมาก อันตรายไหม วิจัยเผย แม่แพ้ท้องมีโอกาสที่จะไม่แท้ง! 

10 วิธีแก้แพ้ท้อง ตอนเช้า ตื่นมาแล้ว คลื่นไส้ตอนเช้า รับมืออย่างไร อะไรช่วยได้บ้าง

10 อาหารแก้แพ้ท้อง แม่ท้องจะรับมืออย่างไร อาหารประเภทไหนช่วยให้หาย ?

แชร์ประสบการณ์หรือ เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับวิธีแก้แพ้ท้อง ได้ที่นี่!

วิธีแก้แพ้ท้อง มีวิธีแบบไหนบ้างคะ แล้ววิธีไหนต้องระวังเป็นพิเศษไหมคะ

อาการแพ้ท้อง มีวิธีแก้อาการแพ้ท้องยังไงบ้างคะ

ที่มา : whattoexpect, sanook, mamastory

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!