อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน

undefined

การเริ่มต้นอาหารมื้อแรกของลูกน้อยเป็นก้าวสำคัญในการเติบโตและพัฒนาการ การเลือกสรรอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนและเหมาะสมกับวัยจึงเป็นสิ่งที่พ่อแม่ใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อให้ลูกรักได้รับประโยชน์สูงสุดในทุกช่วงพัฒนาการ

เมื่อลูกน้อยอายุ 6 เดือนขึ้นไป ความต้องการทางโภชนาการก็เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนมแม่แล้ว เมื่อถึงวัยเริ่มต้น อาหารมื้อแรก จึงเป็นสัญญาณของการผจญภัยครั้งใหม่ของทั้งคุณแม่และลูกน้อย theAsianparent จะมาแบ่งปันเคล็ดลับที่จะช่วยให้การเริ่มต้น อาหารมื้อแรก ของลูกน้อยเป็นไปอย่างราบรื่น เพื่อให้ลูกรักเติบโตอย่างแข็งแรงและมีความสุขกับทุกมื้ออาหาร

โดยทั่วไปแล้วอาหารมื้อแรกของลูก คุณแม่จะเริ่มป้อนอาหารเสริมตามวัยได้ตอนอายุครบ 6 เดือนค่ะ สำหรับอาหารมื้อแรกของลูกน้อยวัย 6 เดือนขึ้นไป สิ่งสำคัญที่สุดคือการเริ่มต้นด้วยอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้

อาหารมื้อแรก ความหยาบละเอียดของอาหารสำหรับทารก

อาหารมื้อแรก ความหยาบละเอียดของอาหารสำหรับทารก  

ความหยาบละเอียดของ อาหารมื้อแรก เป็นสิ่งสำคัญมากในการปรับให้เข้ากับพัฒนาการของลูกน้อยในแต่ละช่วงวัย เพื่อให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารอย่างเหมาะสม ฝึกทักษะการเคี้ยวและการกลืนได้อย่างปลอดภัย และลดความเสี่ยงต่อการสำลักค่ะ โดยทั่วไปแล้ว ความหยาบละเอียดของอาหารสำหรับทารกจะเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงอายุของลูก

ทารก 6 เดือน (เริ่มต้นอาหารเสริม):

  • ลักษณะ: เหลวละเอียด เหมือนน้ำซุปข้นๆ หรือเนื้อครีม เนียนละเอียด ไม่มีก้อน
  • ตัวอย่างอาหาร:
    • ข้าวบดละเอียดผสมน้ำนมแม่หรือน้ำซุปผัก
    • ผักและผลไม้บดละเอียด เช่น ฟักทองบด แครอทบด กล้วยบด มะละกอบด
    • เนื้อสัตว์บดละเอียดมาก (เช่น เนื้อไก่บดละเอียดผสมน้ำซุป)

Note: ในวัยนี้ ลูกน้อยยังไม่มีฟันและทักษะการเคี้ยวและการกลืนยังไม่พัฒนาเต็มที่ อาหารเหลวละเอียดจะช่วยให้ลูกน้อยกลืนได้ง่ายและปลอดภัย

ทารก 7-8 เดือน:

  • ลักษณะ: บดหยาบขึ้น เริ่มมีเนื้อสัมผัสที่เป็นเม็ดเล็กๆ หรือมีชิ้นเล็กๆ ที่นิ่มและเละได้ง่าย
  • ตัวอย่างอาหาร:
    • ข้าวต้มบดหยาบ
    • ผักและผลไม้บดหยาบที่มีชิ้นเล็กๆ นิ่มๆ เช่น มันเทศบดที่มีเนื้อให้จับได้เล็กน้อย กล้วยบี้
    • เนื้อสัตว์บดละเอียดที่มีเนื้อสัมผัสมากขึ้นเล็กน้อย

Note: ลูกน้อยเริ่มมีฟันขึ้นบ้างแล้ว และเริ่มฝึกการใช้ลิ้นและเหงือกในการบดอาหาร การให้อาหารที่มีเนื้อสัมผัสหยาบขึ้นเล็กน้อยจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านการเคี้ยว

ทารก 9-11 เดือน:

  • ลักษณะ: สับละเอียด หรือ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นิ่มๆ ที่ลูกน้อยสามารถใช้เหงือกบดได้
  • ตัวอย่างอาหาร:
    • ข้าวสวยนิ่มๆ
    • ผักและผลไม้หั่นเต๋าเล็กๆ ต้มหรือนึ่งนิ่มๆ เช่น แครอทหั่นเต๋าเล็กๆ ฟักทองหั่นเต๋าเล็กๆ มะละกอสุกหั่นชิ้นเล็กๆ
    • เนื้อสัตว์สับละเอียด
    • ไข่แดงต้มสุกยีละเอียด

Note: ลูกน้อยมีฟันขึ้นมากขึ้น และสามารถใช้เหงือกบดอาหารได้ดีขึ้น การให้อาหารที่มีชิ้นเล็กลงจะช่วยฝึกทักษะการเคี้ยวและการกลืนที่ซับซ้อนขึ้น

อาหารมื้อแรก

ทารก 12 เดือนขึ้นไป:

  • ลักษณะ: อาหารหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ที่ลูกน้อยสามารถหยิบจับและเคี้ยวได้ง่าย
  • ตัวอย่างอาหาร:
    • ข้าวสวย
    • ผักและผลไม้หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ต้ม นึ่ง หรือทำให้สุกนิ่ม
    • เนื้อสัตว์หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นิ่มๆ
    • ไข่เจียวหั่นชิ้น
    • พาสต้าชิ้นเล็กๆ

Note: ลูกน้อยส่วนใหญ่จะมีฟันขึ้นหลายซี่แล้ว และสามารถเคี้ยวอาหารได้คล่องแคล่วมากขึ้น การให้อาหารที่มีลักษณะใกล้เคียงกับอาหารของผู้ใหญ่ (แต่มีขนาดเล็กลงและนิ่มกว่า) จะช่วยให้ลูกน้อยเรียนรู้การกินอาหารได้หลากหลายมากขึ้น

 

อาหารออร์แกนิคสำหรับเด็ก หนึ่งตัวช่วยสำหรับคุณแม่

ในยุคที่ชีวิตประจำวันของคุณแม่หลายท่านยุ่งๆ การมีตัวช่วยอย่าง อาหารเสริมกึ่งสำเร็จรูปสำหรับเด็ก ที่เป็น ออร์แกนิค ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจและช่วยแบ่งเบาเวลาในการเตรียมอาหารให้ลูกได้มากเลยค่ะ แต่ก่อนจะป้อนอาหารเสริมให้ลูก คุณแม่ต้องใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้ด้วยนะคะ

  • ผลิตจากวัตถุดิบออร์แกนิค: ปลูกและผลิตโดยไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ เช่น ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง สารกำจัดวัชพืช ทำให้มั่นใจได้ว่าลูกน้อยได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง
  • ปลอดสารพิษ: ตั้งแต่กระบวนการปลูก การผลิต ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ ต้องมั่นใจว่าไม่มีสารพิษปนเปื้อน
  • ไม่ผสมน้ำตาล นมวัว ถั่ว ไข่ (หากลูกแพ้): สำคัญมากสำหรับเด็กที่มีภาวะแพ้อาหารเหล่านี้ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้
  • ไม่มีโซเดียม: ดีต่อสุขภาพไตของลูกน้อยในวัยที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่
  • ไม่ผ่านการทอด: ช่วยลดปริมาณไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
  • ไม่แต่งสี ไม่แต่งกลิ่น: ลดความเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีที่ไม่จำเป็น และช่วยให้ลูกน้อยคุ้นเคยกับรสชาติและสีสันตามธรรมชาติของอาหาร
  • ไม่มีสารกันบูด: ปลอดภัยต่อสุขภาพในระยะยาว
  • ไม่มีสารก่อภูมิแพ้ (เช่น กลูเตน): เหมาะสำหรับเด็กที่มีภาวะแพ้กลูเตน หรือคุณแม่ที่ต้องการหลีกเลี่ยง

คุณแม่ขา… กำลังมองหาตัวช่วยดีๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกและสุขภาพของลูกน้อยวัย 6 เดือนขึ้นไปอยู่ใช่ไหมคะ? ถ้าคุณแม่เคยสงสัยว่าจะมี อาหารมื้อแรก ที่เป็นอาหารเสริมสำหรับลูกน้อย มาพร้อมคุณสมบัติแน่นๆ เน้นความเป็นออร์แกนิค ปลอดภัย ไร้สารปรุงแต่ง แถมยังเตรียมง่าย ตอบโจทย์วันยุ่งๆ ของคุณแม่ได้จริงหรือเปล่า… วันนี้ไม่ต้องสงสัยอีกต่อไปค่ะ! ขอแนะนำตัวช่วยที่จะทำให้การเริ่มต้นอาหารเสริมตามวัย อาหารมื้อแรกของลูกน้อยเป็นเรื่องง่ายและมั่นใจได้ในทุกคำ นี่เลยค่ะ  “ข้าวกล้องงอกบด Xongdur Baby ซองเดอร์ เบบี้”  ซึ่งความโดดเด่นของ ซองเดอร์ เบบี้ ที่คุณแม่จะต้องถูกใจกันมากๆ นั่นก็คือ 

  • คัดสรรวัตถุดิบ ชั้นดีที่ได้รับการรับรองตราเกษตรอินทรีย์ระดับโลก EU
  • ผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ทั้งจาก อเมริกา-แคนาดา (USDA Organic – CANADA Organic) และ ยุโรป (EU Organic)
  • มีสารกาบา ซึ่งมีส่วนช่วยด้านระบบประสาท และสมองรวมถึงฮอร์โมนที่มีผลต่อการเจริญเติบโต
  • ไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ ไม่ผสมน้ำตาล นมวัว ถั่ว ไข่ ไม่มีโซเดียม ไม่ทอด ไม่แต่งสี ไม่แต่งกลิ่น ไม่มีสารกันบูด
  • ไม่มีสารก่อภูมิแพ้ เช่น กลูเตน ปลอดสารพิษ

คุณแม่สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมอาหารเสริมสำหรับทารกและเด็กเล็กอายุ 6 เดือน ถึง 3 ปี ซองเดอร์ เบบี้ ได้ที่นี่ คลิก Xongdur 

สำหรับคุณแม่ที่กำลังจะเริ่มต้นอาหารมื้อแรกให้ลูกน้อยวัย 6 เดือนขึ้นไป แนะนำว่าควรเริ่มต้นด้วยอาหารบดละเอียดจากผัก ผลไม้ หรือข้าว ที่ย่อยง่าย ไม่ปรุงแต่ง และให้ทีละน้อยเพื่อสังเกตอาการแพ้ ซึ่งอาหารมื้อแรกนี้มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างพัฒนาการที่สมวัยของลูกน้อยด้วยค่ะ

 

 

 

 

อ้างอิง

  1. อาหารสำหรับทารก: เมื่อไรคุณควรเริ่มป้อนอาหารแข็ง, Unicef https://www.unicef.org/thailand/th/parenting-hub/อาหารสำหรับทารก-เมื่อไรคุณควรเริ่มป้อนอาหารแข็ง
    2. ทานอาหารให้เหมาะสมตามช่วงวัย สำหรับทารกแรกเกิด ถึง 1 ปี, โรงพยาบาลพญาไท
    https://www.phyathai.com/th/article/2777-ทานอาหารให้เหมาะสมตาม?
    3. อาหารที่ทารกไม่ควรกินมีอะไรบ้าง, helloคุณหมอ https://hellokhunmor.com/พ่อแม่เลี้ยงลูก/เด็กทารก/โภชนาการสำหรับทารก/อาหารที่ทารกไม่ควรกิน-มีอะไรบ้าง/
    4. คู่มืออาหารตามวัยสำหรับทารกและเด็กเล็ก, สมาคมแพทย์สตรี https://www.tmwa.or.th/new/lib/file/20170121162528.pdf

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!