ยาคูลท์ มีประโยชน์อย่างไร คนท้องกินยาคูลท์ได้ไหม ?

ยาคูลท์ หรือนมเปรี้ยวยี่ห้อดังที่เรารู้จักกัน ได้กลายเป็นเครื่องดื่มที่ใครหลายคนชอบมาตั้งแต่ยังเด็ก ตามโฆษณาเราจะเห็นว่านมเปรี้ยวให้จุลินทรีย์สูง และช่วยในเรื่องขับถ่าย สรรพคุณเหล่านี้จริงน้อยมากแค่ไหน คนท้องกินยาคูลท์ได้ไหม แล้วจะส่งผลดีกับทารกในครรภ์หรือไม่ วันนี้เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลย

 

ยาคูลท์ คืออะไร

ยาคูลท์ มีประโยชน์อย่างไร คนท้องกินยาคูลท์ได้ไหม ?

 

ยาคูลท์นั้น เป็นเครื่องดื่มนมหมักโพรไบโอติกส์ มีรสหวานอมเปรี้ยว ประกอบไปด้วยแป้ง น้ำตาล แป้งกลูโคส น้ำ และมีแบคทีเรียที่ชื่อว่า แลคโตบาซิลัส คาเซอิ ที่ดีต่อร่างกายอยู่ด้วย ซึ่งแลคโตบาซิลัส คาเซอินั้น จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น รวมทั้งช่วยสร้างภูมิคุ้มกันภายในร่างกายได้ดี

จากงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า ยาคูลท์ช่วยป้องกันอาการท้องผูก ท้องร่วง ท้องเสีย การกิน ยาคูลท์ จะช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้ร่างกายติดเชื้อได้ง่าย

โดยปกติแล้ว ระบบทางเดินอาหารของเราจะมีทั้งแบคทีเรียที่ดี และไม่ดีปะปนกันอยู่ แบคทีเรียที่ดีจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานได้เป็นปกติ ในขณะที่แบคทีเรียไม่ดี จะทำให้ระบบย่อยอาหาร และภูมิคุ้มกันร่างกายเราทำงานได้แย่ลง

ซึ่งการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ความเครียด หรือการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้แบคทีเรียที่ไม่ดีในร่างกายเจริญเติบโตหรือมีเยอะขึ้น และการรับประทานยาคูลท์ ก็อาจช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีในระบบย่อยอาหารของเรา และช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ได้ด้วย

 

บทความที่เกี่ยวข้อง : หมอแนะ! ให้ลูกดื่มนมเปรี้ยว ก่อนเข้ารับวัคซีนช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี

 

ยาคูลท์ มีประโยชน์อย่างไร คนท้องกินยาคูลท์ได้ไหม ?

 

คนท้องกินยาคูลท์ได้ไหม มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

จากวิจัยหลาย ๆ ชิ้น ชี้ให้เห็นว่าโพรไบโอติกส์ในยาคูลท์ ให้ประโยชน์ต่อคนท้อง ดังนี้

 

1. ทำให้ระบบลำไส้ ทำงานได้ดีขึ้น กินยาคูลท์ทุกวัน

ช่วงตั้งครรภ์ เป็นช่วงที่ระบบต่าง ๆ ในร่างกายของคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลง แถมคุณแม่หลาย ๆ คน ยังต้องเจอกับปัญหาท้องผูก ซึ่งจากงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า โพรไบโอติกส์นั้น ช่วยให้ระบบลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น และยังช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอีกชิ้นชี้ว่า หญิงตั้งครรภ์ที่กินยาคูลท์เป็นประจำ มีระบบขับถ่ายที่ดีขึ้น

 

2. ช่วยลดอาการแสบร้อนกลางอก และลดกรดในกระเพาะ

มีการศึกษาพบว่า การรับประทานโพรไบโอติกส์ในแต่ละวัน ช่วยลดอาการกรดในกระเพาะ ทำให้เรอน้อยลง และช่วยลดอาการแสบร้อนกลางอกได้ในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์

 

3. กินยาคูลท์ทุกวัน ช่วยไม่ให้เด็กในท้องเป็นภูมิแพ้ได้ง่าย

นักวิจัยได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับโพรไบโอติกส์และพบว่า การรับประทานโพรไบโอติกส์ในช่วงที่กำลังท้องหรือให้นมบุตร มีแนวโน้มช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้ลูกในท้องเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่าย

 

4. กินยาคูลท์ ช่วยลดการติดเชื้อในช่องคลอด

โพรไบโอติกส์ในนมเปรี้ยว ช่วยเพิ่มปริมาณแบคทีเรียที่ดีในช่องคลอด ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ช่องคลอดหรืออวัยวะอื่น ๆ ได้

 

5. ช่วยป้องกันภาวะครรภ์เป็นพิษ

ภาวะครรภ์เป็นพิษ มักเกิดกับคนที่ตั้งครรภ์ โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ย 2-8 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนคนที่ตั้งครรภ์ทั้งหมด โดยคนที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษส่วนใหญ่ จะมีความดันโลหิตและมีโปรตีนอยู่ในปัสสาวะสูงกว่าคนทั่วไป จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร British Medical Journal ของอังกฤษในปี 2018 พบว่า การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีโพรไบโอติกส์ในช่วงไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์ มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ

 

6. ช่วยไม่ให้เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์

จากงานวิจัยในประเทศนิวซีแลนด์ พบว่าการรับประทานโพรไบโอติกส์ในระหว่างตั้งครรภ์ อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานได้

 

หากคุณแม่กำลังท้องอยู่แล้วนึกอยากกินยาคูลท์ ก็สามารถกินได้ แต่ก็อย่าลืมว่าอะไรที่มากไปย่อมไม่ดี เพราะยาคูลท์หรือนมเปรี้ยวนั้น มีน้ำตาลผสมอยู่ค่อนข้างมาก หากรับประทานน้ำตาลเข้าไปเยอะ ก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยปกติ ยาคูลท์ปริมาณ 80 มิลลิกรัม (หรือ 1 ขวดเล็ก) จะมีน้ำตาลอยู่ 15.1 กรัม และให้พลังงาน 60 แคลอรี่

ซึ่งปริมาณน้ำตาลที่คนท้องควรได้รับต่อวันคือ 30 กรัม ดังนั้น คุณแม่ควรรับประทานยาคูลท์วันละไม่เกิน 2 ขวด แต่หากวันนั้น ๆ คุณแม่ต้องการทานของหวานอย่างอื่นด้วย ก็ควรรับประทานยาคูลท์เพียง 1 ขวดจึงจะเหมาะสม

 

บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็กทารกกินนมเปรี้ยว ได้หรือไม่ หากลูกกินนมเปรี้ยวอันตรายจริงหรือไม่

 

ยาคูลท์ มีประโยชน์อย่างไร คนท้องกินยาคูลท์ได้ไหม ?

 

ข้อแนะนำในการดื่มยาคูลท์

ยาคูลท์เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับคนท้องและเด็กที่อายุ 1 ขึ้นไป สามารถกินได้ทุกวันและทุกเวลา ไม่ว่าจะเช้าสายบ่ายเย็น หากต้องการรับประทานให้อร่อยและได้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น ให้ทำตามคำแนะนำต่อไปนี้

 

  • รับประทานคู่กับซีเรียล สมูทตี้ ชีสเค้ก หรือของทานเล่นแช่เย็นอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ แต่ไม่ควรทานคู่กับอาหารร้อน เพราะอาจทำให้แลคโตบาซิลัสในยาคูลท์ทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ
  • ยาคูลท์ 1 ขวด จะอยู่ได้นาน 45 วันนับจากวันผลิต โดยสามารถดูวันหมดอายุได้ที่ขวด และเมื่อเปิดขวดแล้ว ควรรับประทานให้หมดในครั้งเดียว
  • หากต้องการเก็บยาคูลท์ในตู้เย็น ให้แช่เย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศา
  • ไม่แนะนำให้แช่ยาคูลท์ในช่องฟรีซ เพราะอาจทำให้ขวดยาคูลท์แตกหรือเสียสภาพ

 

แม้ว่ายาคูลท์จะเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร ก็ไม่ควรกินมากเกินไป หากคุณแม่คนไหน ยังไม่แน่ใจหรือมีข้อสงสัย ว่าจะกินยาคูลท์ดีหรือไม่ แนะนำให้สอบถามคุณหมอให้แน่ใจก่อนจะดีที่สุดค่ะ เนื่องจากยาคูลท์มีน้ำตาลแล็กโทสผสมอยู่ จึงอาจทำให้บางคนเกิดอาการแพ้ได้

 

บทความที่เกี่ยวข้อง :
มังคุด ผลไม้รสหวานอมเปรี้ยว ให้ประโยชน์อะไรต่อร่างกายเราบ้าง
ผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง Super Fruit 9 ผลไม้ ที่ไม่ควรมองข้าม
ส้ม ผลไม้มากประโยชน์ ความลับใกล้ตัวที่คุณไม่เคยรู้ ผลไม้ที่คนท้องควรกิน

ที่มา : 1 , 2 , 3 , 4 , 5

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!