คนท้องดื่มน้ำขิงได้ไหม ดื่มแล้วจะเป็นอันตรายต่อลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องดื่มน้ำขิงได้ไหม กินแล้วมีผลดีหรือผลเสียกับลูกในท้องกันแน่ กินได้ทุกไตรมาสหรือเปล่า ดื่มน้ำขิงอย่างไรให้ปลอดภัยกับลูกในท้อง

ขิง สมุนไพรที่คนนิยมนำมาประกอบอาหาร และทำเป็นเครื่องดื่ม ด้วยสรรพคุณทางยามากมายจึงเหมาะที่มารักษาอาการป่วยสำหรับคนที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ขับลม แก้อาการท้องเฟ้อ ท้องอืด ท้องเสียได้ดี แต่บางคนถึงไม่ป่วยก็จะดื่มน้ำขิงเพื่อให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า แล้วถ้าตั้งครรภ์ล่ะ คนท้องดื่มน้ำขิงได้ไหม ลูกในท้องจะเป็นอันตรายหรือไม่?

 

คนท้องกินน้ำขิงได้หรือไม่ น้ำขิงดื่มแล้วดี หรือ ดื่มแล้วเป็นอันตราย

การเป็นคนท้อง เป็นเรื่องที่ลำบาก และ มีความซับซ้อนต่าง ๆ มากมาย The Asianparent Thailand เว็บไซต์และคอมมูนิตี้อันดับหนึ่งที่คุณแม่เลือก คาดว่า ยิ่งเป็นเรื่องของกิน หรือ เครื่องดื่ม แม่ท้องก็จำเป็นที่จะต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะไม่รู้ว่าอะไรที่กินไปนั้น จะมีผลกระทบกับลูกน้อยที่อยู่ในท้อง และ ตัวเองรึเปล่า มีอาหารและเครื่องดื่มหลายอย่าง ที่ดี และ ไม่ดีต่อคนที่กำลังตั้งครรภ์ วันนี้เราจะพามาไขคำตอบกันว่า คนท้องกินน้ำขิงได้หรือไม่

 

ขิงดีอย่างไร? คนท้องกิน น้ำขิงได้หรือไม่

คนท้องกินน้ำขิงได้ไหม หรือ ท้องกินน้ำขิงได้ไหม ก่อนที่เราจะไปรู้ว่า น้ำขิงดีกับคนท้องอย่างไร เราต้องมาดูกันก่อนว่า ขิงเอง มีสรรพคุณอะไรบ้าง ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ขิงเป็นยาธรรมชาติ ที่ใช้ในการรักษาอาการต่าง ๆ เช่น ท้องไม่ดี ป้องกันหวัด ลดการอาเจียน เพราะสารตามธรรมชาติ ที่เรียกว่า Gingerol สารตัวนี้เอง ที่ช่วย เรื่องการป้องกันโรค แก้การอักเสบ

 

ประโยชน์ของน้ำขิง

  1. สาวสวยอ่อนกว่าวัย: ขิงเป็นสมุนไพรที่เต็มไปด้วยสารแอนติออกซิแดนต์ ซึ่งจะช่วยในการชะลอวัย ลดริ้วรอย กระตุ้นการหมุนเวียนเลือดได้ดี ถอนสารพิษออกจากร่างกาย และชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
  2. หุ่นสวยกระชับ: ด้วยความที่ขิงมีฤทธิ์ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดี ลดเซลลูไลต์ได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ร่างกายกระชับทุกสัดส่วน ถ้าอยากกินให้ได้ผลดี ควรดื่มน้ำขิงในช่วงเช้านะคะ
  3. ลดอาการปวดประจำเดือน: สำหรับผู้หญิงที่มักจะปวดท้องประจำเดือนให้ลองกินขิงดูนะคะ เพราะมันจะช่วยคลายกล้ามเนื้อเวลาที่มดลูกหดตัวได้
  4. ลดการอักเสบของสิว: ใครที่เป็นสิวอยากให้สิวยุบลง ลองหันมาดื่มน้ำขิงกันดีกว่าค่ะ เพราะด้วยสรรพคุณของขิงจะทำให้รอยแผลจากสิวลดลง หน้ามันลดลง

 

คนท้องดื่มน้ำขิงได้ไหม

 

น้ำขิงกับคนท้อง คนท้องกินน้ำขิงได้ไหม คนท้องกินขิงมีประโยชน์อย่างไร

  1. ทำให้ทารกมีปริมาณเลือดที่เพียงพอ เพราะขิงจะช่วยในเรื่องของการเพิ่มและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้กับคุณแม่เอง และทารกในครรภ์
  2. ช่วยควบคุมและลดความเสี่ยงของการเกิดคอเรสเตอรอลสูงในระหว่างตั้งครรภ์
  3. หากคุณแม่ท่านไหนชอบมีอาการแพ้ท้องหลังตื่นนอนตอนเช้า แนะนำให้ทานน้ำขิงเลยค่ะ จะเป็นน้ำอุ่นในขิงและน้ำผึ้งก็ได้นะคะ จะช่วยทำให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นมากขึ้น
  4. ช่วยป้องกันโรคหวัดและทำให้คุณแม่ท้องที่เป็นโรคหวัดอยู่แล้วนั้น หายไวขึ้น
  5. ช่วยในการขับลม แก้ท้องอืด เพราะคุณแม่ท้องมักจะชอบท้องอืด เพราะมดลูกใหญ่ขึ้นและเริ่มไปดันกระเพาะอาหาร ทำให้ระบบย่อยอาหารนั้นทำงานได้ไม่เต็มที่ การทานขิงจึงช่วยให้ลำไส้นั้นบีบตัวได้ดียิ่งขึ้น

 

คนท้องดื่มน้ำขิงได้ไหม

 

น้ำขิงอาจช่วยคนท้องเรื่องใดได้บ้าง?

น้ำขิงคนท้องกินได้ไหม สรรพคุณของน้ำขิง อาจจะช่วยแม่ท้องได้หลายอย่าง แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่ขิง หรือ น้ำขิงทำได้ดีกว่าสิ่งอื่น ๆ เลยก็คือ การช่วงระงับอาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งคนท้องชอบเป็นกัน หรือ ที่เรียกกันว่า แพ้ท้องนั่นเอง คนท้องกว่า 80 % มักจะต้องเจอกับปัญหา คลื่นไส้ พะอือพะอม แพ้ท้อง ในตอนช่วงไตรมาสแรก

รากของขิง มีสรรพคุณช่วย ในการลดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ สาร Gingerol ที่อยู่ในขิงนั้น จะช่วยเรื่องระบบการขับถ่าย ทำให้ท้องไม่ว่าง การดื่มน้ำขิง อาจช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง ให้กับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ได้

มีคนที่ทำการวิจัยเปิดเผยข้อมูลว่า ผู้หญิงที่ทาน หรือ ดื่มน้ำขิงในช่วง ไตรมาส แรกของการตั้งครรภ์นั้น มีอาการเคลื่อนไส้ แพ้ท้อง น้อยกว่าคนที่ไม่ได้ทาน ถึง 5 เท่าเลยทีเดียว

 

ต้องทานมาก หรือ น้อยแค่ไหน ถึงจะพอดี

 

น้ำขิง เป็นสิ่งที่คนท้องสามารถดื่มได้ ไม่มีอันตราย แต่อย่างไรก็ตาม ควรระวังถึงปริมาณ ที่รับเข้าไปในร่างกายด้วย ปริมาณการทาน น้ำขิง ที่ปลอดภัย อยู่ประมาณที่ 1 กรัม(1000 Mg) หรือถ้าเกิดเป็นซอง ก็ทานเพียงแค่ซองเดียวก็พอแล้ว

 

กินขิง หรือ ดื่ม ตอนท้อง น้ำขิงคนท้อง มีอันตรายหรือไม่?

ไม่มีงานวิจัย หรือ ข้อมูลใดออกมาว่า การกินขิงในช่วงการตั้งครรภ์นั้น เป็นอันตรายต่อแม่ท้อง และ เพิ่มความเสี่ยง ต่อการคลอดก่อนกำหนด การแท้ง การตายคลอด หรือ ปัจจัยซับซ้อนอื่น ๆ

แต่มีเหตุผลและ ข้อมูล บางส่วน ออกมาบอกว่า การดื่มชาขิง ในช่วงใกล้คลอด เพราะขิงอาจทำให้มีอาการเลือดออก แท้ง ตกเลือด เลือดคั่งได้ เพราะฉะนั้นเวลาดื่ม หรือ กิน ขิงในช่วงใกล้คลอด ต้องใช้ความระมัดระวังด้วย

เช่นเดียวกับอาหาร หรือ ของอะไรก็ตามการทานในจำนวนที่มากเกินไป ก็ย่อมไม่ดีต่อสุขภาพร่างกายอยู่แล้ว คุณแม่ควรที่จะดูด้วยว่าเรากินมากไปหรือเปล่า ถ้าคุณแม่ รู้สึกว่าตัวเองเจอกับอะไรที่แปลกออกไป ให้รีบหยุดทานก่อน และ ถ้าอาการร้ายแรงมาก ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน

 

น้ำขิงมีผลต่อคนท้องไหม

คนท้องสามารถดื่มน้ำขิงได้ แถมยังเป็นเครื่องดื่มที่ดีมากอีกด้วย เนื่องจากประโยชน์ที่สามารถป้องกันหรือบรรเทาอาการหวัด อาการไอ ขับเสมหะ และยังสามารถช่วยลดอาการเป็นไข้ตัวร้อนได้อีกด้วย

คนท้องดื่มน้ำขิงได้ไหม สำหรับคนท้องในระยะแรก จะช่วยลดอาการแพ้ท้อง คลื่นไส้ อาเจียนได้ดี เมื่อแม่ท้องโตขึ้นจะเริ่มรู้สึกชา มีอาการบวมน้ำ น้ำขิงนี้ จะช่วยลดอาการบวมน้ำ เพราะขิงจะช่วยขับเหงื่อและน้ำออกมา ทำให้คุณแม่สามารถลดอาการดังกล่าวได้ อีกทั้งยังช่วยบำรุงเลือด แก้อาการอ่อนเพลีย และแก้อาการโลหิตจางของแม่ท้องได้

สำหรับคนท้องแก่ใกล้คลอด น้ำขิงจะช่วยกระตุ้นน้ำนมแม่ได้ดี แถมยังมีแคลเซียมที่ช่วยสร้างกระดูกและฟันให้แก่เด็ก และป้องกันโรคกระดูกพรุนในแม่ท้องได้ดีอีกด้วย

ทั้งนี้ ไม่ควรกินขิงมากเกินไป เพราะจะทำให้เกิดอาการหันใจเต้นผิดจังหวะ ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการตกเลือด ไม่ควรกินร่วมกับยาละลายลิ่มเลือด ยาโรคเบาหวานและยาโรคความดันโลหิตสูง รวมถึงผู้ที่เป็นโรคถุงน้ำดี สำหรับคนท้องการดื่มน้ำขิงที่มีปริมาณเข้มข้นมากเกินไป อาจทำให้คุณแม่ท้องเสี่ยงต่อการแท้งลูกได้ ไม่แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอุณหภูมิความร้อนในร่างกายสูงอยู่แล้วดื่ม เพราะจะยิ่งเข้าไปเพิ่มความร้อนในร่างกายจนอาจทำให้เกิดอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์

 

วิธีต้มน้ำขิง สูตรน้ำขิง

  1. ใช้ขิงประมาณ 2-3 ขีด มาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นแว่น
  2. ทุบเพื่อให้มีน้ำมันหอมระเหยของขิงออกมา
  3. นำขิงที่หั่นไว้ ใส่ลงในหม้อที่มีน้ำสะอาด 1 ลิตร ประมาณ 20 นาที
  4. ยกหม้อลงแล้วกรองเอาขิงออก
  5. ใส่เกลือ น้ำตาล หรือ มะนาว ได้นิดหน่อยเพื่อแต่งรสชาติให้ทานง่าย

 

วิธีเก็บ “ขิง” ยังไงให้อยู่ได้นาน

สำหรับคุณแม่คนไหนที่ชอบดื่มน้ำขิงตอนช่วงตั้งครรภ์เป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเราควรเก็บยังไง เพื่อที่ขิงจะได้อยู่นาน ๆ มาดูวิธีการถนอมขิงไปพร้อมกัน

 

คนท้องดื่มน้ำขิงได้ไหม 1

(รูปจาก freepik.com)

 

1. วิธีการเก็บขิงแห้งบด หรือแบบแช่อิ่ม

มาเริ่มกันที่วิธีการเก็บขิงชนิดแห้ง และแบบแช่อิ่มกันก่อนเลยดีกว่า สำหรับใครที่ชอบซื้อขิงประเภทนี้มา แล้วอยากที่จะเก็บไว้นาน ๆ แน่นอนว่าเราอาจจะต้องเก็บสิ่งเหล่านี้ให้อยู่ในอุณหภูมิห้องปกติ ไม่เย็นหรือไม่ร้อนจนเกินไป และถ้าเมื่อไหร่ที่เราเก็บขิงไว้ที่อุณหภูมิห้อง สิ่งนี้ก็จะช่วยให้ขิงมีรสชาติที่ปกติและปลอดภัย ที่สำคัญยังสามารถเก็บได้นานถึง 3 ปีเลยทีเดียว

 

2. วิธีเก็บขิงด้วยการห่อกระดาษ

การเก็บขิงด้วยวิธีนี้อาจจะเป็นการเก็บรักษาได้เพียงระยะสั้นๆ ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์เท่านั้น เพราะฉะนั้นวิธีนี้ก็อาจจะเหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ซื้อขิงมาเก็บไว้ในปริมาณที่มาก โดยการเก็บขิงวิธีนี้ขั้นตอนแรกเราจะนำขิงมาทำความสะอาดก่อน หลังจากนั้นก็ทำการเช็ดให้แห้ง พร้อมกับนำกระดาษมาห่อให้เรียบร้อยแล้วทำการแช่ตู้เย็นได้ตามปกติ

3. วิธีห่อขิงด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์

สำหรับใครที่ทำการหั่นขิงเรียบร้อยแล้ว แต่เรายังใช้ขิงไม่หมดแล้วอยากที่จะเก็บไว้ เพราะฉะนั้นเราอาจจะต้องนำอะลูมิเนียมฟอยล์มาห่อขิงที่เหลือ จากนั้นก็นำไปแช่ในตู้เย็นตามปกติเช่นเคย เชื่อหรือไม่ว่าวิธีนี้นอกจากจะทำให้เราเก็บถนอมขิงได้เป็นเวลานานแล้ว วิธีนี้ยังช่วยทำให้ขิงของเรามีความสดใหม่อีกด้วยนะ แม่ ๆ คนไหนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็สามารถนำวิธีการถนอมขิงแบบนี้ไปใช้ตามกันได้เลย

4. วิธีการเก็บขิงไว้ในถุงพลาสติกสุญญากาศ

อีกหนึ่งวิธีของการถนอมขิงเพื่อเก็บไว้ใช้นาน ๆ นั่นคือเก็บขิงไว้ในถุงพลาสติกสุญญากาศ โดยวิธีนี้อาจจะเหมาะสำหรับคนที่ยังไม่ได้ทำการปลอกขิงหรือหั่นขิง ส่วนวิธีการเก็บขิงคือให้เรานำขิงที่ซื้อมาแล้วใส่ลงไปในถุงพลาสติก จากนั้นทำการกดอากาศภายในถุงออกให้หมดแล้วปิดปากถุงให้แน่น เมื่อขั้นตอนนี้เสร็จสั้นแล้วก็สามารถนำไปแช่ในตู้เย็นได้ตามปกติ ที่สำคัญใครที่เก็บขิงด้วยวิธีนี้ สามารถเก็บได้นานถึง 1 – 2 เดือนเลยนะ ลองทำตามกันดูนะคะ แล้วมาดูกันว่าเราจะสามารถเก็บขิงไว้ได้นานมากน้อยแค่ไหน

 

ที่มา: posttoday, hellokhunmor

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

อาการคนท้องระยะแรก เกิดอะไรขึ้นบ้าง เดือนแรกที่ตั้งครรภ์อาการเป็นอย่างไร

คนท้องกินเนื้อมะพร้าวได้ไหม จะเป็นอันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องห้ามกินอะไรบ้าง คนท้องไม่ควรกินอะไร ของแสลงคนท้อง แบบไหนต้องเลิกกิน

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!