เปลี่ยนจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง เพื่อให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สมองไวพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

undefined

.

Advertisement

ถึงแม้การเริ่มต้นจะแตกต่าง แต่เด็กผ่าคลอดก็สามารถเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ไม่แพ้เด็กที่คลอดธรรมชาติ เพราะพัฒนาการที่สำคัญไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิธีการคลอดเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการเลี้ยงดูที่ถูกต้องตั้งแต่ก้าวแรกของชีวิต theAsianparent จะพาคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ไปเจาะลึกเคล็ดลับสำคัญในการสร้างสมองไวและภูมิคุ้มกันแข็งแรง ให้กับ เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมให้เจ้าตัวน้อยเติบโตอย่างมีคุณภาพในโลกยุคใหม่

 

จุดเริ่มต้นที่แตกต่างแต่แม่เลือกที่จะทำให้ดีที่สุดได้

คุณแม่ผ่าคลอดหลายท่านอาจมีคำถามในใจว่าลูกของเราจะเติบโตแข็งแรงและมีพัฒนาการที่ดีเหมือนเด็กที่คลอดธรรมชาติ ไหม คำตอบคือ “ได้แน่นอนค่ะ” แม้ว่าจุดเริ่มต้นจะแตกต่างกัน แต่เราสามารถเติมเต็มสิ่งดีๆ ให้กับลูกได้ค่ะ

เด็กผ่าคลอด

ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกันก่อนนะคะว่า การคลอดแบบธรรมชาติ กับ การผ่าคลอด นั้นมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะในเรื่องของ ภูมิคุ้มกันแรกเกิด” และ พัฒนาการทางสมอง”

ทารกที่คลอดโดยวิธีธรรมชาติจะได้รับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์จากช่องคลอดของคุณแม่ทันที ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้ทำหน้าที่เสมือนเป็น เกราะป้องกันด่านแรกๆ” เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันหลัง
คลอด ในทางตรงกันข้าม ทารกที่คลอดโดยการผ่าคลอดจะพลาดโอกาสในการได้รับจุลินทรีย์จากช่องคลอด ทำให้ในระยะเริ่มต้น ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กอาจยังไม่แข็งแรงเท่าที่ควร

นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่น่าสนใจระบุว่า การเชื่อมโยงของเซลล์ประสาทในสมอง ของทารกที่คลอดด้วยวิธีผ่าคลอด อาจมีความแตกต่างจากทารกที่คลอดตามธรรมชาติอีกด้วยค่ะ เพราะฉะนั้น ในช่วงขวบปีแรกที่เปรียบเสมือน “ช่วงเวลาทอง” ของสมองลูกน้อย ที่สมองจะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วที่สุด การเริ่มต้นที่ถูกต้องตั้งแต่วันแรกจึงสำคัญมากเลยนะคะ

 

พัฒนาการอย่างก้าวกระโดดให้สมองฉับไว ตั้งแต่วันแรก

เด็กที่คลอดโดยการผ่าคลอด อาจมีพัฒนาการสมองที่แตกต่างจากเด็กที่คลอดธรรมชาติในช่วงเริ่มต้นค่ะ เพราะมีงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกาพบว่า ภาพสแกนสมองของเด็กวัย 2 สัปดาห์แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในการเชื่อมต่อของสมองอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า การสร้าง “ปลอกไมอีลิน” ซึ่งเป็นตัวช่วยในการส่งสัญญาณประสาทในสมอง ก็มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะส่วนที่เชื่อมโยงสมองทั้งสองซีก ตั้งแต่ช่วง 3 เดือน ไปจนถึง 3 ปีเลยทีเดียว

เด็กผ่าคลอดเจนใหม่

แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ คุณแม่สามารถเลือกได้ว่าจะเติมเต็มสิ่งดีๆ ให้ลูกได้อย่างไร นั่นก็คือการให้ลูกได้รับสารอาหารสำคัญอย่าง “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ซึ่งเป็นสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซลล์

แอลฟา-แล็คตัลบูมิน เป็นโปรตีนคุณภาพสูงที่พบมากในน้ำนมแม่ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการทางสมอง โดยช่วยกระตุ้นการสร้าง สารสื่อประสาท (neurotransmitters) ที่จำเป็นต่อการทำงานของสมองโดยรวม

และยังมีงานวิจัยยืนยัน สฟิงโกไมอีลิน ช่วยสร้างพัฒนาการสมองไว นักวิทยาศาสตร์ พบว่า สฟิงโกไมอีลิน คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟลิพิด พบที่เยื่อหุ้มเซลล์ประสาทในสมอง และพบมากใน’นมแม่’ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างปลอกไมอีลิน ที่มีส่วนช่วยให้สมองสามารถเชื่อมโยงติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด สมองจึงสามารถประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ลูกน้อยเกิดการจดจำและการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ไว

 

เสริมภูมิคุ้มกัน เด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ให้แข็งแรงอย่างที่ลูกควรได้รับ

นอกจากพัฒนาการทางสมองแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทารกผ่าคลอดมักพลาดไปก็คือ ตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันแรกเกิด” ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว เด็กที่คลอดผ่านช่องคลอดจะได้รับจุลินทรีย์สุขภาพจากแม่ทันทีหลังคลอด การเสริมจุลินทรีย์สุขภาพจากภายนอกจึงมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นของชีวิต ที่ระบบภูมิคุ้มกันยังอยู่ในระยะพัฒนา หนึ่งในจุลินทรีย์สุขภาพที่สำคัญ คือ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส หรือ บี แล็กทิส ซึ่งพบมากในน้ำนมแม่ และมีงานวิจัยยืนยันว่า ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ  และ 2’-ฟูโคซิลแล็กโตส (2′-FL) ซึ่งเป็นหนึ่งในโอลิโกแซ็กคาไรด์ที่พบมากในนมแม่ 2′-FL ทำหน้าที่เป็น อาหารของจุลินทรีย์สุขภาพ อย่างบี แล็กทิส ช่วยให้จุลินทรีย์เหล่านี้เติบโตและทำงานได้ดีขึ้น

หากคุณพ่อคุณแม่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารอาหารที่มีประโยชน์ในนมแม่ มีบทบาทต่อสุขภาพและพัฒนาการของลูกน้อย สามารถเข้าชมได้ที่ S-Mom Club

เว็บไซต์ https://www.s-momclub.com/  นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถปรึกษาพูดคุยเกี่ยวกับสุขภาพโภชนาการและพัฒนาการสำหรับคุณแม่และลูกน้อยตามช่วงวัย โดยทีมพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ ตลอด 24 ชั่วโมง ได้ที่ ที่ S-Mom คลับผ่าคลอด

 

 

 

 

Reference

  1. Deoni S.C., et al. AJNR Am J Neuroradiol. 2019 Jan;40(1): 169–177.
  2. Bentley J, et al. Pediatrics. 2016; 138:1-9.
  3. Polidano C, et al. Sci Rep. 2017; 7: 11483.
  4. Susuki K. Nature Education. 2010;3(9):59.
  5. Floch MH,et al.J Clin Gastroenterol 2015;49:S69-S73
  6. สภาการศึกษา
  7. National Institutes of Health (US); Biological Sciences Curriculum Study.
  8. Alpha Lactalbumin – an overview | ScienceDirect Topics
  9. Susuki, K. (2010) Nature Education 3(9):59Deoni S, 2012.
  10. Dai X, et al, 2019.
  11. Kar P, et al. Neuroimage. 2021 Aug 1:236:118084.
  12. Department of Mental Health (dmh.go.th)

 

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!