เมื่อเป็นพ่อแม่มือใหม่ เวลาที่คุณห่างจากลูกเพียงชั่วครู่ก็คงอดรู้สึกกังวลเกี่ยวกับลูกน้อยไม่ได้ ไม่ว่าจะขณะทำงานบ้าน หรือออกไปงานนอกบ้าน ตอนนอน หรือตอนที่กำลังออกไปทำธุระ เพราะในขณะที่คุณละสายตาจากลูกไป ลูกอาจจะร้องไห้เพราะหิว หรือหวาดกลัวอยู่ในห้องเพียงคนเดียว หากเป็นไปได้คุณอยากจะอยู่ดูแลข้างกายลูกน้อยตลอดเวลา แต่ความเป็นจริงแล้วคุณไม่สามารถทำแบบนั้นได้เลย ทำได้เพียงหาตัวช่วยอย่างเช่น กล้องดูลูกน้อย (Baby Monitor) มาคอยช่วยดูแลลูกน้อยในช่วงที่คุณแม่ไม่สามารถอยู่กับลูกน้อยได้
กล้องดูลูกน้อย
กล้องดูลูกน้อยจะช่วยดูลูกน้อยของคุณตลอดเวลา โดยจะจับเสียง และการเคลื่อนไหวของลูก ตลอดจนเวลาที่ลูกนอนแล้วรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว ทำให้คุณแม่รู้สึกสบายใจแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ ลูก
อย่างไรก็ตาม กล้องดูลูกน้อยมีให้เลือกอยู่มากในตลาด ทำให้คุณแม่หลายท่านตัดสินไม่ถูกว่าจะเลือกจะซื้ออุปกรณ์เฝ้าลูกแบบไหนดี แบบไหนที่เหมาะและคุ้มค่ามากที่สุด นั่นคือเหตุผลที่เราได้ทำการรวบรวมมาให้คุณแล้ว
ทำไมคุณต้องใช้อุปกรณ์ดูแลเด็กเล็ก
คุณแม่ส่วนใหญ่ต้องการหาคนมาดูแลลูกในช่วงที่คุณไม่สามารถดูแลลูกเองได้ แต่ในความเป็นจริงอาจไม่ได้อย่างที่หวังเสมอไป เพราะบางบ้านอยู่เป็นครอบครัวเล็ก ไม่ได้มีสมาชิกคนอื่น ๆ หรือญาติพี่น้องอาศัยอยู่ด้วย หรือไม่สามารถหาคนมาช่วยดูแลลูกน้อย การเลือกใช้กล้องดูลูกน้อยจึงเหมาะกับคุณแม่บ้านโดยเฉพาะ เพื่อที่จะได้มีเวลาในการทำงานบ้านนอกเหนือจากการดูแลลูกน้อย
คุณแม่บางคนเวลาห่างจากลูกมักคิดกังวลว่าลูกอาจจะร้องไห้อยู่ตอนนี้ แต่จริง ๆ ลูกไม่ได้ร้องไห้เลย แม่แค่คิดไปเอง การใช้กล้องติดตามคอยดูลูกน้อย จะช่วยให้แม่หายข้องใจและทำให้แม่สบายใจยิ่งขึ้นด้วย
แน่นอนว่าเวลาที่ลูกน้อยทำงานบ้านและเก็บกวาดบ้านให้เสร็จ ดังนั้น การมีอุปกรณ์เฝ้าเด็กจะช่วยให้คุณแม่ทำงานได้ง่ายขึ้น และยังช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายใจในขณะที่คุณไม่ได้อยู่ด้วย ทั้งยังสามารถคอยสอดส่องความปลอดภัยของลูกน้อยได้ตลอดเวลาด้วย สำหรับคุณแม่ที่จ้างพี่เลี้ยงเด็กก็สามารถใช้อุปกรณ์พวกนี้ในการสอดส่องความเรียบร้อยของลูกน้อย พร้อม ๆ กับดูพี่เลี้ยงได้ด้วยเช่นกัน
วิธีเลือก กล้องดูลูกน้อย (Baby Monitor) ที่ดีที่สุด
แม้ว่าการซื้ออุปกรณ์ดูแลเด็กจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่คุณแม่ก็ควรพิจารณคุณสมบัติให้เหมาะสมกับการใช้งานก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะอุปกรณ์นี้จะช่วยให้คุณแม่สามารถดูแลลูกน้อยได้ดียิ่งขึ้น
นี่คือสิ่งที่คุณแม่ควรรู้:
- Video interface: การได้เห็นลูกน้อย และพฤติกรรมของเขาตลอดเวลา ทำให้คุณแม่มีความมั่นใจและสบายใจได้มากขึ้น
- Wireless connectivity and Range: การเชื่อมต่อได้ง่ายและมีขอบเขตที่กว้างทำให้พ่อแม่มองดูลูกน้อยได้อย่างอุ่นใจ และวางใจได้
- Night vision: หากอุปกรณ์มีโหมดกลางคืนด้วยจะทำให้คุณสามารถมองดูลูกน้อยขณะนอนหลับแม้ในที่มืดได้ดี
- Mobile viewing: เป็นการดูผ่านมือถือ หากกล้องมีฟังก์ชั่นนี้ด้วย จะช่วยให้คุณแม่ติดตามดูลูกน้อยได้อย่างสะดวกแม้ว่าจะอยู่นอกบ้านก็ตาม
- Portability: กล้องที่สามารถพกพาได้สะดวกจะช่วยให้คุณแม่สามารถถอดและนำกล้องไปติดตั้งยังห้องอื่น หรือสถานที่อื่นที่ลูกน้อยอยู่ ทำให้คุณแม่สามารถเห็นลูกน้อยอยู่ตลอดเวลาได้เช่นกัน
- Interference filters: ตัวกรองสัญญารบกวนจะช่วยให้มีการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณแม่สามารถติดตามลูกได้แบบเรียลไทม์
- Sound and light detection: การตรวจจับเสียงและแสง เป็นสิ่งสำคัญเพื่อใช้ในการเตือนว่าลูกน้อยของคุณตื่นหรือยัง กำลังร้องไห้เรียกหาแม่หรือเปล่า
- Two-way communication: การสื่อสารสองทาง คือ ช่วยให้คุณแม่ส่งเสียงหรือคุยกับลูกได้ทันทีเมื่อลูกร้อง หรือเรียกหาพ่อแม่ เพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกสงบและได้รับการปลอบประโลมเสมือนแม่มาอยู่ข้างกายในทันที
นอกจากนี้ พ่อแม่อาจพิจารณาคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น ราคาประหยัด ใช้งานง่าย มีแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน การหมุนกล้องหรือเอียงกล้อง ความละเอียดของวีดีโอ Full HD และเพลงหรือเพลงกล่อมเด็ก เป็นต้น โดยคุณสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการ
6 กล้องดูลูกน้อยที่น่าใช้ที่สุด
- Nuvita 3043 Video baby monitor 4.3 inch – Baby Monitor ที่คุ้มค่ามากที่สุด
- Worldtech WT-BM001 – Baby Monitor ราคาประหยัดที่สุด
- Motorola Connect20-2 Video Baby Monitor with Two Cameras – Baby Monitor สำหรับลูกแฝด
- Avent Digital Video Baby Monitor SCD833/05 – Baby Monitor คุณภาพเยี่ยม
- Angelcare 3-in-1 AC527 Baby Monitor – Baby Monitor หน้าจอกว้างที่สุด
- Prince&Princess Safe & Sound – Baby Monitor แจ้งเตือนผ่านมือถือ
1. Avent Digital Video Baby Monitor SCD833/05
หากคุณกำลังมองหากล้องดูลูกน้อยที่มีการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและมีคุณสมบัติประหยัดพลังงาน กล้องตัวนี้คือสิ่งที่คุณต้องการ ด้วยเทคโนโลยี Adaptive FHSS (Frequency Hopping Spread Spectrum) ซึ่งช่วยลดการรบกวนจากอุปกรณ์ส่งสัญญาณอื่น ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์ไร้สาย เป็นต้น
มีไฟแสดงสถานะ LED และเสียงที่ช่วยให้คุณดูแลลูกน้อยได้จากทุกที่ ด้วยมีระยะภายนอกสูงสุด 300 เมตร และระยะภายในร่มสูงสุด 50 เมตร มีหน้าจอสีขนาด 2.7 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูง มีระบบอินฟราเรดที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในตอนกลางคืน สามารถทำงานไร้สายได้นานถึง 10 ชั่วโมง สามารถเล่นเพลงกล่อมเด็กและเฝ้าดูลูกน้อยนอนหลับได้ ทั้งยังสามารถพูดคุยโต้ตอบได้ทันทีเพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกอุ่นใจ
คุณสมบัติที่เราชื่นชอบ:
- มีความปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัว ด้วยระบบ Adaptive FHSS (Frequency Hopping Spread Spectrum) หน้าจอสีขนาด 2.7 นิ้ว ชาร์จได้
- มีเพลงกล่อมเด็ก สามารถพูดคุยตอบกลับได้
- มีโหมดประหยัดพลังงาน
- มีไฟแสดงสถานะ LED, สามารถมองเห็นได้ในเวลากลางคืนด้วยระบบอินฟาเรด มีการแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ต่ำและอยู่นอกช่วงสัญญาณ
- ระยะภายนอกสูงสุด 300 เมตร ระยะในร่มสูงสุด 50 เมตร

2. Angelcare 3-in-1 AC527 Baby Monitor
การดูแลลูกเป็นเรื่องที่ยากใช่ไหม คุณแม่ลองกล้องดูลูกน้อยตัวนี้สิ แล้วการดูแลลูกจะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ด้วยตัวกล้องที่มาพร้อมกับวิดีโอที่ช่วยให้คุณสามารถดูแลลูกน้อยได้อย่างสบายใจ มีเซนเซอร์ตรวจจับการหายใจ การมองเห็นตอนกลางคืน พร้อมจับการเคลื่อนไหวที่จะจับสัญญาณแล้วส่งเสียงเตือนไปยังศูนย์สัญญาณโดยใช้เวลาเพียง 20 วินาที นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจจับอุณหภูมิภายในห้องได้ด้วย
คุณสมบัติที่เราชื่นชอบ:
- มุมมองหน้าจอบนเครื่องหลัก, มีหน้าจอขนาด 5 นิ้ว, 2.4GHz FHSS, ภาพคมชัด
- มองเห็นตอนกลางคืนได้อย่างชัดเจน สามารถสื่อสารได้ทั้งสองทาง
- ใช้พลังงานน้อย
- มีเซนเซอร์ตรวจจับการหายใจ และตรวจจับการเคลื่อนไหว
- แสดงอุณหภูมิในห้อง
- ตัวเลือกเปิด/ปิดการจับการเคลื่อนไหว

3. Worldtech WT-BM001
กล้องที่แสดงภาพแบบเรียลไหม์ สามารถพูดโต้ตอบได้ ทำให้คุณแม่สามารถเฝ้าดูพัฒนาการลูกน้อยได้ทุกที่ทุกเวลาจริง ๆ ด้วยหน้าจอที่กว้าง กล้องความละเอียดสูง กล้องหมุนได้รอบทิศทาง แบตเตอร์รี่อึด ทำให้สามารถสื่อสารกับลูกน้อยได้ชัดเจน ทั้งมีตัวเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิในห้อง และตั้งเวลาเพื่อเตือนได้ ทำให้คุณแม่หายห่วงว่าจะลืมช่วงเวลาที่สำคัญไป
คุณสมบัติที่เราชื่นชอบ:
- หน้าจอ LCD กว้าง 4.3 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080
- แสดงภาพและเวลาแบบเรียลไทม์ พูดโต้ตอบได้
- มีเพลงกล่อมเด็กให้เลือกถึง 6 เพลง
- มีฟังก์ชั่นตั้งปลุก และตรวจจับอุณหภูมิภายในห้อง
- ระยะไกล 100 เมตร
- รับประกันสินค้า 6 เดือนจากผู้ผลิตในประเทศ

4. Nuvita 3043 Video baby monitor 4.3 inch
กล้อง Nuvita “Video baby monitor 4.3" กล้องจอภาพขนาดกว้างที่ช่วยให้พ่อแม่เห็นลูกน้อยได้ชัดเจน ด้วยคลื่นความถี่ 2.4GHz ของ wireless technology ทำให้คุณได้รับภาพและเสียงที่คมชัด ไม่สะดุด แบตเตอรี่อึดสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน ทั้งยังสามารถพูดโต้ตอบกับลูกได้แม้คุณแม่จะอยู่คนละที่กับลูกน้อย ทำให้ลูกรู้สึกอุ่นใจเหมือนมีแม่อยู่ข้างกายตลอดเวลา รวมถึงยังมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ คือ หมวดแจ้งอุณหภูมิภายในห้อง มีการแจ้งเตือนเมื่อลูกเคลื่อนไหวหรือร้อง และมีเพลงกล่อมเด็กที่สั่งการได้จากคุณ
คุณสมบัติที่เราชื่นชอบ:
- กล้องพร้อมวีดีโอ จอ LCD ขนาด 4.3 นิ้ว สามารถโต้ตอบได้
- ระยะ 300 เมตร ในที่โล่ง หรือประมาณ 50 เมตรภายในบ้าน
- โหมดตรวจและเตือนเวลาลูกร้อง และบอกอุณหภูมิในห้อง
- สามารถใช้ได้ต่อเนื่อง 20 ชม. โดยที่ไม่ต้องชาร์จ
- มีเพลงกล่อมเด็ก

5. Motorola Connect20-2 Video Baby Monitor with Two Cameras
หากคุณมีลูกแฝด หรืออยากเห็นลูกในมุมอื่น ๆ กล้องตัวนี้สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะมีกล้องถึง 2 ตัว มาพร้อมกับจอกว้างขนาด 4.3 นิ้ว จึงให้ภาพที่คมชัด ตัวกล้องมีไมค์และลำโพงภายในตัวทำให้คุณแม่สามารถโต้ตอบกับลูกน้อยได้ทันที แถมยังมีฟังก์ชั่นพิเศษที่สามารถเชื่อมต่อกับ GOOGLE ASSISTANT หรือ ALEXA สั่งการด้วยเสียงโดยไม่ต้องใช้การสัมผัส และมีอินฟราเรดที่สามารถจับภาพได้ในเวลากลางคืน อีกทั้งยังเป็นกล้องรักษาความปลอดภัยแบบไร้สาย Connect20 ช่วยให้คุณได้รับการอัปเดตเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านของคุณ
คุณสมบัติที่เราชื่นชอบ:
- จอกว้าขนาด 4.3 นิ้ว
- ระยะประมาณ 300 เมตร
- มีระบบ Wi-Fi
- สามารถตอบโต้ได้ 2 ทาง
- โหมดตรวจสอบอุณหภูมิ ซูมแบบดิจิตอล และโหมดกลางคืน
- สามารถเชื่อมต่อกับมือถือผ่านแอป HUBBLE!
- สั่งการด้วยเสียงผ่าน GOOGLE ASSISTANT หรือ ALEXA

6. Prince&Princess Safe & Sound
กล้องดูแลลูกน้อยที่ใช้งานได้ง่ายผ่านหน้าจอมือถือ ให้ภาพที่คมชัดระดับ FULL HD 1080P หมุนได้รอบทิศทาง ทั้งยังสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของลูกได้กว้างมากถึง 355 องศา จึงทำให้คุณแม่ไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหวของลูกน้อยผ่านการแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ กล้องมีการบันทึกภาพด้วย Micro SD Card และสามารถรองรับความจุได้สูงสุดถึง 64 GB มีโหมดกลางคืนมองเห็นได้ชัดแม้ในเวลากลางคืน และสามารถโต้ตอบได้แบบเรียลไทม์
คุณสมบัติที่เราชื่นชอบ:
- ระบบตรวจจับแจ้งเตือนทันทีผ่านมือถือ
- ระบบตรวจจับเสียงร้องไห้ของลูกน้อยผ่านมือถือ
- สื่อสารได้ 2 ทิศทาง
- มีอินฟราเรด มองเห็นได้ในเวลากลางคืน
- สั่งการงผ่านแอปบนมือถือ รองรับทั้ง IOS และ Android

การเปรียบเทียบราคา ณ วันที่ 4 ต.ค. 2564
ยี่ห้อ |
ราคา(บาท) |
จำนวนกล้อง (ชิ้น) |
ราคา / ชิ้น (บาท) |
Nuvita 3043 Video baby monitor 4.3 inch |
1,590 |
1 |
1,590 |
Worldtech WT-BM001 |
11,958 |
2 |
5,979 |
Motorola Connect20-2 Video Baby Monitor with Two Cameras |
13,657 |
1 |
13,657 |
Avent Digital Video Baby Monitor SCD833/05 |
13,051 |
1 |
13,051 |
Angelcare 3-in-1 AC527 Baby Monitor |
5,253 |
1 |
5,253 |
Prince&Princess Safe & Sound |
4,590 |
1 |
4,590 |
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
วิธีเลี้ยงลูกให้แข็งแรง อาการป่วยเด็กเล็ก เด็กโต การดูแลลูกให้แข็งแรงฉลาดสมวัย ไอคิวดี อารมณ์แจ่มใส
10 เปลเด็ก เปลนอนสำหรับทารก แบบไหนดี และปลอดภัยกับลูกน้อย
7 หมอนหัวทุยที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย ซื้อไว้ติดบ้าน หายห่วงเรื่องลูกหัวแบน
ที่มา: 1