X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

9 สิ่งควรทำ ถ้าไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กขี้โรค

2 Mar, 2016
9 สิ่งควรทำ ถ้าไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กขี้โรค

9 สิ่งควรทำ ถ้าไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กขี้โรค

แม้ว่าลูกของคุณอาจดูภายนอกว่าร่าเริงแจ่มใสและแข็งแรงดี แต่รอบตัวของลูกนั้นยังคงเต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัสหลายชนิด หากลูกรักมีภูมิต้านทานโรคมากพอ เขาก็จะสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคทั้งหลายได้ ไม่เป็นเด็กขี้โรค เจ็บป่วยบ่อย เรามีเคล็ดลับเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคให้ลูกน้อยมาฝาก เพียงขยันทำ 9 สิ่งนี้บ่อยๆ ก็ช่วยให้ลูกน้อยห่างไกลโรคได้

1. ออกกำลังกาย และโยคะ

1. ออกกำลังกาย และโยคะ

ชวนลูกเล่นโยคะ หรือออกกำลังกายอื่นๆ เป็นประจำทุกวัน เช่น จ๊อกกิ้ง วิ่ง ขี่จักรยานจะช่วยเผาผลาญพลังงาน และทำให้ลูกหิว และยังเป็นการกระตุ้นระบบประสาท ต่อมไร้ท่อ ระบบทางเดินอาหาร และระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้ลูกมีสุขภาพที่แข็งแรง

2. กินผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี

2. กินผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี

เพิ่มผลไม้อย่างสตรอเบอร์รี่ ส้ม และกีวี เข้าไปในมื้ออาหารของลูก จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานดีขึ้น เนื่องจากผลไม้เหล่านี้มีวิตามินซีสูง ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างภูมิคุ้มกัน และยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ ใยอาหาร และน้ำ โดยคุณแม่อาจเลือกเป็นผลไม้หลากสีสัน ตามฤดูกาลก็ได้เช่นกัน

3. นอนหลับอย่างเพียงพอ

3. นอนหลับอย่างเพียงพอ

หากเด็กไม่ได้นอนหลับอย่างน้อยวันละ 7 ชั่วโมง เขาจะอารมณ์ไม่ดี และไม่อยากอาหาร งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอทำความเสียหายและทำลาย T-cell ในระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ดังนั้น การนอนหลับอย่างเพียงพอคือสิ่งแรกที่คุณแม่ควรสอนลูก

4. รักษาสุขอนามัย

4. รักษาสุขอนามัย

การรักษาความสะอาด ไม่ได้ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคได้โดยตรง แต่ว่ามันช่วยลดเชื้อโรค และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันไม่ต้องทำงานหนัก ก่อนที่จะกินหรือดื่มอะไรเข้าไป คุณแม่ต้องแน่ใจว่า ลูกได้ล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง สุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากต่อสุขภาพ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมคุณแม่จึงต้องพกทิชชูเปียกติดตัวเสมอ เมื่อออกไปข้างนอกกับลูก

คุณแม่อาจซื้อเจลล้างมือกลิ่นหอมถูกใจลูกพกติดกระเป๋าไปด้วย เพื่อกระตุ้นให้ลูกอยากล้างมือทุกครั้งหลังทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นกับสัตว์เลี้ยง เล่นที่สนามเด็กเล่น หรือแม้แต่หลังจากใช้ห้องน้ำเสร็จ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปรงสีฟันให้ลูกเป็นประจำยังช่วยลดการติดเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย

5. สร้างสภาพแวดล้อมในบ้านให้มีความสุข

5. สร้างสภาพแวดล้อมในบ้านให้มีความสุข

การให้ความรักด้วยการอุ้มลูก กอดลูก หอมแก้ม นวด และการดูแลเอาใจใส่ลูกน้อยในทุกๆ วัน เป็นยาที่ดีที่สุดในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้กับเขา ความสุขและความรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่บ้านกับคนในครอบครัวนี้เองที่ทำให้ลูกมีสุขภาพดี

มีงานวิจัยจำนวนมากที่พบว่า การหัวเราะ และบรรยากาศที่ดีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ พลังงานที่ลูกใช้ไปกับการหัวเราะจะทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น ในขณะที่ความเครียดจะเป็นตัวทำลายระบบภูมิคุ้มกัน และนำไปสู่การเป็นโรคต่างๆ ตามมา

6. กินผักสดสะอาด

6. กินผักสดสะอาด

วัยเด็กเป็นช่วงเวลาที่เด็กๆ อยากจะลิ้มลองอาหารจังก์ฟู้ด โซดา และช็อกโกแลต แต่คุณแม่ควรฝึกให้ลูกกินผักสดๆ อย่าง แครอท ถั่วเขียว พริก มันฝรั่งหวาน และผักใบเขียวที่มีวิตามินซีสูง ผักเหล่านี้ยังช่วยในการซ่อมแซมดีเอ็นเอที่มีส่วนสำคัญในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ถ้าลูกของคุณไม่ชอบที่จะรับประทานผักสดดิบ คุณแม่อาจนำไปปรุงอาหารในรูปแบบอื่นๆ เช่น ต้ม อบ หรือผัดก็ได้

7. กินถั่วหลากหลายชนิด

7. กินถั่วหลากหลายชนิด

อัลมอนด์แช่น้ำ พิสตาชิโอ ลูกเกด แอปริคอต และวอลนัท มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก เพราะถั่วพวกนี้มีทั้งโปรตีน เกลือแรก และวิตามินสูง และยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โอเมก้า กรดไขมัน สังกะสี และวิตามินอี คุณแม่ควรให้ลูกกินถั่ววันละ 2-3 ครั้งในช่วงเริ่มต้น แต่หากลูกไม่ชอบกินถั่วทั้งเมล็ด คุณแม่อาจลองใส่ถั่วผสมลงไปในอาหารในแต่ละมื้อแทนได้

8. ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ

8. ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ

ไม่ต้องกังวลหากลูกของคุณหิวน้ำตลอดทั้งวัน แต่ต้องแน่ใจว่านอกจากเครื่องดื่ม และน้ำหวานแล้ว ลูกดื่มน้ำเปล่ามากพอ การดื่มน้ำเปล่า 4-5 ลิตรช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย รวมถึงชะล้างโรคต่างๆ ที่เกิดจากเชื้อโรคในร่างกายด้วย ดังนั้นจึงเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น น้ำต้มสุกคือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลูก หากเป็นไปได้ควรมีกระติกใส่น้ำต้มสุก พกติดกระเป๋าไปด้วยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน

9. ใกล้ชิดธรรมชาติ

9. ใกล้ชิดธรรมชาติ

พาลูกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะให้บ่อยเท่าที่จะเป็นไปได้ ให้เขาถอดรองเท้าวิ่งเล่นบนสนามหญ้าในช่วงเช้าและเย็น อากาศบริสุทธิ์เป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง การเดินชมธรรมชาติ ไกวชิงช้า หรือปีนต้นไม้ ทำให้ลูกมีความสุข ผ่อนคลาย และได้ใช้พลังงาน ซึ่งจะทำให้เขาหิวและกินอาหารได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

วิธีที่กล่าวมาไม่ยากเลยใช่ไหมคะ คุณแม่สามารถเสริมภูมิต้านทานให้ลูกได้ทุกวัน เพียงแค่นำคำแนะนำของเราไปปรับใช้ให้เหมาะกับครอบครัวของคุณค่ะ

ถัดไป
img

บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • 9 สิ่งควรทำ ถ้าไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กขี้โรค
แชร์ :
  • 9 เเนวทางพ่อแม่ต้องทำ ถ้าไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กขี้โรค

    9 เเนวทางพ่อแม่ต้องทำ ถ้าไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กขี้โรค

  • วิธีสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย แค่ปล่อยให้ลูกเล่นสกปรกจริงหรอ!

    วิธีสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย แค่ปล่อยให้ลูกเล่นสกปรกจริงหรอ!

  • ลูกไม่ยอมพูด เป็นเพราะอะไร จะเป็นเด็กพัฒนาการช้าไหม ทำอย่างไรให้ลูกพูด

    ลูกไม่ยอมพูด เป็นเพราะอะไร จะเป็นเด็กพัฒนาการช้าไหม ทำอย่างไรให้ลูกพูด

  • 9 เเนวทางพ่อแม่ต้องทำ ถ้าไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กขี้โรค

    9 เเนวทางพ่อแม่ต้องทำ ถ้าไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กขี้โรค

  • วิธีสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย แค่ปล่อยให้ลูกเล่นสกปรกจริงหรอ!

    วิธีสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย แค่ปล่อยให้ลูกเล่นสกปรกจริงหรอ!

  • ลูกไม่ยอมพูด เป็นเพราะอะไร จะเป็นเด็กพัฒนาการช้าไหม ทำอย่างไรให้ลูกพูด

    ลูกไม่ยอมพูด เป็นเพราะอะไร จะเป็นเด็กพัฒนาการช้าไหม ทำอย่างไรให้ลูกพูด

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ