แท๊ปเล็ต คอมพิวเตอร์ ไม่เว้นแม้แต่การปล่อยให้ลูกดูทีวี ก็จะได้ผลเสียที่ตามมาพอ ๆ กัน พ่อแม่นั้นจะต้องคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อพัฒนาการทั้งในด้านความคิดและจิตใจของลูกให้ดี เพราะทีวีก็เหมือนกับเครื่องมืออื่น ๆ ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งได้มีบางงานวิจัยที่ออกมาสนับสนุนถึงผลดีของรายการต่าง ๆ ในทีวีที่มีต่อเด็ก เช่น รายการเด็กที่สอดแทรก หรือช่วยส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในสิ่งต่าง ๆ สำหรับเด็กอายุระหว่าง 3 - 5 ขวบ ซึ่งก็จะช่วยในเรื่องของการศึกษา พัฒนาการด้านสังคม และการเติบโตทางด้านอารมณ์ ของศึกษาของเด็ก ๆ ได้
แต่ก็อย่าลืมว่าบางรายการสำหรับผู้ใหญ่ที่เด็กนั่งดูอยู่ก็อาจจะมีภาพและความรุนแรงที่ไม่ดีต่าง ๆ อันจะส่งผลต่อพฤติกรรมลูกได้เช่นกัน และนี่คือสิ่งต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับลูกได้หากนั่งดูทีวีมากเกินไป
9 สัญญาณอันตรายที่เจ้าตัวเล็กเป็น “โรคติดทีวี” มากเกินไปแล้ว

#มีปัญหาในการนอน
มีผลการศึกษาเรื่องการนอนของเด็ก ๆ จากมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ได้ค้นพบว่า หากใช้เวลาในการดูทีวี 1 ชม.ครึ่ง ก่อนเข้านอน นอกจากทำให้ลูกใช้เวลาในการเข้านอนนานขึ้นแล้ว แสงและกิจกรรมต่าง ๆ ในทีวีอาจไปกระตุ้นสมองของลูกมากเกินไปซึ่งจะส่งผลให้เด็ก ๆ หลับยากขึ้นด้วย
#มีพัฒนาการทางภาษาล่าช้า
ตามผลการศึกษาในปี 2015 จาก PLOS ONE เด็ก 2 ขวบที่ดูทีวีมากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวันนั้น มีโอกาสอย่างมากที่จะมีพัฒนาการทางภาษาที่ช้า เห็นได้ชัดว่าการดูทีวีนั้นไม่ได้มีซับไตเติ้ลหรือการพูดจริง ๆ สำหรับการใช้ชีวิตจริง ๆ ของเจ้าตัวเล็ก
#มีการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว
การมีอาการไม่เป็นมิตรในบางครั้งนั้นถือเป็นเรื่องปกติโดยทั่วไปของเด็ก ๆ แต่ถ้าหากเจ้าตัวเล็กของคุณอยู่ ๆ ก็แสดงอาการก้าวร้าวอย่างรุนแรงในสนามเด็กเล่น นั้นอาจเป็นผลมาจากการดูทีวี ผลการศึกษาในปี 2007 ของ Ambulatory Pediatrics พบว่า เด็กเล็กที่มีอายุระหว่าง 21 - 33 เดือน ที่ได้สัมผัสกับสื่อมากเกินไปนั้น แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวและต่อต้าน ดังนั้นพ่อแม่ควรลองหาวิธีลดการดูทีวีของลูกลงเพื่อจะช่วยให้เจ้าตัวเล็กนั้นได้ผ่อนคลาย
#หยาบคายกับพ่อแม่
อยู่ ๆ เจ้าตัวเล็กที่น่ารักของคุณกลายเป็นเด็กที่พูดจากหยาบคายหรือเปล่า ? เด็ก ๆ ในช่วงนี้ยังอยู่ในกระบวนการเรียนรู้ และยังไม่สามารถแยะแยะได้ว่าพฤติกรรมแบบไหนที่เป็นที่ยอมรับ การตอบสนองอย่างก้าวร้าวนั้นเป็นเรื่องไม่เป็นไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวละครที่เขาชื่นชอบได้แสดงถึงลักษณะเหล่านี้ ซึ่งพ่อแม่ควรสังเกตจากรายการที่ลูกดูและชวนให้ดูรายการอื่นที่อ่อนโยนกว่านี้ หรือหากิจกรรมอื่นให้ลูกได้ทำนอกจากการดูทีวีดีกว่า

#มีการเคลื่อนไหวร่างกายที่น้อยลง
เด็กเล็ก ๆ ที่นั่งดูทีวีมากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวันนั้น มีแนวโน้มที่จะมีการเคลื่อนไหวร่างกายที่น้อยลง ต่างหากเด็กโดยทั่วไปที่จะไม่นั่งนิ่ง ๆ ได้นาน ๆ ซึ่งเมื่อลูกเป็นแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อลูกเลย
#มีความกลัวมากมาย
ลองคิดดูว่ารายการทีวีที่มีเรื่องราวน่ากลัวนั้นจะส่งผลกระทบมากมายแค่ไหนกับลูก ๆ ของคุณ หรือแม้แต่รายการที่ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรสำหรับพ่อแม่ แต่ก็ทำให้เด็กในวัยเตาะแตะนั้นเกิดความกลัวที่กลายเป็นภาพจำกับลูกได้

#ร้องขอสิ่งต่าง ๆ
โฆษณาในทีวีบางตัวกลายเป็นสิ่งดึงดูดที่ลูกชอบ และสำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ขวบนั้น ไม่สามารถที่จะแยกความแตกต่างระหว่างรายการทีวีและโฆษณาได้อย่างสิ้นเชิง เมื่อเขาต้องการของเล่นเหมือนในทีวีเขาก็จะร้องขอ งอแง และคอยก่อกวนพวกคุณทุกครั้งที่เห็นโฆษณาหรือจนกว่าที่เขาจะได้มันมานั้นแหละ
#ไม่ให้ความสนใจกับสิ่งอื่น ๆ รอบตัว
เด็กเล็ก ๆ โดยส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาของความสนใจสิ่งต่าง ๆ ที่เขาชอบยาวนาน แต่เมื่อทีวีเข้ามาสู่พัฒนาการในชีวิต ได้มีบันทึกจากการศึกษาพัฒนาการของเด็กในปี 2008 ว่า แม้แต่การเปิดทีวีไว้เฉย ๆ นั้นก็สามารถที่จะรบกวนช่วงเวลาเล่นของเด็ก ๆ ได้ และยังขัดขวางความสามารถในการรวบรวมสมาธิของเด็ก ๆ อีกด้วย
#ไม่ได้ใช้พัฒนาการตามวัยอย่างเหมาะสม
เด็กเล็กนั้นเมื่อได้ทำกิจกรรมหรือมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ๆ หรือได้มีส่วนร่วมในการเล่นที่ใช้จินตนาการ จะทำให้สมองของพวกเขาได้รับการพัฒนาและเรียนรู้เกี่ยวกับกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในสังคมได้ แต่การที่ปล่อยให้ลูกใช้เวลาไปในการดูทีวีมากเกินไป สมองของเด็กจะไม่ได้รับโอกาสในการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกรอบตัว และเริ่มกลายเป็นคนคิดเองเออเอง ซึ่งผลลัพธ์ของมันอาจทำให้ลูกกลายเป็นเด็กที่ไม่มีแรงกระตุ้น ไม่ได้ใช้พัฒนาการตามวัยได้มากกว่าที่ควรจะเป็น
Credit content: www.romper.com
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
กิจกรรมที่วิจัยแล้วว่าจะส่งผลเสียกับสมองของเด็ก
19 ความกลัวแปลก ๆ ของเจ้าตัวเล็ก

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!