theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
  • COVID-19
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • Project Sidekicks
    • การตั้งครรภ์
    • การคลอดบุตร
    • หลังคลอดบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • การสูญเสียทารก
  • ช่วงวัยของเด็ก
    • ทารก
    • วัยเตาะแตะ
    • เด็กเล็ก
    • เด็กวัยเรียน
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • สุขภาพ
    • อาการป่วย
    • วัคซีน
    • โภชนาการสำหรับครอบครัว
  • ชีวิตครอบครัว
    • ประกันชีวิต
    • โรงเรียนพ่อแม่
    • การเงิน การวางแผนครอบครัว
    • ความปลอดภัย
    • มุมคุณพ่อ
  • การศึกษา
    • ข่าวการศึกษา
    • คลีนิกพัฒนาการ
    • เตรียมความพร้อมก่อนวัยเรียน
    • โรงเรียนอนุบาล
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์​
    • ข่าว
    • งานบ้าน
    • การเงิน การวางแผนครอบครัว
    • ดวงและราศี
    • ดารา-แฟชั่น
    • กิจกรรมของครอบครัว
    • ฟิตเนส
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • TAP IDOL

5 เหตุผลที่ชี้ว่าการเลี้ยงลูกในยุคสมัยใหม่อาจเป็นปัญหาขั้นวิกฤต

บทความ 3 นาที
•••
5 เหตุผลที่ชี้ว่าการเลี้ยงลูกในยุคสมัยใหม่อาจเป็นปัญหาขั้นวิกฤต5 เหตุผลที่ชี้ว่าการเลี้ยงลูกในยุคสมัยใหม่อาจเป็นปัญหาขั้นวิกฤต

ประสบการณ์ตรงของ Emma Jenner ผู้เขียนจาก Keep Calm and Parent On ผู้เชี่ยวชาญที่ได้ทำงานกับพ่อแม่และเด็กหลายครอบครัวเป็นระยะเวลามากกว่า 2 ทศวรรษใน 2 ทวีปซึ่งมากด้วยประสบการณ์ได้ถ่ายทอดเรื่องราวปัญหาของการเลี้ยงลูกในยุคสมัยปัจจุบัน ที่กลายเป็นปัญหาใหญ่ให้พวกเราได้อ่านกันค่ะ

ผู้เขียนกล่าวไว้ว่า 5 ปัญหาหลัก ๆ ต่อไปนี้คือสิ่งที่เธอเห็นและคิดว่าไม่ใช่ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกต่อไปแล้ว ซึ่งมีดังต่อไปนี้

ลูกเอาแต่ใจ เป็นเด็กสปอยล์

1. ความกลัวที่มีต่อลูก

ยกตัวอย่างเช่น “ปัญหาจากแก้วหัดดื่ม” เป็นหนึ่งในปัญหาที่เห็นได้ชัด เด็ก ๆ หลาย ๆ คนหัดดื่มนมในตอนเช้าด้วยแก้วหัดดื่ม โดยส่วนใหญ่เด็กจะเป็นผู้เลือกแก้วหัดดื่มถึงแม้ว่าแม่จะเทนมใส่ในอีกแก้วให้แล้วก็ตาม เช่น “หนูอยากได้แก้วสีชมพู ไม่เอาสีฟ้า!” ผู้เขียนได้ลองสังเกตพฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่หลายท่านหลังจากที่ลูกร้องขอ ก็พบว่าส่วนใหญ่และบ่อยครั้งที่แม่จะรีบเปลี่ยนแก้วให้เป็นแก้วที่ลูกต้องการโดยทันที ก่อนที่ลูกจะเกิดอาการฉุนเฉียวและไม่พอใจ นี่แหละปัญหาค่ะ!

หากมาคิดดูดี ๆ อีกครั้ง "อะไรคือสิ่งที่คุณแม่ต้องกลัว?" "ใครคือผู้ที่ออกคำสั่งที่แท้จริงในสถานการณ์เช่นนั้น?" คุณแม่ควรปล่อยให้ลูกมีอาการฉุนเฉียวบ้าง และหากรับไม่ได้ที่ลูกเป็นเช่นนั้นก็ใช้วิธีเดินจากห้องนั้นไปเพื่อให้ลูกได้สงบนิ่งขึ้นแทน แต่อย่าเอาใจลูกโดยการให้ในสิ่งที่ลูกขอทุก ๆ ครั้ง เพียงแค่เพราะลูกอยากจะได้สิ่งนั้น และใช้อารมณ์มาเป็นเครื่องมือขู่

2. การลดมาตรฐาน

เวลาที่ลูกของเราประพฤติตัวไม่ดี ไม่น่ารัก ดื้อหรือไม่เชื่อฟังในที่สาธารณะหรือแม้แต่ในบ้านเอง หลาย ๆ ครั้งพ่อแม่จะพูดกับตัวเองว่า “ที่ลูกเป็นแบบนี้ ก็เพราะลูกยังเด็ก” จริง ๆ แล้วนั่นคือการลดมาตรฐานค่ะ เด็กสามารถเรียนรู้และปฏิบัติตามในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการให้เขาเป็นได้มากกว่าที่พ่อแม่คาดหวังไว้  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมารยาท การเชื่อฟัง เคารพผู้ใหญ่ การทำงานบ้าน ความมีน้ำใจ หรือแม้แต่การควบคุมตนเอง หากคุณคิดว่าลูกไม่สามารถนั่งดี ๆ ได้ในร้านอาหาร คุณแม่คิดผิดแล้วค่ะ หรือหากคุณแม่คิดว่าลูกไม่สามารถช่วยเก็บจานหลังทานข้าวได้ นั่นก็คิดผิดอีกเช่นกัน เหตุผลเดียวที่ลูกจะไม่ทำคือ พ่อแม่ไม่ได้หวังให้ลูกต้องทำและไม่ได้สอนลูกว่าควรทำอย่างไร เท่านั้นเองค่ะ ลองพยายามยกระดับความคาดหวังที่มีต่อลูก ขอลูกให้ช่วยมากขึ้น ลองสอนลูกดูนะคะ

3. เรากำลังสูญเสียผู้หวังดี

ในยุคสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นคนขับรถเมล์ ครู คนขายของตามร้านต่าง ๆ หรือพ่อแม่ท่านอื่นต่างก็มีอิสระและรู้สึกดีที่ได้ช่วยสอนและเตือนเด็กที่ทำตัวไม่ดี ถึงแม้เด็กเหล่านั้นไม่ใช่ลูกหลานพวกเขา พวกเขาจะทำตัวเปรียบเสมือนเป็นพ่อแม่ของเด็กเองและตักเตือนเวลาเจอเด็กที่ทำไม่ถูกต้องด้วยความหวังดี ทุก ๆ คนจะร่วมมือร่วมใจสอนและพัฒนาเยาวชนให้เติบโตมาเป็นคนดีด้วยกัน แต่ในยุคสมัยนี้ หากมีผู้ใหญ่ท่านไหนมาสอนลูกของตน พ่อแม่จะไม่พอใจเป็นอย่างมาก พ่อแม่สมัยนี้แค่ต้องการให้ลูกออกมาดูดีเพอร์เฟคที่สุดในสายตาผู้อื่น และหลาย ๆ ครั้งพ่อแม่ก็รับไม่ได้กับคำติเตือนลูกจากคุณครูที่โรงเรียน พ่อแม่หลายท่านจะรีบวิ่งไปหาครูเพื่อต่อว่าหากตนได้รับรายงานจากคุณครูเกี่ยวกับพฤติกรรมลูกในทางที่ไม่ดี แทนที่จะนำคำเตือนเหล่านั้นมาสอนและฝึกลูกให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น

พ่อแม่สมัยนี้มีความต้องการให้ลูกดูดีที่สุดในสายตาของคนอื่น และบ่อยครั้งที่ชอบติเตียนพ่อแม่ท่านอื่นเมื่อพบว่าลูกของพวกเขาดื้องอแงและพ่อแม่ไม่รีบทำให้เด็กสงบเงียบ หลาย ๆ ครั้งที่สายตาเหล่านั้นจับจ้องมาที่พ่อแม่อย่างตำหนิติเตียน ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วผู้ที่พบเห็นควรคิดและชมให้กำลังใจพ่อแม่เหล่านั้นว่า “ดีแล้วที่พ่อแม่ไม่ตามใจลูก ไม่ปลอบลูกง่าย ๆ เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสอนลูกให้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ขอมากเกินไป อะไรคือพอแล้ว”

อ่านต่อหน้าถัดไป >>>


เลี้ยงลูกสปอยด์

4. หวังพึ่งตัวช่วยมากเกินไป

ยุคสมัยนี้มีเทคโนโลยี วิวัฒนาการหลายอย่างเข้ามาช่วยในชีวิตประจำวันมากขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะเป็นจอดูหนังดูการ์ตูนบนเครื่องบิน หรือ การรอต่อคิวตามสถานที่ต่าง ๆ ด้วยเครื่องบัตรคิว แม้กระทั่งการสั่งซื้อของออนไลน์ หรืออุ่นอาหารด้วยไมโครเวฟที่แสนจะรวดเร็ว ประกอบกับพ่อแม่ที่ยุ่งจนแทบเรียกว่าไม่มีเวลาเลย สิ่งเหล่านี้ได้เข้ามาเป็นตัวช่วยให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น แต่บางครั้งสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป ลูก ๆ ควรได้รับการเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือตัวเอง และยอมรับได้หากทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด เช่นหากไม่มีของเล่น ก็ควรเรียนรู้ที่จะนั่งนิ่ง ๆ ได้ ควรเรียนรู้ที่จะเล่นกับตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องมีเครื่องมือของเล่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ควรเรียนรู้ว่าบางทีอาหารก็ไม่ได้เสิร์ฟร้อนตลอดเวลา ควรเรียนรู้ว่าบางทีก็ต้องรอมากกว่า 3 นาทีกว่าจะได้ทานข้าว

แม้กระทั่งเด็กทารก ที่ควรเริ่มเรียนรู้ที่จะกล่อมตัวเองให้หลับได้โดยที่ไม่ต้องพี่งเปลไกว และเด็กวัยหัดเดินที่ควรเรียนรู้ที่จะลุกขึ้นเองได้เวลาล้มแทนที่จะอ้าแขนขอให้พ่อแม่ช่วยอุ้ม ลองสอนลูกให้ทราบถึงประโยชน์ของสิ่งอำนวยความสะดวกและหากไม่มีสิ่งเหล่านั้นลูก ๆ ก็สามารถมีความสุขได้

5. พ่อแม่ตอบสนองต่อสิ่งที่ลูกต้องการเหนือกว่าสิ่งอื่นใด

โดยธรรมชาติแล้วพ่อแม่ถูกสร้างมาให้ตอบสนองความต้องการของลูกก่อนตนเองเสมอ เช่น ต้องให้อาหารลูกและดูแลเรื่องเสื้อผ้าให้ลูกก่อน เป็นต้น แต่พ่อแม่ในยุคสมัยนี้บางครั้งก็ให้ความสำคัญในสิ่งที่ลูกต้องการจนเกินไป จนสิ่งที่ทำเพื่อลูกกลับมาทำร้ายสุขภาพกายและจิตใจของพ่อแม่เอง เช่น พ่อต้องทิ้งทุกอย่างที่ทำอยู่และวิ่งข้ามจากฝั่งนึงไปยังฝั่งนึงที่สวนสัตว์เพื่อซื้อน้ำให้ลูกเพียงเพราะลูกหิวน้ำ แทนที่จะบอกกับลูกว่า 'รอก่อนนะครับไว้เราผ่านร้านขายน้ำแล้วพ่อจะซื้อให้' หรือบางครั้งที่คุณแม่จะต้องลุกขึ้นมากลางดึกหลาย ๆ ครั้งเพียงเพราะลูกกลับตัวไปมา พลิกตัวส่งเสียงอ้อแอ้ ซึ่งจริง ๆ แล้วหากปล่อยลูกไว้ ลูกก็ไม่เป็นอะไร ลูกอาจตื่นขึ้นมาบ้างและหากพบว่าไม่มีใครสนใจ สุดท้ายจะชินและหลับไปได้เองในที่สุด

ผู้เขียนคิดว่า 5 ปัญหาข้างต้นนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวต่อสังคมในอนาคตหากยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกวิธี เด็ก ๆ เหล่านี้อาจโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่เอาแต่ใจ มีความเห็นแก่ตัว ไม่มีความอดทน และเป็นปัญหาสังคมในที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ความผิดพวกเค้าที่เป็นแบบนั้น หากแต่เป็นความผิดของผู้เป็นพ่อแมที่ปล่อยให้ลูกประพฤติตามใจ จนชินกับนิสัยพฤติกรรมเหล่านี้ ดังนั้นการหวังมากขึ้น การขอมากขึ้น การให้น้อยลง จะช่วยทำให้ลูกแข็งแกร่งและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในโลกแห่งความจริง ไม่ใช่เพียงแค่ในโลกที่เราสร้างให้ลูกนะคะ

ที่มา: Huffington Post

สัญญาณบ่งบอกว่าลูกเป็นเด็กสปอยล์และวิธีแก้

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

บทความโดย

สินิธฐ์ธรา ชื่นชูจิตต์

  • หน้าแรก
  • /
  • ชีวิตครอบครัว
  • /
  • 5 เหตุผลที่ชี้ว่าการเลี้ยงลูกในยุคสมัยใหม่อาจเป็นปัญหาขั้นวิกฤต
แชร์ :
•••
  • ทำความรู้จักวิธีเลี้ยงลูกในยุค เจน อัลฟ่า (Gen Alpha)

    ทำความรู้จักวิธีเลี้ยงลูกในยุค เจน อัลฟ่า (Gen Alpha)

  • เลี้ยงลูกให้เป็นCEO จากแม่ที่เลี้ยงลูกสามคนโตมา เป็นหมอและCEO

    เลี้ยงลูกให้เป็นCEO จากแม่ที่เลี้ยงลูกสามคนโตมา เป็นหมอและCEO

  • น้องมะลิจัดฟัน ลูกแม่โบว์ แวนด้า จัดฟันแต่เด็ก เด็ก 6 ขวบก็จัดฟันได้แล้วหรอ

    น้องมะลิจัดฟัน ลูกแม่โบว์ แวนด้า จัดฟันแต่เด็ก เด็ก 6 ขวบก็จัดฟันได้แล้วหรอ

  • อยากให้ลูกฉลาด แม่ท้องต้องทำ 5 เรื่อง

    อยากให้ลูกฉลาด แม่ท้องต้องทำ 5 เรื่อง

app info
get app banner
  • ทำความรู้จักวิธีเลี้ยงลูกในยุค เจน อัลฟ่า (Gen Alpha)

    ทำความรู้จักวิธีเลี้ยงลูกในยุค เจน อัลฟ่า (Gen Alpha)

  • เลี้ยงลูกให้เป็นCEO จากแม่ที่เลี้ยงลูกสามคนโตมา เป็นหมอและCEO

    เลี้ยงลูกให้เป็นCEO จากแม่ที่เลี้ยงลูกสามคนโตมา เป็นหมอและCEO

  • น้องมะลิจัดฟัน ลูกแม่โบว์ แวนด้า จัดฟันแต่เด็ก เด็ก 6 ขวบก็จัดฟันได้แล้วหรอ

    น้องมะลิจัดฟัน ลูกแม่โบว์ แวนด้า จัดฟันแต่เด็ก เด็ก 6 ขวบก็จัดฟันได้แล้วหรอ

  • อยากให้ลูกฉลาด แม่ท้องต้องทำ 5 เรื่อง

    อยากให้ลูกฉลาด แม่ท้องต้องทำ 5 เรื่อง

  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การตั้งชื่อลูก
    • โภชนาการระหว่างตั้งครรภ์​
    • การคลอดบุตร
    • หลังคลอดบุตร
  • ช่วงวัยของเด็ก
    • ทารก
    • วัยเตาะแตะ
    • เด็กเล็ก
    • เด็กวัยเรียน
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การเงิน การวางแผนครอบครัว
    • โรงเรียนพ่อแม่
    • เซ็กส์และความสัมพันธ์
  • การตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • นมแม่และนมผง
  • ไลฟ์สไตล์​
    • ข่าว
    • ดวงและราศี
    • กิจกรรมของครอบครัว
    • ดารา-แฟชั่น
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore
  • Thailand
  • Indonesia
  • Philippines
  • Malaysia
  • Sri Lanka
  • India
  • Vietnam
  • Australia
  • Japan
  • Nigeria
  • Kenya
พันธมิตรของเรา
Mama's Choice Partner Brand Logo
© Copyright theAsianparent 2021. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้
บทความ
  • สังคมออนไลน์
  • COVID-19
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • ช่วงวัยของเด็ก
  • สุขภาพ
  • ชีวิตครอบครัว
  • การศึกษา
  • ไลฟ์สไตล์​
  • วิดีโอ
  • ชอปปิง
  • TAP IDOL
เครื่องมือ
  • ?คอมมูนิตี้สำหรับคุณแม่
  • ติดตามการตั้้งครรภ์
  • ติดตามพััฒนาการของลูกน้อย
  • สูตรอาหาร
  • อาหาร
  • โพล
  • VIP Parents
  • การประกวด
  • โฟโต้บูท

ดาวน์โหลดแอปของเรา

  • ติดต่อโฆษณา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทีม
  • กฎการใช้งานคอมมูนิตี้
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดการใช้
  • มาเข้าร่วมกับเรา
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ?ฟีด
  • โพล
เปิดในแอป