12 ความเชื่อเกี่ยวกับทารก ความยาวนิ้วบอกความฉลาด เด็กนิ้วนางยาวจะเก่งเลข

รวมหลากหลาย ความเชื่อเกี่ยวกับทารก ความเชื่อหลังคลอด เขาบอกว่า ความยาวนิ้วบอกความฉลาดได้ เด็กนิ้วนางยาวกว่านิ้วชี้ จะเก่งคณิตศาสตร์

รวม ความเชื่อเกี่ยวกับทารก

เรื่องความเชื่อนี่มีอยู่ทุกชนชาติ แน่นอนว่าประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เต็มไปด้วยความเชื่อต่าง ๆ มากมาย รวมไปถึง ความเชื่อเกี่ยวกับทารก ซึ่งบางอย่างก็ต้องฟังหูไว้หู เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่บางอย่างก็ถือว่าเป็นความเข้าใจที่ผิด แถมยังไม่ได้ส่งผลดีต่อทารกด้วย วันนี้เราเลยมีความเชื่อเกี่ยวกับเด็กมาให้อ่าน รวมไปถึงไขข้อข้องใจระหว่างความจริงกับความเชื่อกัน

ความเชื่อเกี่ยวกับทารก

  • เด็กนิ้วนางยาวจะเก่งเลข

มีความเชื่อหนึ่งว่า ความยาวของนิ้ว สามารถบ่งบอกความฉลาดของเด็กได้ เนื่องจากความยาวของนิ้ว มีส่วนสัมพันธ์กับฮอร์โมนของเด็ก ที่ได้รับมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เด็กที่มีนิ้วนางยาวกว่านิ้วชี้ จะเก่งคณิตศาสตร์กว่า ส่วนเด็กที่นิ้วชี้ยาวกว่านิ้วนาง จะเก่งทางด้านภาษา

อย่างไรก็ตาม ฮอร์โมนอาจจะมีส่วนก็จริง แต่อีกหนึ่งสิ่งสำคัญ อยู่ที่การส่งเสริมจากคุณพ่อคุณแม่ และการเรียนรู้ของเด็กด้วย ถ้าหากได้รับการส่งเสริมที่ดี เด็กก็สามารถเก่งขึ้นได้เช่นเดียวกัน

  • เด็กใส่กำไลข้อเท้าจะเรียกโชคลาภ

เรามักจะเห็นเด็กทารกใส่กำไลข้อเท้า เวลาผู้ใหญ่มารับขวัญหลาน ก็มักจะให้กำไลทองกัน เนื่องจากความเชื่อของคนโบราณ มักให้เด็กทารกใส่กำไลข้อเท้า โดยเชื่อกันว่า จะนำพาโชคลาภมาสู่ครอบครัว

จริง ๆ แล้วความเชื่อนี้ เกิดจากการอยากให้มีสิ่งที่ช่วยบอกตำแหน่งของเด็กมากกว่า เวลาเด็กใส่กำไล เราจะได้ยินเสียงเวลาเด็กเคลื่อนที่ รวมไปถึงรู้ว่าเด็กหลับหรือตื่นอยู่ แต่ข้อควรระวังก็คือ ให้ระวังเรื่องขนาด ต้องคอยเปลี่ยน ไม่ให้รัดข้อเท้าแน่นจนเกินไป

ความเชื่อเกี่ยวกับทารก

  • เด็กร้องไห้เพราะเห็นผี

ความเชื่อว่าเด็กร้องไห้หนัก เนื่องจากเห็นผี ถือเป็นความเชื่อที่อยู่กับคนหลาย ๆ ชนชาติเลย จนถึงขั้นเอาไปทำหนังกันมากแล้ว จริง ๆ แล้วการที่เด็กร้องไห้ หรือมีอาการโคลิคนั้น เป็นอาการที่พบบ่อยในเด็กแรกเกิด ตั้งแต่ 3 สัปดาห์ ถึง 3 เดือน

เด็กเล็กมักจะร้องนาน ร้องไม่หยุด และมักจะร้องในช่วงกลางคืน คนสมัยก่อนมักจะเรียกว่า เด็กร้องร้อยวัน ซึ่งเด็กไม่ได้ร้องเพราะเห็นผี โดยทั่วไปแล้ว มักจะร้องเพราะปวดท้อง ไม่สบายท้อง

  • เด็กปานแปลว่าเคยเกิดแล้วชาติหนึ่ง

คนโบราณเชื่อกันว่า ปาน ไม่ว่าจะเป็นปานแดงหรือปานดำ หมายถึงรอยตำหนิ ที่ถูกป้ายเอาไว้ เพื่อที่ว่าตอนเกิดใหม่ ญาติพี่น้องจากชาติก่อนจะได้จำได้

ความเชื่อนี้ไม่ได้มีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน แต่ในแง่ของพันธุกรรม ปานที่ขึ้นตามร่างกาย เกิดขึ้นได้ตามกรรมพันธุ์ เพราะเซลล์ผิวหนังส่วนนั้นผิดปกติ บางคนเมื่อโตขึ้น ปานก็จะจางลงไปเอง แต่บางคงก็เป็นปานแบบถาวร แต่ถ้าหากพบความผิดปกติ เช่น เข้มขึ้น อาจจะปรึกษาแพทย์ร่วมด้วยก็ได้

ความเชื่อเกี่ยวกับทารก

  • เด็กนอนแล้วยิ้มเพราะเล่นกับแม่ซื้อ

คนเป็นพ่อเป็นแม่ บางทีเวลาลูกนอนหลับ เราก็มักจะนั่งมองหน้าเขา บางครั้งเด็กทารกก็ยิ้มระหว่างหลับ ซึ่งมีความเชื่อโบราณบอกไว้ว่า ที่ทารกนอนยิ้มระหว่างหลับ เพราะกำลังเล่นกับแม่ซื้ออยู่

แต่ที่จริงแล้ว เวลาทารกหลับ บางครั้งก็จะทำท่าขยับปาก ขมวดคิ้ว ทำหน้าย่ม หรือว่ายิ้ม อาการเหล่านี้ไม่ได้บอกว่ากำลังฝันหรือเล่นอะไรอยู่ การที่เขาแสดงสีหน้าท่าที เป็นหนึ่งในพัฒนาการของกล้ามเนื้อใบหน้านั่นเอง

  • เด็กป่วยบ่อยต้องยกให้เป็นลูกคนอื่นถึงจะหาย

เวลาที่เด็กเล็กป่วยหนัก เจ็บออด ๆ แอด ๆ ป่วยบ่อย ร่างกายไม่แข็งแรง คนโบราณมักจะบอกว่า ให้ยกเด็กให้เป็นลูกคนอื่น เพื่อแก้เคล็ด แล้วลูกจะหายดี

จริง ๆ แล้วเรื่องนี้เป็นเพียงแค่ความเชื่อ การยกลูกให้คนอื่น แค่ช่วยในเรื่องของจิตใจเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของลูกน้อยเลย เนื่องจากเป็นเรื่องของสุขภาพ ถ้าหากอยากให้หายป่วย ให้ไปหาหมอค่ะ

ความเชื่อเกี่ยวกับทารก

  • เด็กตากแดดแก้ตัวเหลืองได้

เด็กทารกที่มีอาการตัวเหลือง บางครั้งคนโบราณจะพาไปตากแดดในตอนเช้า เนื่องจากตามความเชื่อโบราณ เขาเชื่อกันว่าจะสามารถแก้ปัญหาตัวเหลืองได้

อันที่จริงแล้ว เด็กทารกส่วนใหญ่จะมีอาการตัวเหลืองเล็กน้อยช่วง 3-4 วัน และจะหายได้เองในอายุ 5-7 วัน ส่วนเรื่องแสงแดดนั้นไม่ได้ช่วย แสงที่จะช่วยเรื่องตัวเหลือง คือแสงสีน้ำเงินเท่านั้น ถ้าลูกตัวเหลืองผิดปกติ ควรพาลูกไปหาหมอมากกว่า

  • บีบหัวนมเด็กผู้หญิง ช่วยให้หัวนมไม่บอด

ความเชื่อโบราณเขาบอกไว้ว่า ให้บีบหัวนมเด็กทารกผู้หญิงเวลาอาบน้ำ จะช่วยทำให้เด็กโตขึ้นแล้วหัวนมไม่บอด ซึ่งจริง ๆ แล้ว การที่หัวนมจะบอดหรือไม่นั้น ส่วนใหญ่จะรู้ในช่วงใกล้คลอดหรือตั้งครรภ์ โดยเป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มสร้างน้ำนม ในเด็กทารกผู้หญิงจะไม่เห็นชัดเจน

ความเชื่อเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ผิด พ่อแม่ไม่ควรไปยุ่งกับหัวนมของเด็กทารก นอกจากจะทำให้ลูกเจ็บหรือรำคาญแล้ว ถ้าหากบีบแรงยังทำให้อักเสบได้ด้วย

ความเชื่อเรื่องเด็ก

  • โกนผมไฟ ผมจะดกดำ

คนโบราณนิยมโกนผมไฟเด็ก เพราะเชื่อกันว่า ผมของเด็กที่ติดมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ เป็นผมที่ไม่สะอาด แล้วก็บอบบางมาก หลุดร่วงง่าย จึงต้องโกนทิ้งไปก่อน โดยเชื่อกันว่า การโกนผมไฟ จะทำให้ผมที่ขึ้นมาใหม่ดกดำขึ้น

แต่ความจริงแล้ว การโกนผมไม่ได้ทำให้ผมดกดำขึ้นแต่อย่างใด การที่ผมจะดกดำหรือไม่ แท้จริงแล้วขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ รวมไปถึงการดูแลสภาพเส้นผมมากกว่าค่ะ

  • ดอกอัญชันทำให้ผมและคิ้วดกดำ

พ่อแม่ที่หัวโบราณหน่อย ๆ รวมไปถึงญาติผู้ใหญ่ คนเฒ่าคนแก่ มักจะชอบเอาดอกอัญชันมาทาคิ้วและผมของเด็ก เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้คิ้วและผมดกดำ

ที่จริงแล้ว ดอกอัญชันมีสารกลุ่มแอนโธไซยานิน หากทำมาหมักผม จะช่วยกระตุ้นหนังศีรษะ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงรากผม แล้วก็ส่งผลให้ผมดกดำได้ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณแม่ควรคำนึงด้วย ก็คือผิวของทารกบอบบางมาก เกิดการระคายเคืองได้ง่าย ดังนั้นการเอาอัญชันไปทา อาจทำให้เกิดผื่นแพ้ได้

ความเชื่อเรื่องเด็ก

  • บีบจมูกทารก จะทำให้จมูกโด่ง

แทบทุกคนน่าจะเคยโดยผู้ใหญ่ดึงดั้งให้ ความเชื่อโบราณเขาบอกไว้ว่า ให้บีบจมูกทารกเป็นประจำ จะทำให้สันจมูกโด่งสวย จริง ๆ แล้วสันจมูกของเด็ก จะเป็นกระดูกอ่อน ๆ เด็กเกิดใหม่แทบทุกคนจะจมูกดูแบน ๆ เป็นปกติ

เมื่อเด็กโตขึ้น จมูกจะโด่งหรือไม่โด่งนั้น ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ ดังนั้นการบีบ นวด คลึงใดใด ไม่มีผลเลยว่าจะทำให้ดั้งโด่งหรือไม่ แถมการไปบีบจมูกทารกที่ผิวบอบบาง อาจทำให้อักเสบได้ด้วย

  • ดัดขาตั้งแต่เล็ก ขาจะไม่โก่ง

ความเชื่อเรื่องการดัดขาทารก มีอยู่ทุกยุุคสมัย เด็กแรกเกิดจะดูขาโก่ง ๆ เป็นปกติ แท้จริงแล้ว ขาเด็กจะเริ่มตรง เข้าที่เข้าทาง ก็เมื่อมีอายุได้ประมาณ 2 ปี แต่ถ้าไปดัดขามาก ๆ เมื่อถึงเวลาที่ควรจะตรง มันอาจจะไม่ตรงก็ได้นะ

ถ้าหากกรณีที่เด็กอายุครบ 2 ขวบแล้ว แต่ขายังโก่งอยู่ อาจจะปรึกษาแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำ และรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ได้ค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ทำนายความฝัน ฝันเห็นหนอน ฝันนี้ถูกหวยหรือเปล่า ฝันให้โชคไหม?

สีของอึทารก อึของเด็กที่กินนมแม่กับกินนมผงต่างกันหรือไม่ อึแบบไหนผิดปกติ

7 ความเชื่อการป้อนนม ที่คุณไม่ควรเชื่อ มีอะไรบ้างที่ไม่จริง

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!