ภาวะ แท้งค้าง ยากที่จะรู้ได้ว่าทารกในครรภ์เสียชีวิตมานานเท่าไหร่แล้ว

แท้งค้าง อาการแท้งแบบที่แม่ท้องไม่ทันรู้ตัว และยากที่จะรู้ได้ว่าทารกในครรภ์เสียชีวิตมานานเท่าไหร่แล้ว อาการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร แม้ว่าภาวะนี้จะเกิดได้น้อยมาก เพียงประมาณ 1% การตั้งครรภ์ทั้งหมด แต่แม่ควรรู้ไว้เพื่อดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ให้ดีที่สุด
ภาวะ แท้งค้าง เกิดขึ้นได้แบบที่แม่ท้องไม่รู้ตัว
โดยทั่วไปอาการแท้งที่เกิดขึ้นจะพบได้ประมาณ 15 - 20% ของการตั้งครรภ์ทั้งหมด ส่วนภาวะ แท้งค้าง แม้จะพบเพียงแค่ 1% แต่เป็นปัญหาที่ยากจะรู้ว่ามีการแท้งเกิดขึ้น และทารกในครรภ์เสียชีวิตจริง ๆ มานานเท่าไหร่แล้ว
“แท้งค้าง” จัดเป็นการแท้งชนิดหนึ่งที่ทารกเสียชีวิตภายในครรภ์มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่แพทย์จะตรวจพบและทำการยุติการตั้งครรภ์ ซึ่งภาวะแท้งค้างนั้นยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ว่า เหตุใดทารกที่เสียชีวิตในครรภ์จึงไม่แสดงอาการแท้งออกมา แต่สาเหตุของการแท้งค้าง อาจเกิดขึ้นได้จาก
- ทารกในครรภ์มีโครโมโซมผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ทารกเสียชีวิตมากที่สุด
- พฤติกรรมของแม่ทั้งก่อนและระหว่างตั้งครรภ์ที่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หรือใช้สารเสพติด
- การติดเชื้อของทารกในครรภ์ หรือการติดเชื้อจากแม่แล้วมีผลกระทบต่อลูกในครรภ์
- แม่ตั้งครรภ์มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน
- สารพิษจากสิ่งแวดล้อมที่แม่ได้รับขณะตั้งครรภ์
สัญญานที่อาจเกิดภาวะแท้งค้างที่ควรสังเกต
- จากที่เคยมีอาการคลื่นไส้อาเจียน แต่อาการเหล่านั้นหายไป
- จากที่เคยมีอาการคัดตึงเต้านม แต่อาการนั้นหายไป
- ขนาดท้องไม่โตขึ้นตามอายุครรภ์
- ทารกไม่ดิ้นในอายุครรภ์ที่ควรดิ้น เช่น ท้องแรกลูกควรเริ่มดิ้นเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 18 - 20 สัปดาห์
- รู้สึกว่าลูกดิ้นแล้วหยุดดิ้น มีการดิ้นน้อยลง
- มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
หากพบอาการเหล่านี้อย่ายิ่งนอนใจ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ไม่ต้องรอให้ถึงกำหนดที่นัด ในบางกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงก็อาจส่งผลกระทบต่อตัวคุณแม่มากขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม อาการนี้เกิดขึ้นแค่ประมาณ 1% เท่านั้น หากคุณแม่ดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ไม่สูบบุหรี่ อยู่ในที่ที่ลดการเผชิญกับสารพิษหรือมลภาวะเป็นพิษต่าง ๆ ก็จะช่วยทำให้คุณแม่และลูกน้อยในครรภ์แข็งแรงสมบูรณ์ ปลอดจากโรคภัยและไม่มีโอกาสที่จะเกิดภาวะดังกล่าวนี้ขึ้นได้นะคะ
พฤติกรรมเสี่ยงแท้ง แม่ท้องไตรมาสแรก อันไหนทำได้ อันไหนต้องห้าม
พฤติกรรมเสี่ยงแท้ง แม่ท้องไตรมาสแรก
ท้องแรกกังวลเหลือเกิน กลัวว่าทำโน่นทำนี่แล้วจะแท้ง! ไม่ต้องกลัวไปนะคะ คุณหมอมีคำแนะนำ พฤติกรรมเสี่ยงแท้ง แม่ท้องไตรมาสแรก อันไหนทำได้ อันไหนต้องห้าม เป็นคำเตือนให้แม่ท้องระมัดระวังตัว และคำแนะนำในการดูแลสุขภาพให้ดี
ปัจจัยเสี่ยงต่อการแท้งบุตร
ปัจจัยเสี่ยงต่อการแท้งบุตรมีหลายอย่าง ปัจจัยส่วนหนึ่งสามารถป้องกันได้ แต่ปัจจัยบางอย่างก็ไม่สามารถป้องกันหรือแก้ไขได้ เช่น อายุของคุณแม่ที่มากขึ้น หรือในบางครั้งอาจไม่พบปัจจัยเสี่ยงในคุณแม่ที่แท้งบุตรเลย (โดยเฉลี่ยอาจพบการแท้งบุตรตามธรรมชาติได้ถึงร้อยละ 10-15)
การเตรียมตัวคุณแม่เพื่อป้องกันการแท้งบุตร
- ควรดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์
- ควรรักษาโรคประจำตัวให้เป็นปกติหรือควบคุมโรคได้ก่อนการตั้งครรภ์ เช่น ความดันเลือดสูง, เบาหวาน, ภูมิคุ้มกันผิดปกติ (SLE และ antiphospholipid syndrome) เป็นต้น
- ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่
- ควรลดน้ำหนักตัวให้เป็นปกติก่อนการตั้งครรภ์
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ
แม่ท้องไตรมาสแรกต้องเลี่ยง
- หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด เช่น อาหารที่ไม่สุก, ชีสหรือเนยแข็ง, ไส้กรอกและแฮม, ชาและกาแฟ, น้ำอัดลม
- หลีกเลี่ยงการติดเชื้อบางโรคระหว่างการตั้งครรภ์ เช่น หัดเยอรมัน โดยการหลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่มีคนแออัด โดยเฉพาะคุณแม่ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรค
แม่ท้องไตรมาสแรกต้องห้าม
งดการสูบบุหรี่ / การดื่มแอลกอฮอล์ / การใช้สารเสพติด
กิจกรรมของคุณแม่ในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
- การออกกำลังกาย สามารถทำได้ตามปกติเหมือนก่อนการตั้งครรภ์
โดยหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือกีฬาที่อาจมีการกระแทก, การกระโดด และการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วมาก ดังนั้น คุณแม่สามารถออกกำลังกายโดยการวิ่ง, ว่ายน้ำ, ปั่นจักรยาน, เต้นแอโรบิค, โยคะ และอื่นๆ ได้อย่างปลอดภัย
- การมีเพศสัมพันธ์
ในการตั้งครรภ์ที่ปกติการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร ดังนั้น ถ้าคุณแม่ไม่ได้มีภาวะแทรกซ้อน สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัย
- การทำงานบ้าน / ยกของหนัก
อาจทำให้คุณแม่มีอาการปวดเสียดมดลูกได้ เช่นเดียวกันกับการมีเพศสัมพันธ์ ถ้าคุณแม่ไม่ได้มีภาวะแทรกซ้อน การทำงานไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร
- การทำงานในที่ทำงานหรือการทำงานบ้าน
ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีหรือสิ่งที่อันตราย เช่น ยาฆ่าแมลง, สารระเหย, โลหะหนักที่ผสมในสารเคมี, รังสีจากที่ทำงาน เป็นต้น
- ถ้าคุณแม่มีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น เช่น ปวดท้องตลอดเวลา, เลือดออก หรือมีภาวะแท้งคุกคาม
ให้หยุดกิจกรรมทุกอย่าง นอนพักผ่อนให้มาก และพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษา
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
ที่มา : www.haamor.com
บทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ :
แชร์ประสบการณ์แม่ สิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน จนกระทั่งฉันแท้ง!! และตั้งรับไม่ทัน
แม่ท้องควรรู้!! ดื่ม "ชาดอกคำฝอย" อาจเสี่ยงแท้ง