เตรียมพร้อมเข้า ป 1 พ่อแม่ต้องทำอย่างไร
เตรียมพร้อมเข้า ป 1 พ่อแม่รู้ไหมว่าแต่ละประเทศเขาทำอะไรกันบ้าง? เพราะในประเทศไทยก่อนที่ลูกจะเข้าเรียนชั้น ป 1ได้ ต้องผ่านการสอบแข่งขันที่ดุเดือด เพื่อให้ลูกได้เข้าโรงเรียนได้ตามที่ตั้งใจไว้ พอสอบได้ก็ให้ลูกเรียนพิเศษเพิ่มเติมไปอีก เนื่องจากกลัวว่าลูกจะด้อยกว่าคนอื่น สู้เพื่อนๆ ในห้องไม่ได้ งานนี้คนที่เหนื่อยคือลูก ๆ แล้วประเทศอื่นล่ะ พ่อแม่มีวิธีการเตรียมพร้อมให้ลูกเข้าเรียนชั้นประถมอย่างไร TheAsianparent Thailand มีคำตอบค่ะ
เด็กญี่ปุ่น เตรียมตัวขึ้น ป 1 อย่างไร
1 ฝึกให้ลูกเข้านอนเร็ว ตื่นแต่เช้า
เมื่อลูกต้องเข้าเรียนชั้นประถม สิ่งแรกๆ ที่ต้องฝึกคือการปรับเวลานอน เนื่องจากการเรียนมีความแตกต่างจากชั้นอนุบาลอยู่มาก ถ้าลูกสามารถปรับตัวได้เร็วย่อมจะดีกว่า อีกทั้งเด็กวัยนี้ต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอ ถ้าให้ลูกน้อยนอนได้เต็มที่ตื่นมาก็จะรู้สึกสดชื่น แถมยังมีเวลากินข้าวเช้าก่อนไปโรงเรียนอีกด้วย
2 สอนวิธีจับดินสอให้ลูก
อย่าคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไม่สำคัญ ถึงแม้ว่าเด็กบางคนอาจจะจับดินสอหรือสีได้ตั้งแต่เรียนขั้นอนุบาล แต่พ่อแม่รู้หรือไม่ว่าการจับดินสอแบบผิดๆ ทำให้ลูกน้อยรู้สึกเหนื่อย เมื่อยง่ายเวลาเขียน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเรียนและสมาธิของเด็กในอนาคต ดังนั้น ฝึกให้ลูกจับดินสอให้เป็นก็สามารถช่วยลูกเขียนได้ดีค่ะ
3 ใส่ใจเรื่องเวลา
อย่าปล่อยให้ลูกเป็นคนที่อะไรก็เดี๋ยว เดี๋ยวกิน เดี๋ยวทำ ต้องให้ลูกรู้จักคุณค่าของเวลา แบ่งเวลาให้เป็น รู้จักการจัดลำดับสำคัญก่อนหลัง อย่าปล่อยให้มัวแต่เล่นจนกินข้าวไม่ทัน หรือทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ทันเพื่อน ช่วงแรกๆ พ่อแม่อาจคอยกำกับให้ลูกรู้ว่าเวลานี้ควรทำอะไร และไม่ควรทำอะไรเป็นตัวอย่าง ให้เด็กๆ ได้ซึมซับไปเองดีกว่า แล้วค่อยปล่อยเข้าลูกได้ทำเอง
เตรียมพร้อมเข้า ป 1
4 รักษาสุขภาพอนามัยของตนเอง
เด็กญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะเดินไปโรงเรียนเอง รวมถึงต้องแบกกระเป๋าที่เต็มไปด้วยหนังสือ และอุปกรณ์การเรียนที่หนักไม่ใช่น้อย ทั้งยังเดินกันตั้งแต่ชั้น ป.1 อีกด้วย เด็กๆ ต้องเจอกับสภาพแวดล้อม สภาพอากาศที่แตกต่างกัน การดูแลร่างกายจึงสำคัญ พ่อแม่คนญี่ปุ่นจึงพยายามสอนลูกให้รู้จักดูแล และช่วยเหลือตนเองให้ได้ ตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนชั้น ป. 1
5 ทำความเข้าใจกับเส้นทางไปโรงเรียน
ก่อนที่จะเปิดเทอม พ่อแม่จะเปิดแผนที่แนะนำเส้นทาง หรือพาเดินไปโรงเรียนก่อน เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เส้นทางไปโรงเรียนกันก่อน ลูกน้อยจะได้รู้ว่าต้องเดินอย่างไรถึงจะปลอดภัย การเดินข้ามถนน ข้ามสี่แยกต่างๆ ต้องระมัดระวังให้ดี เรียกว่าติวเข้มกันเลยทีเดียว
6 ต้องใช้ห้องน้ำให้เป็น
โรงเรียนบางแห่ง ห้องน้ำอาจจะยังไม่มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นโถแบบสมัยใหม่ เด็กๆ อาจไม่คุ้นเคย พอเห็นก็ไม่รู้ใช่ยังไง ใช้ไม่เป็น พ่อแม่ญี่ปุ่นจึงให้ความสำคัญว่าก่อนที่ลูกจะเข้าเรียนชั้นประถม ต้องพยายามพาไปเรียนรู้การเข้าห้องน้ำให้ถูกวิธี ไม่งั้นลูกน้อยของพวกเขาลำบากแน่ๆ
นี่ยังเป็นแค่เรื่องการปรับพฤติกรรมของเด็กขั้นพื้นฐาน เพื่อเตรียมตัวเข้าสู้ชั้นประถมเท่านั้น แต่รู้ไหมว่าเด็กๆ ญี่ปุ่นยังต้องเตรียมตัวอีก ต้องทำสิ่งเหล่านี้ให้ได้ทั้ง 18 ข้อ สิ่งเหล่านั้นจะเป็นอะไรบ้าง มาดูกันต่อในหน้าถัดไปค่ะ
ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องความเป็นระเบียบวินัยมาก ไม่แปลกใจเลยทำไมพวกเขาถึงเป็นคนที่มีวินัยขนาดนั้น เพราะคนญี่ปุ่นนั้นถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนชั้น ป 1 นั่นเอง
โดยเรื่องราวนี้ เป็นของคุณแม่ท่านหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Mandaring เธอได้โพสต์เอกสารปฐมนิเทศของโรงเรียน ที่ผู้ปกครองต้องรับทราบ และต้องสอนให้ลูกปฎิบัติตามนี้ด้วย เห็นแต่ละข้อแล้วอดรู้สึกเหนื่อยแทนไม่ได้ จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ
กฎ 18 ข้อ ก่อนเข้าเรียนชั้น ป 1
กฎกติกา หรือข้อบังคับเหล่านี้ พ่อแม่ญี่ปุ่นต้องพยายามสอนให้ลูกๆ ทำให้ได้ก่อนเข้าเรียนชั้นประถม ซึ่งกฎนี้จะแบ่งออกเป็น 2 หมวด คือ พฤติกรรมและทัศนคติพื้นฐาน และความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ
หมวดที่ 1 “พฤติกรรมและทัศนคติพื้นฐาน”
- ฟังผู้อื่นพูดอย่างตั้งใจ
- ทักทายผู้อื่น และตอบคำถามด้วยความชัดเจน ฟังเข้าใจได้ง่าย
- นั่งด้วยท่าทางที่เหมาะสมบนเก้าอี้ของคุณ
- เข้าใจอย่างชัดเจนว่า ของของผู้อื่น ไม่ได้เป็นของของเรา!
- หลังจากถอดรองเท้าแล้ว จัดวางให้เรียบร้อยบริเวณทางเข้า
- ต้องมั่นใจว่า เสื้อผ้าของคุณสะอาดและไม่ยับยู่ยี่
- จัดโต๊ะและสิ่งรอบข้างของคุณให้เรียบร้อยและหยิบจับง่าย
- มีความรับผิดชอบในการนอนและการตื่นเช้าให้ตรงเวลาด้วยตนเอง
- ทานอาหารเช้าที่มีความเหมาะสม
- แปรงฟันเสมอๆ
- ไม่พูดโกหก
เตรียมพร้อมเข้า ป 1 เด็กญี่ปุ่น
หมวดที่ 1 “ความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ”
- ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง หรือทำให้เขารู้สึกว่าถูกทิ้ง
- หากเห็นใครกำลังประสบปัญหา ไปช่วยเขาทันที
- อย่าพูดจาไม่ดี หรือนินทาว่าร้ายเพื่อนของคุณ
- สามารถที่จะเข้ากับเพื่อนๆ เล่น และเรียนรู้จากทุกคนได้
- อย่าเล่นอยู่คนเดียว แต่เป็นมิตรและเป็นเพื่อนกับทุกๆคน
- ออกไปเล่นข้างนอก เพราะคุณจะได้ออกกำลังกาย และผ่อนคลายจากธรรมชาติรอบด้าน
- ถ้าคุณทำอะไรผิดพลาด จงรู้จักขอโทษ
เป็นยังไงบ้างคะ พ่อแม่ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กับลูกได้ ไม่จำเป็นต้องทำตามทั้งหมด เพราะวัฒนธรรมญีปุ่นกับไทยไม่ ค่อยๆ สอนลูกไปก็ได้ค่ะ สำหรับวิธีการเตรียมพร้อมแบบคนไทย สามารถอ่านต่อในหน้าถัดไป
สำหรับเด็กไทย ที่น้องๆ ได้สอบแข่งขันมาเรียบร้อยแล้ว สิ่งต่อมาที่พ่อแม่ควรทำคือ เตรียมความพร้อมให้ลูกก่อนเข้าเรียน ป 1 ที่ไม่ใช่การให้ลูกนั่งทำแบบฝึกหัด เรียนเสริมหรือเรียนพิเศษเพียงอย่างเดียว แต่ควรมีการส่งเสริมให้ลูกได้มีความพร้อมด้านอื่นด้วย โดยมีหลักการ ดังต่อไปนี้
1 ใช้เวลาอยู่กับลูกอย่างสม่ำเสมอ
การใช้เวลาอยู่กับลูก ไม่ใช่ว่าเราเล่นกับลูกแปปๆ แล้วปล่อยให้ลูกอยู่ในโลกของตัวเอง แต่เป็นการเข้าไปพูดคุยกับลูก โดยที่พ่อแม่อาจเลือกการเล่านิทาน เล่นกีฬา สอนลูกให้อ่านหนังสือ สอนบวกลบเลข สอนเกี่ยวกับการกินอาหาร หรือแม้แต่การพาไปเดินเล่น เรียนรู้สิ่งรอบตัวก็ตาม สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ลูกน้อยเกิดการเรียนรู้ทั้งสิ้น
2 เล่นเกมเสริมความรู้
ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ชอบเล่นเกมกันทั้งนั้น แต่การเล่นเกมของเด็กๆ ต้องเลือกสักหน่อย พยายามอย่าใช้เกมที่ยากเกินไปเพราะอาจทำให้ลูกเบื่อได้ เกมที่น่าสนใจ เช่น บิงโก โดมิโน ไพ่คู่ เป็นต้น เพื่อให้เด็กๆ ได้ฝึกคิด วิเคราะห์ และวางแผน
3 ฝึกให้ลูกเป็นคนช่างคิด
พ่อแม่คนไหนที่อยากให้ลูกเก่ง ต้องฝึกให้ลูกเป็นนักคิด เป็นเด็กที่ชอบสงสัย ชอบซักถาม หรือตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว เพราะเมื่อลูกเกิดความสงสัย เค้าก็เกิดความอยากรู้ เกิดการค้นคว้า หาความรู้เพิ่มเติมนั่นเอง ถ้าพ่อแม่เห็นว่าลูกถามมากจัง น่ารำคาญ อย่าคิดแบบนั้น แล้วดุด่าว่าลูกไป เพราะจะทำให้เด็กกลายเป็นคนไม่กล้าที่จะถาม สุดท้ายลูกก็เป็นคนไม่กล้าคิด และกลายเป็นคนที่ปิดกั้นไปในที่สุด
เตรียมพร้อมเข้า ป 1 เด็กไทย
4 ให้ความรักกับลูก
การเฝ้ามอง คอยมอบความรักลูก มีเวลาให้ลูกอยู่เสมอ คอยชม ไม่กดดัน และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก สิ่งพวกนี้จำเป็นมาก เพราะเด็กวัยนี้จะเรียนรู้พฤติกรรมและการกระทำจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะพ่อแม่ ถ้าคุณทำให้ลูกเห็นเป็นประจำเด็กก็จะจำและทำตาม
5 ปล่อยให้ลูกเล่น
การส่งเสริมพัฒนาการที่ดีของเด็ก ไม่ใช่มีเพียงแค่แบบฝึกหัดในตำราอย่างเดียว แต่เด็กยังต้องพัฒนาด้านอื่นๆ ด้วย พ่อแม่ต้องปล่อยให้ลูกได้เล่น ได้จับ สัมผัส ซึมซับความรู้ ความคิดแก้ปัญหา และการสร้างสังคมจากการเล่นบ้าง เพราะนี้ก็เป็นหนึ่งในพัฒนาการที่สำคัญเช่นกัน ไม่ต้องเน้นวิชาการที่มากเกินไป เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีความเก่งที่ต่างกัน เพียงแต่พ่อแม่ต้องหาให้ได้ว่าลูกเราเก่งหรือถนัดด้านไหนมากกว่ากัน ซึ่งแบ่งออกเป็น 8 ด้าน ดังนี้
- เก่งทางภาษา
- เก่งทางเหตุผลและคณิตศาสตร์
- เก่งด้านการใช้ร่างกายและการเคลื่อนไหว
- เก่งด้านมิติสัมพันธ์
- เก่งทางดนตรี
- เก่งทางมนุษย์สัมพันธ์
- เก่งการเข้าใจตนเอง
- เก่งด้านเข้าใจธรรมชาติ
ที่มา: anngle.org, gotoknow
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
ลูกพัฒนาการช้ารึเปล่า ดูได้จากสัญญาณต่อไปนี้
ปิดเทอมให้ลูกทำอะไรดี กิจกรรมช่วงปิดเทอมที่ลูกทำแล้วไม่เบื่อ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!