อีกสาเหตุของโรคเบาหวานที่แม่ท้องต้องระวัง

ทราบหรือไม่ครับ ว่านอกเหนือจากความอ้วนแล้ว ภาวะซึมเศร้า ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่อาจทำให้เป็นโรคเบาหวานได้นะครับ
จากการวิจัยของสถาบันสุขภาพแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่ามีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวเนื่องกันระหว่างโรคซึมเศร้าและโรคเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์
รายงานจาก NIH กล่าวว่า “ผู้หญิงที่เป็นโรคซึมเศร้าระหว่างไตรมาสที่ 1 และ ไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ และในทางกลับกัน ผู้หญิงที่เป็นโรคเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอดได้เช่นกัน”
เบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ คืออะไร ?
เบาหวานระหว่างตั้งครรภ์เป็นโรคที่เกิดขึ้นเฉพาะในสตรีตั้งครรภ์ ก่อให้เกิดอันตรายต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ โดยโรคนี้จะเกิดขึ้นในขณะที่แม่ท้องมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งทำให้น้ำตาลในเลือดสูงจนทำให้เกิดโรคเบาหวานได้
จากการวิจัยในอดีตพบว่า ความอ้วนทำให้มีโอกาสสูงในการเกิดโรคเบาหวาน แต่จากการศึกษาเพิ่มเติมในครั้งนี้ก็อาจทำให้เราได้ทราบว่า โรคซึมเศร้าก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานได้เช่นกัน
ภาวะซึมเศร้ากับโรคเบาหวาน
ดอกเตอร์ Stefanie Hinkle กล่าวว่า “จากข้อมูลที่เรามี ชี้ให้เห็นว่า อาการของโรคซึมเศร้า มักจะมาควบคู่กับโรคเบาหวาน ซึ่งแพทย์อาจจะต้องทำการเฝ้าติดตามอาการของแม่ท้องที่เป็นโรคซึมเศร้าเพื่อศึกษาอาการที่เกี่ยวข้องของโรคเบาหวาน ในขณะเดียวกัน แพทย์ก็ต้องเฝ้าติดตามอาการของคุณแม่ที่เป็นโรคเบาหวานเพื่อติดตามอาการของโรคซึมเศร้าหลังคลอดที่อาจจะเกินขึ้นด้วยเช่นกัน”
ดอกเตอร์ Cuilin Zhang หนึ่งในผู้ทำการค้นคว้าอีกท่านกล่าวว่า “ผู้หญิงที่เป็นโรคซึมเศร้าตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงไตรมาสที่ 3 มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเป็นโรคเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์” อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ในกลุ่มผู้หญิงที่เป็นโรคอ้วนนั้น อาการซึมเศร้าจะมีผลต่อการเป็นโรคเบาหวานหรือไม่
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
สมาคมสูตินรีแพทย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา ให้คำแนะนำว่า แม่ท้องควรไปตรวจหาอาการของโรคซึมเศร้าอย่างน้อย 1 ครั้ง ในระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์ไปจนถึง 7 วันหลังคลอด
หากมีการวินิจฉัยพบว่าคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติอยู่เสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
สำหรับในส่วนของคนที่เป็นโรคภาวะซึมเศร้าอยู่นั้น การรักษาที่ดีที่สุดคือการไปพบแพทย์ นอกเหนือไปจากนั้นแล้ว กำลังใจจากคนรอบตัวก็มีส่วนสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณหายจากอาการซึมเศร้า ดังนั้น คุณควรคิดถึงคนที่คุณรัก และรักคุณ และนึกไว้เสมอว่ารอบตัวคุณยังมีคนที่คอยห่วงใยและพร้อมให้ความช่วยเหลือคุณอยู่เสมอครับ
ที่มา sg.theasianparent.com