หยอดวัคซีนโรต้าแล้ว ทำไมลูกยังท้องเสียจากไวรัสโรต้าอีก

คุณแม่สงสัยว่าน้องเตยได้รับวัคซีนไวรัสโรต้าตอนอายุ 2-4 เดือนแล้ว ทำไมจึงเป็นได้ หมอจึงได้อธิบายเรื่องอาการท้องเสียจากการติดเชื้อไวรัสโรต้า ให้คุณแม่ฟังดังนี้ค่ะ
หยอดวัคซีนโรต้าแล้ว ทำไมลูกยังท้องเสียจาก ไวรัสโรต้า อีก
น้องเตยอายุ 1 ขวบ มาพบหมอพร้อมกับคุณแม่ ด้วยอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำมากกว่าเนื้อมา 2 วัน ถ่ายวันละ 4-5 ครั้ง จนก้นแดง มีไข้ต่ำ ๆ อาเจียน 1-2 ครั้ง แต่ร่าเริงดี ทานนมทานข้าวได้ปกติ หมอตรวจอุจจาระจึงวินิจฉัยว่าน้องเตยมีอาการท้องเสียจากการติดเชื้อ ไวรัสโรต้า
ไวรัสโรต้าคืออะไร?
โรต้า เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ที่ติดต่อได้ง่าย เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วงในเด็กเล็ก โดยพบได้มากสุดในเด็กช่วงอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี มีรายงานว่าเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีแทบทุกคนต้องเคยติดเชื้อ ไวรัสโรต้าอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต โดยการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้เด็กเล็กมีอาการท้องเสียรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการขาดน้ำและเกลือแร่
เด็ก ๆ ติดเชื้อไวรัสโรต้าได้อย่างไร?
การติดเชื้อไวรัสชนิดนี้เกิดจากการกินสิ่งที่มีไวรัสปนเปื้อนเข้าทางปาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำ อาหาร และสิ่งของ โดยไวรัสชนิดนี้อาจติดอยู่ตามสิ่งของ เช่นของเล่นเด็ก เมื่อเด็ก ๆ นำสิ่งของ หรือ มือที่เปื้อนเชื้อไวรัสเข้าปาก ก็สามารถติดเชื้อได้ จากนั้นเชื้อไวรัสเดินทางไปตามระบบทางเดินอาหาร คือ กระเพาะอาหาร และลำไส้ ทำลายเยื่อบุผนังลำไส้ทำให้เกิดอาการอักเสบติดเชื้อขึ้น
เมื่อติดเชื้อไวรัสโรต้าแล้วจะแสดงอาการอย่างไร ?
หลังได้รับเชื้อ 1-2 วัน เด็ก ๆ ที่ติดเชื้อจะเริ่ม มีไข้ และอาเจียน บางรายอาจเกิดอาการทางระบบทางเดินหายใจ คือ มีน้ำมูกไหล ไอ คอแดง ร่วมด้วย ต่อมาจะมีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว ส่วนใหญ่อาการจะหายไปภายใน 3-5 วัน ส่วนน้อยจะมีอาการท้องเสียยืดเยื้อเรื้อรังมากกว่า 1 สัปดาห์ หากการท้องเสียเกิดขึ้นเป็นเวลานาน หรือมีอาการรุนแรงทำให้เด็กขาดน้ำ และเกลือแร่มาก จนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้
ทราบได้อย่างไรว่าอาการท้องเสียเกิดจากไวรัสโรต้า?
เมื่อเด็ก ๆ มีอาการท้องเสียและไปพบคุณหมอ หากเก็บอุจจาระได้ คุณหมอจะนำส่งห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาการติดเชื้อ โดยดูจำนวนเม็ดเลือดในอุจจาระ และตรวจหาเชื้อไวรัสโรต้าได้ค่ะ
ถ้าลูกติดเชื้อไวรัสโรต้าแล้วควรได้รับการรักษาอย่างไร?
เนื่องจากไม่มียาต้านไวรัสชนิดนี้โดยตรง การรักษาอาการท้องเสียเกิดจากไวรัสโรต้าทำได้เช่นเดียวกับการรักษาโรคท้องเสียจากสาเหตุอื่น ๆ คือ ถ้าอาการไม่รุนแรงก็สามารถรับยามาทานที่บ้านได้ โดยดื่มกินน้ำเกลือแร่ชดเชยส่วนที่สูญเสียไปจากการถ่าย และอาเจียน ถ้ามีอาการอาเจียนบ่อยก็ทานยาแก้อาเจียน แต่หากมีอาการขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ตาโหล ซึม หรือทานไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่ควรรีบพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลโดยด่วน
เราจะสามารถจะปกป้องลูกจากเชื้อไวรัสโรต้าได้อย่างไร ?
คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันลูกจากเชื้อไวรัสโรต้าได้โดยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคด้วยวัคซีนป้องกันโรค เพื่อที่จะช่วยลดความรุนแรงของโรคและความจำเป็นที่จะต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล
นอกจากนี้ควรดูแลเรื่องสุขอนามัย ความสะอาดของอาหาร น้ำดื่ม ของลูก และสอนให้ล้างมืออย่างถูกต้อง ใช้ฝ่ามือถูกันให้ทั่วถึงทั้งบริเวณหลังมือ ซอกมือ ฝ่ามือ หัวแม่มือ รอบข้อมือ โดยทำทั้งสองข้างนะคะ
หากได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้าแล้ว สามารถเป็นโรคได้หรือไม่?
หลักการคือ ไม่มีวัคซีนชนิดใดป้องกันโรคได้ 100% โดยหากเป็นโรคนั้นๆก็จะลดความรุนแรงของโรคได้ จากการศึกษาวัคซีนไวรัสโรต้า พบว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อที่รุนแรงได้ประมาณ 80-90% โดยเด็กที่เคยได้รับวัคซีนครบ ถึงแม้จะติดเชื้อไวรัสนี้แล้วมีอาการ ท้องเสียก็มักมีอาการอาจไม่รุนแรง เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันอยู่แล้วค่ะ
บทความที่น่าสนใจอื่น ๆ
อาการข้างเคียงของวัคซีน แต่ละชนิดส่งผลอะไรกับลูกบ้าง
ทุกเรื่องที่พ่อแม่ควรรู้ เมื่อลูกท้องเสีย
ส่าไข้ ทารก ไข้ออกผื่น เกิดจากอะไร แม่อาบน้ำให้ลูกได้ไหม ทำยังไงถึงจะหาย