รองเท้าใบสีขาว หรือรองเท้าพละของเด็ก ๆ หากใครได้รับมรดกตกทอดมาหรือรองเท้ายังไม่ขาดใช้การได้ดี มาดูวิธีทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบให้ขาวปิ๊ง! วิธีซักรองเท้าผ้าใบลูก ซักผ้าใบให้ขาว รับเปิดเทอมด้วยวิธีเหล่านี้กันค่า

วิธีซักรองเท้าผ้าใบลูก 7 วิธีให้ขาวสะอาดเหมือนได้รองเท้าผ้าใบคู่ใหม่
วิธีที่ 1 ซักผ้าใบให้ขาว กระดาษทิชชู่สีขาว
นำรองเท้าผ้าใบไปขัดด้วยผงซักฟอกให้สะอาด หลังจากนั้นนำกระดาษทิชชู่มาแปะไว้กับรองเท้าหลาย ๆ ชั้นและนำไปตากแดด หากรองเท้ามีคราบสกปรกฝังแน่นให้ใช้น้ำเกลือฉีดก่อนใช้ทิชชู่แปะ กระดาษทิชชู่จะช่วยดูดคราบสกปรก เมื่อรองเท้าแห้งแล้วให้แกะทิชชู่ออก รับรองว่าจะได้รองเท้าผ้าใบขาวปิ๊งเหมือนใหม่
วิธีที่ 2 ซักผ้าใบให้ขาว ใช้แอมโมเนีย
นำรองเท้าผ้าใบแช่ทิ้งไว้ในน้ำยาซักผ้าขาวประมาณครึ่งชั่วโมง หรือใช้แอโมเนียเช็ดบริเวณรอยเปื้อน คราบฝังแน่น และขัดด้วยผงซักฟอก ล้างให้สะอาด หลังจากนั้นให้โรยแป้งฝุ่นทั่วรองเท้า ก่อนนำไปตาม ก็จะได้รองเท้าผ้าใบที่ขาวสะอาดปิ๊ง
วิธีที่ 3 ซักรองเท้าพละ ใช้เบกกิ้งโซดา
ถ้ารองเท้าผ้าใบมีคราบสกปรกสุด ๆ ให้แช่รองเท้าผ้าใบในน้ำเย็นซักพัก นำเบกกิ้งโซดาหรือผงซักฟอกผสมกับน้ำส้มสายชูในอัตราส่วน 2:3 คนให้เข้ากับจนเป็นเนื้อครีม นำมาขัดคราบสกปรกที่รองเท้าออกให้หมด จากนั้นนำรองเท้าผ้าใบใส่ในถุงซักผ้าเพื่อนำลงไปซักในเครื่องซักผ้ากับผงซักฟอกอีกที เสร็จแล้วนำไปพันทิชชู่ตากแห้ง เพียงเท่านี้รองเท้าผ้าใบก็ขาวใสปิ๊ง
บทความที่เกี่ยวข้อง: 10 วิธีทำให้รองเท้าหายเหม็น รองเท้าเหม็น ซักยังไงก็ไม่หาย เคล็ดลับแม่บ้าน
วิธีซักรองเท้าผ้าใบ ภาพ: bhg.com
วิธีที่ 4 ใช้ยาสีฟัน
เพียงเตรียมยาสีฟันเนื้อขาวๆ และแปรงสีฟันเก่าๆ คุณแม่ลองใช้ยาสีฟันค่อยๆ ขัดบริเวณที่เป็นคราบเหลือง หรือคราบสกปรกทั้งหลาย ขัดให้ทั่วแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้น นำไปซักออกด้วยน้ำเย็น ค่อยๆ เอาแปรงสะอาดขัดออก แล้วนำไปตากให้แห้ง สังเกตดูว่าคราบต่างๆ นั้นออกไปหรือไม่ หากยังออกไม่หมด แนะนำให้ทำซ้ำแบบนี้ไปสัก 2-3 รอบค่ะ
วิธีที่ 5 ใช้ผงฟูกับน้ำยาซักผ้า
ก่อนอื่นคุณแม่ต้องเตรียม ผงฟู ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้า น้ำและแปรงสีฟันเก่าๆ จากนั้น ผสมผงฟูและผงซักฟอกในอัตราส่วนที่เท่าๆ กัน หากเป็นน้ำยาซักผ้า คุณแม่ลองกะดูว่าเข้ากันได้ไหม ค่อยๆ เติมผงฟูทีละน้อย เมื่อผสมกันพอดี ให้นำแปรงสีฟันมาจุ่มแล้วค่อยๆ ขัดรองเท้าผ้าใบตรงส่วนที่มีคราบเกาะ ไม่ว่าจะคราบสกปรก คราบเหลือง แล้วทาให้ทั่วรองเท้าทิ้งไว้ในที่ร่ม 30 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดปกติ ดูว่าคราบออกหมดหรือยัง
วิธีที่ 6 ใช้น้ำยาล้างเล็บ
สิ่งที่คุณแม่ต้องเตรียมคือ น้ำยาล้างเล็บและสำลี เริ่มต้นด้วย เหยาะน้ำยาล้างเล็บลงบนสำลีให้ชุ่ม จากนั้น ค่อยๆ ซับลงไปตรงบริเวณที่มีคราบสกปรก หากตรงไหนคราบเหลืองมาก ก็ขัดถูตรงบริเวณคราบ จะพบว่าคราบสกปรกที่ติดแน่นนั้นค่อยๆ ออก เมื่อถูจนทั่วรองเท้าแล้ว ให้คุณแม่นำรองเท้าลูกไปล้างด้วยน้ำสบู่ เพื่อขจัดกลิ่นฉุนของน้ำยาล้างเล็บ แล้วล้างน้ำเปล่าให้สะอาดจึงนำไปตากให้แห้งในที่ร่ม
วิธีที่ 7 ใช้น้ำส้มสายชูกับผงฟู
คุณแม่ต้องเตรียมน้ำส้มสายชู ผงฟู แปรงสีฟันเก่า กะละมัง น้ำร้อน โดยเริ่มจากให้นำผงฟูผสมกับน้ำส้มสายชู ลองกะปริมาณดูให้พอดี โดยค่อยๆ เติมผงฟูจนเข้ากัน จากนั้นเติมน้ำอุ่นเล็กน้อยให้ส่วนผสมแรกพออุ่นๆ ที่สำคัญคุณแม่ต้องกะปริมาณน้ำส้มสายชู ผงฟู น้ำอุ่นให้พอดีกับรองเท้าของลูกทั้งคู่ เมื่อเตรียมส่วนผสมดังกล่าวแล้ว ให้คุณแม่ใช้แปรงสีฟันเก่า ถูผงฟูที่ผสมไว้ให้ทั่วรองเท้า แล้วขัดบริเวณที่เป็นคราบให้ออก ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จึงนำไปซักให้สะอาดแล้วตากในที่ร่มค่ะ
อย่างไรก็ตามวิธีซักรองเท้าทั้ง 7 วิธีนี้ไม่เหมาะกับการนำมาซักกับรองเท้าผ้าใบที่มีส่วนของหนังด้วยเด็ดขาด และเมื่อซักทำความสะอาดเสร็จแล้วควรนำมาตากลมให้แห้ง ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผมทำให้แห้งเพราะจะทำให้รองเท้าเสียทรง เท่านี้คุณแม่ก็สามารถทำรองเท้าใบของลูกให้กลับมาขาวปิ๊งไว้ใส่ไปโรงเรียนก่อนเปิดเทอมแล้ว ต่อจากนี้หลังจากนำมาใช้งานแล้วก็หมั่นทำความสะอาด วางรองเท้าในที่โล่ง ๆ เพื่อตากลมให้ไม่มีกลิ่นอับ
วิธีซักรองเท้าผ้าใบ ภาพ: bhg.com
วิธีเลือกรองเท้ากีฬาคู่ใหม่ให้ลูก
หากรองเท้าผ้าใบของลูกๆ ไม่สามารถเยียวยาให้กลับมาเหมือนใหม่แล้ว เรามาดูวิธีเลือกรองเท้าคู่ใหม่กันดีกว่าค่ะ เพราะรองเท้ากีฬาถือว่ามีความสำคัญต่อเด็ก วัยเรียน วัยเล่น เพราะการทำกิจกรรมของพวกเขาต้องอาศัยความคล่องแคล่วแล้ว รองเท้าผ้าใบถือว่า เพราะเป็นตัวช่วยรองรับน้ำหนักและแรงกดต่างๆ
ที่สำคัญคือทำให้การเคลื่อนไหวของเด็กๆ เป็นไปอย่างปลอดภัย รองเท้าที่ดีต้องไม่พลิกหรือทำให้ล้มง่ายขณะวิ่ง โดยเฉพาะรองเท้ากีฬาของเด็ก คุณพ่อคุณแม่จำเป็นจะต้องใส่ใจในการเลือกให้มาก เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อเด็กด่านสุขภาพร่างกาย เพราะอาจเกิดเท้าพลิกจนต้องใส่เฝือกก็ได้ค่ะ วันนี้เราจึงขอแนะนำ 3 วิธีเลือกรองเท้ากีฬาหรือรองเท้าผ้าใบให้เหมาะกับลูกๆ
1. เบอร์หรือไซส์รองเท้าเด็ก
การเลือกขนาดรองเท้าเด็กหรือเบอร์นั้นค่อนข้างยุ่งยาก เพราะแต่ละยี่ห้อก็มีมาตรฐานการวัดขนาดไม่เท่ากัน ยิ่งการซื้อรองเท้าที่ต้องระบุอายุเด็กแล้ว แทบจะช่วยไม่ได้เลย ดังนั้น รองเท้าที่ดีจึงต้องระบุถึงขนาดไซส์ที่วัดตั้งแต่ปลายนิ้วโป้งไปจนถึงส้นเท้าให้ชัดเจนเพื่อความแม่นยำในการซื้อไปให้เด็กๆ นอกจากนี้ก็ต้องวัดความกว้างของหน้าเท้าเพิ่มเข้าไปด้วย เพราะไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่มักจะมีปัญหาที่หน้าเท้าค่ะ
2. ไม่ควรซื้อรองเท้าเผื่อตอนโต
ไม่ว่าจะซื้อเผื่อแค่ 1-2 ปี อย่าลืมว่า เด็กสมัยนี้โตเร็วมาก การซื้อรองเท้าที่ไซส์ใหญ่เกินไป อาจเกิดอันตรายต่อเด็กๆ ได้ค่ะ ควรพาลูกไปซื้อโดยใช้วิธีให้ลูกได้ลองสวมใส่พร้อมถุงเท้าที่ใช้เป็นประจำ ถ้าคู่ไหนที่ใส่แล้วสบายเท้า ไม่แน่นมากจนอึดอัด และไม่หลวมจนเคลื่อนไหวลำบาก ก็ให้เลือกคู่นั้น เพราะการเลือกรองเท้าที่ไม่พอดี จะส่งผลให้เด็กวิ่งแล้วสะดุดล้มได้ง่ายมากค่ะ
3. อย่าปล่อยปละละเลยถ้าลูกบอกว่า รองเท้าคับแล้ว
เด็กๆ มักจะมีกิจกรรมทั้งเดินและวิ่ง บางครั้งรองเท้าที่เพิ่งซื้อมา ทำให้ลูกเดินแล้วเจ็บ วิ่งแล้วหลังเท้าโดนกัดจนเป็นแผล คุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ลูกใส่รองเท้าคู่เดิมเมื่อลูกบ่นว่าเจ็บ อย่าลืมว่าลูกๆ ต้องใส่รองเท้าไปเป็นปีๆ ยิ่งเด็กอายุ 3-6 ขวบ เด็กจะโตเร็วมาก เท้าจะขยายใหญ่ขึ้น หากต้องเปลี่ยน คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องตัดใจซื้อค่ะ ดีกว่าให้ลูกได้รับบาดเจ็บจะเสียค่ารักษาพยาบาลแพงกว่าค่ารองเท้าแน่นอน
ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่ต้องซื้อรองเท้าให้ถูกประเภทของกีฬาที่ลูกเล่นด้วยนะคะ เช่น รองเท้าสตั๊ดช์ใช้กับกีฬาฟุตบอล รองเท้าฟุตซอลก็ใช้กับกีฬาฟุตซอล หรือรองเท้าผ้าใบแบบเรียวยาวกระชับเท้าก็จะเหมาะกับการวิ่ง เป็นต้น
บทความน่าสนใจ :
ความฝืดเคืองของผู้ปกครอง กับค่าใช้จ่ายในช่วงโควิด-19 ระลอกใหม่
รู้มั้ย ไซส์รองเท้าบอกอายุได้ด้วยนะ
ว้าว! 10 ไอเดียเจ๋งๆ ทำของเล่นให้ลูกจากกล่องรองเท้า
ที่มา : 1 , 2

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!