วิธีการดูแลตัวเองเมื่อ "ตั้งครรภ์" โดยไม่ต้องพึ่งยา

อาการนี้เป็นหนึ่งในอาการยอดฮิตระหว่างตั้งครรภ์ของผู้หญิงหลายคน ดังนั้นจึงมีตัวเลือกในการบรรเทาอาการนี้ค่อนข้างมากทีเดียว มีทั้งแบบใช้ยาหรือไม่ใช้ยา สำหรับการดูแลตัวเองที่บ้านอย่างง่าย ๆ ก็เริ่มจากการกินแครกเกอร์รสเค็มนิด ๆ ดื่มน้ำขิง เคี้ยวหมากฝรั่งรสมินต์ สำหรับตัวดิฉันเองพบว่าการดื่มนมช่วยบรรเทาอาการนี้ได้แทบจะทันที วิธีสุดท้ายที่พอจะช่วยได้คือ การดื่มน้ำที่ใส่ผงฟู 1 ช้อนชาลงไปในน้ำที่รินใส่แก้วทรงสูง

อย่างแรกเลยต้องลองสังเกตดูว่าคุณปวดหัวเป็นประจำหรือไม่ ถ้าคำตอบคือใช่ นี่อาจเป็นสัญญาณของโรคบางอย่าง ดังนั้นคุณจึงควรไปพบแพทย์เพื่อการตรวจเช็คอย่างละเอียด แต่ถ้าคุณกลับปวดหัวแบบไม่มีสาเหตุ วิธีรักษามีอยู่ 2 อย่างคือ กินยาไทลินอลแก้ปวดทุก ๆ 4 ชั่วโมง หรือ ลองดื่มน้ำเยอะ ๆ เพราะอาการปวดหัวส่วนใหญ่เป็นสัญญาณของการขาดน้ำ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนท้อง แต่ถ้าลองดื่มน้ำแล้วก็ยังไม่ได้ผล ให้ลองนอนพักในห้องมืด ๆ เย็น ๆ แล้วเอาผ้าเย็นมาวางไว้บนหน้าผาก หรือลองนวดกดจุดดู

อาการเพลียและง่วงนอนนั้นเกิดขึ้นปกติสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก เนื่องจากร่างกายกำลังปรับตัวทำงานหนักขึ้นเพื่อผลิตเจ้าตัวน้อย ถ้านอนได้ก็นอนเถอะค่ะ แต่ถ้ารู้สึกว่านอนเท่าไหร่ก็ยังไม่พอสักทีก็ลองทานวิตามินบีรวม ลองออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ หรือลองออกกำลังกายเบา ๆ ดู อาจจะฟังดูแปลกที่การออกกำลังกายแบบเบา ๆ จะทำให้คุณรู้สึกกระปี้กระเปร่าแทนที่จะรู้สึกเหนื่อยล้า

ร่างกายของคุณกำลังเปลี่ยนแปลง ทำให้คุณอาจจะนอนไม่หลับหรือหลับไม่เต็มที่ โดยเฉพาะช่วงเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ เลยที่ทำให้การนอนหลับสนิทตลอดคืนนั้นเป็นความทรงจำไปเลย การลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ ตลอดคืน ขนาดท้องที่ขยายใหญ่ขึ้นจนรู้สึกอึดอัด ตลอดจนอาการจุดเสียดแน่นยอดอกก็ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุ การใช้ยานอนหลับอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก ดังนั้นลองดื่มชาอุ่น ๆ อาบน้ำอุ่นก่อนนอน ปรับอุณหภูมิในห้องให้เหมาะสม มีหมอนหลาย ๆ ใบ เพื่อช่วยค้ำหรือพยุงตัวคุณขณะลุกขึ้น พยายามลดกิจกรรมต่าง ๆ ในห้องนอนลงให้เหลือแค่นอนกับกิจกรรมบนเตียง จะได้ฝึกสมองไปในตัวว่าห้องนี้คือห้องนอนเท่านั้น

อาการนี้ก็จะคล้าย ๆ กับอาการปวดหัวที่ควรปรึกษาแพทย์หากอาการหนัก แต่ถ้าหากเป็นอาการบวมเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงสุดท้ายก่อนคลอด วิธีที่จะบรรเทาอาการนี้คือการนอนพักผ่อน บางทีเหมือนพูดง่ายแต่ทำยาก แต่การนอนยกขาสูงสามารถช่วยลดอาการบวมได้ นอกจากนี้การดื่มน้ำเยอะ ๆ ก็จะช่วยป้องกันการบวมได้เช่นกัน

อาการคันนี้เกิดจากการขยายตัวของผิวหนัง การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนขณะท้อง ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงในร่างกายจนก่อให้เกิดการระคายเคืองและคันผิวหนังได้ บางคนก็หันหน้าพึ่งยาเลย แต่วิธีที่เราดูแลตัวเองได้ก็มีไม่น้อย เช่น อาบน้ำนม ทาครีม ใช้น้ำมันทาผิวเด็ก ใช้ผ้าเปียกเช็ดบริเวณที่คัน บางครั้งการเปลี่ยนสบู่ก็ช่วยได้ เมื่อเราคันแล้วยิ่งเกา แต่การเกานี่หละ ยิ่งทำให้ผิวหนังยิ่งระคายเคืองมากขึ้น

อาการปวดหลังนี้ทำให้คนท้องทรมานมาหลายคนแล้ว ลองใช้กระเป๋าน้ำร้อน แช่น้ำอุ่น หรือการนวดเข้ามาช่วยบรรเทาอาการนี้ดู นอกจากนี้เวลาเปลี่ยนอิริยาบทต่าง ๆ ทั้งการยืน เดิน นั่ง นอน ก็ควรทำให้ถูกต้องด้วย การเล่นโยคะและการออกกำลังกายเบา ๆ ก็มีส่วนช่วยได้มากทีเดียว

โรคขากระตุกเป็นโรคที่พบได้บ่อยขณะตั้งท้อง เนื่องจากระบบไหลเวียนของเลือดมีการเปลี่ยนแปลง ประกอบกับมีการบวมที่ขาและเท้าร่วมด้วย โดยส่วนตัวแล้วฉันไม่เคยใส่ใจกับโรคนี้จนกระเจอกับตัวเองในช่วงท้องครั้งนี้ พอเป็นทีไรก็แทบจะหลับไม่ลงอีกเลย พอเป็นบ่อยเข้าเลยลองหาข้อมูล พบว่าความร้อนช่วยแก้ปัญหานี้ได้ การเอากระเป๋าน้ำร้อนมาวางไว้ที่ขาก็เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย โดยส่วนตัวพบว่าเพียงแค่เอาผ้าห่มอีกผืนมาวางไว้ที่ขา ก็ใช้บรรเทาอาการได้เช่นกัน แต่หาลองแล้วไม่มีวิธีไหนได้ผล เห็นทีคงต้องพึ่งยาเสียแล้วหละค่ะ อย่าลืมนะคะว่าอาการเหล่านี้ทรมานก็จริง แต่ทันทีที่ได้เห็นหน้าลูก คุณก็จะลืมความเจ็บปวดเหล่านั้นทันที