X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

รักลูกให้เข้ามุม!! แม่แชร์คลิป ลงโทษลูก วัย 3 ขวบที่จบแบบน่ารักไม่เจ็บตัว

บทความ 5 นาที
รักลูกให้เข้ามุม!! แม่แชร์คลิป ลงโทษลูก วัย 3 ขวบที่จบแบบน่ารักไม่เจ็บตัว

คลิปน่ารักที่ถูกเผยแพร่ลงโซเชียลไปไม่นาน ที่ใครได้ดูคลิปนี้ต่างก็หลงเอ็นดูความน่ารักของน้อง “อ้อมกอด” สาวน้อยวัย 3 ขวบ ที่คุณแม่ทำโทษ แต่จะทำโทษด้วยวิธีไหนกันนะ ถึงได้ถูกใจบรรดาชาวเน็ตขนาดนี้

เมื่อหนูน้อยทำผิดมา คุณแม่เลย ลงโทษลูก ด้วยวิธีการสอนและบอกถึงสาเหตุที่จะต้องโดนลงโทษในครั้งนี้ โดยให้หนูน้อยไปยืนเข้ามุม แล้วนับเลข 1-20 เป็นภาษาอังกฤษจากนั้นค่อยมาเล่นกันต่อ คลิปนี้ตอนจบไม่ดราม่า แถมยังสร้างร้อยยิ้ม

เป็นอีกหนึ่งคลิป ที่ชาวเน็ตพากันกดไลก์ และแชร์ต่อไปเป็นจำนวนมาก กับภาพน่ารักของเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่กำลังถูกคุณแม่ดุ และสั่งทำโทษ เพราะทำความผิดมา ซึ่งคุณแม่ก็ลงโทษลูกโดยการให้หนูน้อยไปยืนหันหน้าเข้ามุมห้อง แล้วนับเลข 1-20 เป็นภาษาอังกฤษ ต้องนับให้ครบ จึงจะกลับมาเล่นกันต่อได้

ลงโทษลูก

ลงโทษลูก แบบรักวัวให้ผูก รักลูกให้เข้ามุม

https://www.facebook.com/sutthirak.sakulrat/videos/10156897686914972/

คลิบลงโทษ ‘น้องอ้อมกอด’ กลายเป็นคลิปที่สร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนในโลกออนไลน์ได้กดไลก์กดแชร์ไปกับความน่าเอ็นดูเป็นจำนวนมาก ซึ่งคุณแม่ใช้วิธีการทำโทษลูกแบบใช้เหตุผล ไม่มีการตี ไม่ใช้การดุด่าเสียงดัง โดยให้ลูกสาวเข้ามุมพร้อมกับนับเลข 1-20 เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งน้องก็ค่อย ๆ นับ ติดตรงเลขไหนคุณแม่ก็ช่วย แล้วเมื่อนับเลขจนครบเลข 20 ปรากฏว่าสาวน้อยกลับหัวเราะร่าร้องเย้ดีใจจนลืมความกลัวว่าถูกดุเพราะทำผิดไปเมื่อกี้ซะสนิท หลังคลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ ได้มีคนมาแสดงความคิดเห็นและชื่นชมคุณแม่ที่เลือกใช้เหตุผลในการสอนลูกได้ดี และใช้วิธีลงโทษลูกอย่างเหมาะสม ซึ่งก็เป็นวิธีการลงโทษแบบที่เรียกว่า time out นั่นเอง

 

ลงโทษลูกด้วยวิธี time out ทำอย่างไร?

time out คือการลงโทษลูกโดยไม่ให้ลูกทำกิจกรรมใด ๆ แต่จะให้นั่งหรือยืนอยู่ในมุมที่จัดไว้ลงโทษเป็นเวลา 1-2 นาที และยังคงอยู่ในสายตาพ่อแม่ ควรเริ่มจากระยะเวลาสั้น ๆ เช่นประมาณ 20-30  วินาที ซึ่งเวลาที่เหมาะสมจะทำให้เด็กสงบสติอารมณ์ได้ วิธีการนี้เหมาะที่จะใช้กับเด็กในช่วงอายุ 2 – 3  ขวบ หรืออายุไม่เกิน 4-5 ขวบเนื่องจากเป็นวัยที่เริ่มสื่อสารกันพอเข้าใจ และสามารถเข้าใจคำสั่งได้ง่าย ๆ แล้ว สำหรับเด็กที่โตขึ้นมาหน่อยอาจลงโทษด้วยการให้รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองผิด เช่น เมื่อทำน้ำหกก็ต้องเช็ดด้วยตัวเอง หรือลงโทษด้วยการคัดลายมือ เป็นต้น

หากคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนมีวิธีลงโทษลูกแบบได้ผลและน่าสนใจโดยไม่ใช้การตี สามารถแชร์วิธีอื่น ๆ มาแลกเปลี่ยนเพื่อเป็นแนวทางแก่พ่อแม่บ้านอื่นกันได้นะคะ

 

รวมวิธีลงโทษลูกได้ผลดีแบบไม่ต้องลงมือตี!!!

พญ.สุธีรา ริ้วเหลือง จิตแพทย์กลุ่มงานจิตเวช สาขาจิตเวชเด็กและวัยรุ่น รพ.พระนั่งเกล้าฯ ได้กล่าวว่า การลงโทษด้วยการตีบ่อย ๆ อาจทำให้ลูกกลายเด็กดื้อไม้ ดื้อมือ ต่อต้าน และไม่เชื่อฟังพ่อแม่ได้ แถมยังเป็นการหล่อหลอมให้เด็กซึมซับความรุนแรงและนำไปใช้กับผู้อื่นอีกด้วย ดังนั้นการลงโทษมื่อลูกทำผิดยังมีหลายวิธีโดยไม่ใช้วิธีการตี

 

วิธีลงโทษลูกแบบ Time out

คือลงโทษลูกโดยไม่ให้ลูกทำกิจกรรมใด ๆ และให้นั่งอยู่ในมุมที่จัดไว้ลงโทษเป็นเวลา 1-2 นาที แต่ยังคงอยู่ในสายตาพ่อแม่ วิธีนี้สามารถใช้กับเด็กที่เข้าใจคำสั่งได้ง่ายหรืออายุไม่เกิน 4-5 ขวบ
Read : Time out ลงโทษแบบสงบแต่สยบลูกน้อยอย่างได้ผล

 

วิธีลงโทษลูกด้วยการงดกิจกรรม

เช่น ถ้าลูกทำการบ้านไม่เสร็จก็อดไปเล่นนอกบ้านกันเพื่อน วิธีนี้เหมาะสำหรับเด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไป เนื่องจากเริ่มเข้าใจเงื่อนไขต่าง ๆ และรู้จักต่อรองได้มากขึ้น ดังนั้นพ่อแม่ควรหนักแน่นและสอนลูกให้ยึดตามกติกาที่ตั้งไว้ ให้เหตุและผลเพื่ออธิบายให้ลูกเข้าใจ การใช้วิธีทำโทษแบบนี้ ซจะส่งผลให้ลูกเป็นเด็กที่เข้าใจและใช้เหตุผล มีวินัย และไม่ใช่อารมณ์ในการแก้ปัญหาได้

 

วิธีลงโทษลูกด้วยการรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำผิด

เช่น เมื่อทำน้ำหกก็ต้องเช็ดด้วยตัวเอง หรือลงโทษด้วยการคัดลายมือ เป็นต้น

 

คุณหมอยังได้เพิ่มเติมอีกว่า ถ้าลงโทษด้วยการตีลูกซ้ำแล้วซ้ำอีก วันหนึ่งเมื่อลูกทำผิดก็อาจแบมือมาให้พ่อแม่ตีโดยลูกจะไม่เข้าใจเลยว่า พ่อแม่ตีไปเพื่ออะไร ดังนั้นพ่อแม่ควรมีกติกาในการลงโทษลูก และไม่ควรใช้คำพูดที่ทำลายความรู้สึกของลูก อย่างการพูดว่า “แม่ไม่รักลูก ทำแบบนี้ไม่ใช่ลูกแม่” เพื่อให้เด็กรู้สึกแย่หรือน้อยใจลงได้

อย่างไรก็ตาม เราสามารถลงโทษลูกด้วยการตีได้ แต่ควรมีข้อตกลงและทำความเข้าใจให้ลูกรู้ว่า การที่พ่อแม่ตีลูกก็ต่อเมื่อลูกทำผิด ไม่ใช่การตีสุ่มสี่สุ่มห้า พร้อมอธิบายถึงสาเหตุเพื่อให้ลูกเกิดการยอมรับของวิธีการลงโทษนี้ เช่น เมื่อลูกดื้อ หรือไม่รักษาคำพูด ฯลฯ การพูดในลักษณะนี้เพื่อที่ลูกจะได้เรียนรู้และนำไปคิด ซึ่งพ่อแม่ก็ควรจะใจเย็นและไม่ใช้อารมณ์กับลูกด้วยนะคะ

หากพ่อแม่บ้านไหนมีวิธีลงโทษลูกแบบได้ผลและน่าสนใจโดยไม่ใช้การตี สามารถแชร์วิธีอื่น ๆ มาแลกเปลี่ยนเพื่อเป็นแนวทางแก่พ่อแม่บ้านอื่นกันได้นะคะ

ลงโทษลูก

ถึงตรงนี้พ่อแม่หลายคนอาจกำลังกุมขมับ แล้วคิดว่านอกจากตัวอย่างที่บอกไป ยังมีวิธีการหนุนเสริมเชิงบวกแบบไหนอีก
การหนุนเสริมเชิงบวก ทำได้ง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยสักนิด ยกตัวอย่างเช่น

  • การไฮไฟว์ (high five) หรือการประกบมือกับลูกเมื่อลูกทำสำเร็จหรือทำได้ดี
  • การกอดหรือการลูบหลัง
  • การปรบมือ ส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ หรือแม้แต่การยกนิ้วโป้ง เพื่อแสดงว่า “ยอดเยี่ยม”
  • การบอกกับคนอื่นว่าภูมิใจในตัวลูกมากแค่ไหนต่อหน้าลูก

การกล่าวคำชมเชยหรือการให้รางวัล ใช่ว่าจะทำไม่ได้เลย พ่อแม่สามารถทำได้เมื่อลูกลงมือทำบางอย่างที่น่าชื่นชมอย่างเห็นได้ชัด เช่น เมื่อลูกทำความสะอาดห้องตัวเองทั้งที่พ่อแม่ไม่ได้บอก กรณีนี้พ่อแม่สามารถหนุนเสริม ให้รางวัลลูกด้วยการพาไปสนามเด็กเล่นได้

หรือให้เวลาลูกเล่นแท็บเล็ตหรือทำในสิ่งที่เขาอยากทำมากขึ้น เมื่อเขามีความกระตือรือร้นทำการบ้านจนเสร็จอย่างรวดเร็วและทำออกมาได้ดี

ในวัยรุ่นการเลื่อนเวลาเคอร์ฟิว (curfew) ให้ลูกกลับบ้านช้าขึ้นได้อีก 1 ชั่วโมงสักครั้งหนึ่ง เมื่อเขาทำสิ่งที่ดีและน่าชื่นชมก็เป็นการหนุนเสริมอย่างหนึ่ง

การกล่าวชมเชยหรือให้รางวัลในจังหวะที่ถูกต้องจะเป็นแรงกระตุ้นและเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกทำพฤติกรรมที่ดีนั้นอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่พ่อแม่ควรระวังไม่ใช้วิธีชื่นชมหรือให้รางวัล เป็นการเสนอเงื่อนไขหรือแลกเปลี่ยนเมื่อลูกกระทำความผิด


ที่มา : เฟซบุ๊ค sutthirak.sakulrat

บทความใกล้เคียงที่น่าสนใจ :

รวมวิธีลงโทษลูกได้ผลดีแบบไม่ต้องลงมือตี!!!

ลงโทษลูกอย่างไรไม่ให้บอบช้ำ

พ่อลงโทษลูกสาววัย 10 ปี ให้เดินไปโรงเรียนด้วยตัวเองระยะทาง 8 กิโล

 

บทความจากพันธมิตร
เด็กสมาธิสั้น ดื้อ ซน อารมณ์รุนแรง มีโอกาสรักษาหายไหม?
เด็กสมาธิสั้น ดื้อ ซน อารมณ์รุนแรง มีโอกาสรักษาหายไหม?
เด็กดื้อ เด็กซน ใช่อาการเด็กสมาธิสั้นหรือไม่ โรคสมาธิสั้น คืออะไร ทำไมต้องรีบพาลูกไปรักษา
เด็กดื้อ เด็กซน ใช่อาการเด็กสมาธิสั้นหรือไม่ โรคสมาธิสั้น คืออะไร ทำไมต้องรีบพาลูกไปรักษา
เปิดใจบ้านหงษ์มานพครั้งแรก เมื่อกังวลว่าลูกตัวเล็ก
เปิดใจบ้านหงษ์มานพครั้งแรก เมื่อกังวลว่าลูกตัวเล็ก
เคล็ดลับเลือก เครื่องสำอางออร์แกนิคสำหรับเด็ก ให้เจ้าตัวเล็กของคุณแม่ สวยสดใส ปลอดภัยไม่ระคายเคือง
เคล็ดลับเลือก เครื่องสำอางออร์แกนิคสำหรับเด็ก ให้เจ้าตัวเล็กของคุณแม่ สวยสดใส ปลอดภัยไม่ระคายเคือง

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Napatsakorn .R

  • หน้าแรก
  • /
  • เด็กก่อนเข้าเรียน
  • /
  • รักลูกให้เข้ามุม!! แม่แชร์คลิป ลงโทษลูก วัย 3 ขวบที่จบแบบน่ารักไม่เจ็บตัว
แชร์ :
  • คลิปน่ารัก เบบี๋ออกอาการตื่นเต้นสุดๆ เมื่อเห็นเจ้าเหมียวเข้าใกล้

    คลิปน่ารัก เบบี๋ออกอาการตื่นเต้นสุดๆ เมื่อเห็นเจ้าเหมียวเข้าใกล้

  • คลิปน่ารัก หนูน้อยตั้งใจฟังพ่อมาก..แต่จะเข้าใจไหมนั้น !!

    คลิปน่ารัก หนูน้อยตั้งใจฟังพ่อมาก..แต่จะเข้าใจไหมนั้น !!

  • สามีสงสัย!? ทำไมลูกหน้าไม่เหมือนตัวเอง ยืนกราน ตรวจ DNA สรุปผลไม่พลิก

    สามีสงสัย!? ทำไมลูกหน้าไม่เหมือนตัวเอง ยืนกราน ตรวจ DNA สรุปผลไม่พลิก

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

  • คลิปน่ารัก เบบี๋ออกอาการตื่นเต้นสุดๆ เมื่อเห็นเจ้าเหมียวเข้าใกล้

    คลิปน่ารัก เบบี๋ออกอาการตื่นเต้นสุดๆ เมื่อเห็นเจ้าเหมียวเข้าใกล้

  • คลิปน่ารัก หนูน้อยตั้งใจฟังพ่อมาก..แต่จะเข้าใจไหมนั้น !!

    คลิปน่ารัก หนูน้อยตั้งใจฟังพ่อมาก..แต่จะเข้าใจไหมนั้น !!

  • สามีสงสัย!? ทำไมลูกหน้าไม่เหมือนตัวเอง ยืนกราน ตรวจ DNA สรุปผลไม่พลิก

    สามีสงสัย!? ทำไมลูกหน้าไม่เหมือนตัวเอง ยืนกราน ตรวจ DNA สรุปผลไม่พลิก

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ