อย่าให้ใครมาว่าได้ ว่าเป็นแม่ห่วยๆ เพราะเราจะเป็นแม่ที่ดีขึ้น
อย่าให้ใครมาว่าได้ ว่าเป็นแม่ห่วยๆ เพราะเราจะเป็นแม่ที่ดีขึ้น แม้ว่าการเป็นแม่จะไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว การทำพลาดครั้งแรกดูอาจจะเป็นเรื่องที่ใหญ่ และทำให้นอยด์ไปหลายวัน แต่การเป็นแม่ก็เหมือนกับหน้าที่อื่นๆ ความผิดพลาดไม่ใช่เรื่องใหญ่ค่ะ แต่ผิดพลาดแล้วเรียนรู้อะไรบ้าง นั่นแหละคือเรื่องสำคัญที่สุดละ
กฎข้อที่ 1 จงเป็นแม่ในแบบของตัวเอง
ใช่ค่ะ ตั้งแต่คุณเริ่มเป็นแม่ งานบางอย่างอาจจะดูยากขึ้น มีเรื่องที่ต้องจัดการจัดระเบียบเพิ่มขึ้นมาก เสียสละมากขึ้นเพื่อลูก ความอดทนเพิ่มเลเวลขึ้นหลายระดับ แต่คุณไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเสียทั้งหมด
ในโลกนี้ไม่มีแม่ที่เพอร์เฟคที่สุดหรือดีที่สุด นั่นทำให้มนุษย์แตกต่างกัน บางช่วงเวลาคุณอาจจะอิจฉาบรรดาแม่ที่อยู่บ้าน มีเวลาดูแลลูกน้อยได้อย่างเต็มที่ แต่เชื่อเถอะค่ะว่า แม่ที่อยู่บ้าน ก็จะมีช่วงเวลาที่อิจฉาเหล่าคุณแม่ที่ทำงานนอกบ้านบ้างน่ะแหละ มันไม่มีแนวทางไหนที่ดีที่สุดค่ะ มีแต่แนวทางที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละครอบครัวเท่านั้น
คุณอาจจะไม่ใช่คุณแม่ที่มีฝีมือเรื่องการทำข้าวกล่องน่ารักๆ ให้ลูก คุณอาจจะไม่ใช่คุณแม่ที่จัดงานวันเกิดในฝันให้ลูกได้ หรือไม่แม้แต่จะสามารถพาลูกไปเที่ยวได้บ่อย
แต่คุณคือแม่ที่ดีที่สุดแล้วค่ะ สำหรับลูกๆ ของคุณ บางครั้งความเป็นแม่ก็ทำให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเราเหนื่อย ท้อแท้ หรือแม้แต่น้อยใจในเรื่องอะไรก็แล้วแต่ แต่นั่นก็ทำให้คุณเป็นคุณแม่ปกติๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง
กฎข้อที่ 2 คาดหวังในสิ่งที่เป็นไปได้จากตัวคุณและลูก
งานของแม่ไม่ใช่งานง่ายๆ ค่ะ การสร้างคนไม่เคยเป็นเรื่องง่าย คุณเองหรือแม้แต่คุณสามี (รีบเรียกมานั่งอ่านข้างๆ ด้วย) อย่าคาดหวังว่าในขณะที่คุณเป็นแม่เลี้ยงลูกอยู่บ้าน เรื่องลูกจะต้องเนี๊ยบ งานบ้านต้องเนี๊ยบ อาหารต้องทำได้ดี เพราะต่อให้เอาคุณสามีมาสลับหน้าที่กับคุณก็ยังทำไม่ได้
เด็กเล็กๆ ในวัยนี้ เขาต้องการความสนใจจากคุณแม่มากที่สุด ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติค่ะ อีกเรื่องที่อย่าลืม และไม่ควรคาดหวังโดยเด็ดขาด นั่นคือทำไมลูกเราไม่เหมือนเด็กคนอื่น ทำไมไม่เหมือนลูกของเพื่อน ลูกของพี่ ลูกของน้อง นั่นก็เพราะเด็กๆ แต่ละคน ไม่มีทางที่จะเหมือนกัน ทั้งพัฒนาการทางด้านร่างกาย และพัฒนาการทางด้านทักษะอื่นๆ ค่ะ
คุณแม่ไม่ได้เลี้ยงลูกไม่ดี หรือทำอะไรผิดไป ลูกคุณไม่ได้ผิดปกติ หรือมีปัญหาตรงไหน เพียงแค่ความคาดหวังของคุณแม่ควรอิงจากลูกตัวเองเป็นหลัก ไม่ใช่จากลูกของคนอื่นค่ะ
กฎข้อที่ 3 ก่อนจะดูแลลูกได้ ต้องดูแลตัวเองก่อน
อย่ารินน้ำจากแก้วที่ว่างเปล่า อย่าคาดหวังว่าต้นไม้จะโตจากดินที่ไม่เคยรดน้ำ ก่อนที่คุณแม่จะดูแลลูกได้ คุณแม่ต้องดูแลตัวเองก่อนค่ะ
คุณแม่อาจจะแอบเถียงอยู่ในใจว่า เป็นแม่ต้องเสียสละ ต้องเอาความต้องการของลูกมาก่อนของตัวเอง ซึ่งมันก็จริงค่ะ แต่มันก็ไม่ใช่ทุกครั้งเสมอไป วิธีดูแลตัวเองง่ายๆ ก็อย่างการกินอาหารดีๆ ตามใจปากบ้าง แน่นอนว่าสามีควรจะจ่ายค่ะ หลังลูกหลับก็แอบไปนอนแช่น้ำดูซีรีย์เกาหลีบ้าง
หากมีเวลาก็หลบไปพักร่าง นี่แหละเราถึงต้องมีสามีไว้เพื่อการนี้ หากคุณแม่ไม่ไหว ต้องการพักร่าง พักจิตใจ ฝากลูกไว้กับสามีค่ะ ไปสปา ไปนวด ไปเสริมสวย ไปช็อปปิ้งบ้างค่ะ
กฎข้อที่ 4 สารสัมพันธ์กับลูก
ไม่ใช่แค่การเลี้ยงลูกไปวันๆ ให้นม เช็ดอึ เช็ดฉี่ ทำหน้าที่แม่บ้านเท่านั้น คุณแม่จำเป็นต้องสานสัมพันธ์กับลูกให้เกิดความผูกพันธ์ระหว่างแม่ลูกขึ้น การสานสัมพันธ์นี้จะส่งผลต่อเรื่องอื่นๆ ของลูกด้วยนะคะ เช่น การเจริญเติบโต พัฒนาการต่างๆ สุขภาพกายและใจ การศึกษา และเรื่องอื่นๆ อีกด้วย
ช่วงเวลาที่คุณแม่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับลูก ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดคือช่วงขวบปีแรกค่ะ ลูกจะตระหนักต่อเรื่องสุขภาพของตัวเอง มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ มีพัฒนาการที่ดีในการสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์ต่อผู้อื่น
กฎข้อที่ 5 เชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง
ไม่มีพลังวิเศษไหนจะมหัศจรรย์เท่ากับ สัญชาตญาณของความเป็นแม่อีกแล้วค่ะ ทำไมน่ะเหรอ นั่นก็เพราะมันเป็นเรื่องของตัวคุณแม่เอง และลูกของคุณแม่ยังไงละคะ
แม้ว่าโลกในยุคปัจจุบันนี้จะเป็นโลกที่เข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่น่าเชื่อถือได้มากมาย แต่ต่อให้ใครสักคนมาบอกว่าคุณแม่สปอยล์ลูกแรกเกิดเกินไป แต่ทุกเซลล์ในตัวคุณแม่อยากจะเลี้ยงลูกแบบนี้ อุ้มลูกบ่อยมากจนลูกติดมือ ให้นมลูกจนหลับไปทุกครั้ง นั่นละค่ะคือสัญชาตญาณละ
แม้กระทั่งปัญหาสุขภาพใหญ่ๆ ที่การแพทย์แผนปัจจุบันจะยังให้คำตอบได้หมด ต่อให้คุณหมอร้อยคนบอกว่าลูกเราปกติ แต่ถ้าในความรู้สึกของคุณแม่บอกว่ามันผิดปกติ ก็อย่ารีรอแล้วเชื่อคนอื่นไปเสียทีเดียวค่ะ ในหลายๆ กรณี สัญชาตญาณความเป็นแม่นั้นก็ช่วยให้ลูกรอดตายมานักต่อนักแล้ว
คุณคือแม่ที่ดี อย่าให้คนอื่นมาบอกเป็นอย่างอื่น
การเลี้ยงลูกตามแบบฉบับใครแบบฉบับมัน คือเรื่องที่ยากจะเลียนแบบค่ะ หลักการเลี้ยงลูกจริงๆ คือการเชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อสัญชาตญาณของความเป็นแม่ หาเวลาให้ตัวเองบ้าง และรู้ว่าอะไรที่เหมาะกับคุณและลูกมากที่สุด
แต่แม่ว่าคุณจะเป็นแม่ที่ดีแค่ไหน มันก็จะมีวันแย่ๆ และวันดีๆ เสมอค่ะ อย่าได้ท้อไปนะคะคุณแม่
ที่มา Bellybelly
บทความที่น่าสนใจ
สารพัดสิ่งของการเลี้ยงลูก เช็ดอึ เช็ดอ้วก เปรอะเปื้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนเป็นแม่เท่านั้นที่ทำได้
แค่นี้ก็รู้สึกผิดจะแย่ เพราะเป็นแม่แต่ ให้นมลูกไม่ได้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!