น้ำมันปลา สุดยอดอาหารพัฒนาสมอง สำหรับวัยที่กำลังเรียน
เด็กๆ วัยเรียน อยู่ในช่วงกำลังเรียนรู้ จดจำ และพัฒนาทักษะทุกด้านจากสิ่งรอบตัว นอกจากอาหารมื้อหลักที่คุณแม่ต้องดูแล (แกมบังคับ) ให้ลูกๆ ทานครบหมู่แล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับสารอาหารที่ร่างกายของเด็กวัย 3 – 10 ปี ต้องการมากเป็นพิเศษด้วย ทั้งนี้เพื่อให้สมอง และร่างกายของวัยซน พัฒนาได้เต็มประสิทธิภาพ
แม่ทุกคนเฝ้าทะนุถนอมลูกด้วยความรัก หวังให้เด็กๆ โตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ทั้งสุขภาพ การทาน น้ำมันปลา สุดยอดอาหารพัฒนาสมอง สำหรับวัยที่กำลังเรียน
น้ำมันปลา (Fish Oil) คือ น้ำมันที่ได้จากกระบวนการสกัดเอาน้ำมันออกมาจากส่วนต่างๆ ของปลา เช่น เนื้อปลา หนังปลา หางปลา หัวปลา โดยปลาทะเลที่นำมาสกัดนั้นเป็นปลาที่อยู่ในทะเลน้ำลึกเขตหนาวเย็น ซึ่งมีกรดไขมัน Omega-3 ปริมาณมากกว่าปลาน้ำจืด อาทิ ปลาแองโชวี่ ปลาแมคเคอเรล หรือปลาทูน่ามีไขมันกลุ่ม Omega-3 สูงถึง 1-4 กรัม ต่อ เนื้อปลา 100 กรัม Omega-3 ประกอบด้วยกรดไขมันสำคัญ คือ EPA และ DHA โดยจากการศึกษาผลวิจัยทางการแพทย์พบว่า น้ำมันปลามีประโยชน์อย่างต่อร่างกายหลากหลาย เช่น
ประโยชน์ต่อระบบหัวใจและสมอง
‘น้ำมันปลา’ มีส่วนช่วยยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือดและลดไขมันในเลือด จึงช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ โดยเฉพาะหัวใจและสมอง
ประโยชน์ต่อระบบหลอดเลือด
‘น้ำมันปลา’ มีส่วนช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น ลดการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ
ประโยชน์เกี่ยวกับความดันโลหิตของร่างกาย
เนื่องจาก Omega-3 มีส่วนช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น จึงมีผลให้ความดันลดลง โดยที่น้ำมันปลาจะไม่มีผลต่อความดันในผู้ที่มีความดันโลหิตปกติแต่อย่างใด
ช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด
‘น้ำมันปลา’ เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง เพราะจากผลวิจัยทางการแพทย์ระบุไว้ว่าสามารถช่วยลดไขมันร้ายดังกล่าวได้ 20% – 50% ที่สำคัญ คือ ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย สามารถใช้ร่วมกับยาในการลดระดับไขมันในผู้ที่มีไขมันในเลือดสูงได้
ลดปัญหาอาการข้อเสื่อม ข้อรูมาตอยด์
กรดไขมัน Omega-3 สามารถช่วยลดอาการอักเสบ อาการตึงแน่น และอาการข้อยึดตอนเช้า ในผู้ที่มีภาวะข้อเสื่อมและข้ออักเสบรูมาตอยด์ เนื่องจาก EPA สามารถลดสารที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบ ปวด บวมข้อ นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มการสร้างสารที่มีคุณสมบัติทำให้อาการอักเสบต่างๆ ของข้อลดลงได้
ช่วยเสริมการทำงานของเซลล์สมอง
นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันสมองเสื่อม การทานน้ำมันปลาจะมีส่วนป้องกันสมองเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ได้ เพราะ DHA ช่วยเพิ่มสารที่ช่วยลดการสร้างเส้นใยในสมองอันเป็นตัวการทำลายใยประสาทส่วนความจำ
Detail Of Pregnant Woman Taking Vitamins
ช่วยเสริมการแก้ปัญหาภาวะซึมเศร้า
จากผลการวิจัยพบว่าผู้ที่บริโภคปลาเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง มีอัตราการเป็นโรคซึมเศร้าต่ำ เพราะสมดุลของกรดไขมันในร่างกายมีผลต่อความรุนแรงของการเกิดโรคซึมเศร้า จากการวิจัยพบว่าคนที่มีระดับกรดไขมัน Omega-3 ต่ำ แต่ Omega-6 สูง มีโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้ามากกว่าปกติ
ลดความเสี่ยงการเป็นเบาหวาน
นักวิจัยพบว่ากรดไขมัน EPA ในน้ำมันปลา จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีขึ้นได้
ลดอาการปวดไมเกรน
กรดไขมันในน้ำมันปลาจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของพรอสตาแกลนดิน และลดการหลั่งสารซีโลโทนิน ทำให้การเกาะตัวของหลอดเลือดลดลงในระยะที่มีการบีบตัวของหลอดเลือดในสมอง จึงอาจช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้
ช่วยบรรเทาอาการหอบหืด
การทานน้ำมันปลาจะช่วยลดสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ และสารสำคัญที่ทำให้เกิดอาการหอบหืด ดังนั้น การรับประทานน้ำมันปลาอย่างต่อเนื่องจะมีส่วนช่วยบรรเทาอาการหอบหืดได้
แก้ปัญหาโรคผิวหนังบางชนิดได้
การทานปลาที่มีไขมันมากอาจจะช่วยบรรเทาอาการของโรคผิวหนังได้ เช่น สะเก็ดเงิน โรคเรื้อนกวาง โดยลดอาการคัน ทำให้ผื่นแดง
ดีเอชเอ และโอเมก้า 3 มีประโยชน์อย่างไร?
ดีเอชเอ และโอเมก้า 3 เป็นสารอาหารที่จำเป็นในการเสริมสร้างเซลล์สมอง บำรุงระบบประสาท และสายตา เด็กๆ ที่ได้รับ DHA สูงกว่าเด็กวัยเดียวกัน จะเรียนรู้เร็ว มีสมาธิสูง จดจ่อต่อสิ่งที่สนใจได้นาน สามารถจดจำรายละเอียดต่างๆ ได้มากขึ้น ทั้งยังมีความฉลาดทางอารมณ์ ควบคุมการแสดงออกทางความรู้สึกได้ดี
กรดไขมัน Omega 3 มีที่ไหนบ้าง?
โอเมก้า 3 พบมากในปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ขณะเดียวกัน ปลาบ้านๆ หน้าตาเวรี่ไทย อย่าง ปลาช่อน ปลาดุก ปลานิล ฯลฯ ก็มีโอเมก้า 3 กับเขาด้วยเหมือนกัน แต่ก็มีไขมันสูงและปริมาณของโอเมก้า 3 ไม่มากเท่ากับปลาทะเล อย่างไรก็ดี การนำปลามาทำอาหาร ก็ไม่ควรทานแต่เมนูทอดซ้ำๆ มื้อถัดไปคุณแม่ลองเปลี่ยนมารังสรรค์จานปลาด้วยวิธี ต้ม นึ่ง หรือผัดบ้าง แล้วเติมสีสันสวยๆ ด้วยผักต่างๆ ให้ได้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม (ราว 5 ช้อนโต๊ะ) เพียงเท่านี้ลูกๆ ก็จะได้รับทั้ง โปรตีน ไฟเบอร์ ธาตุเหล็ก และวิตามินครบถ้วน
แต่สำหรับเด็กๆ ที่ทานยาก หรือเริ่มงอแงเพราะเบื่ออาหาร คุณแม่สามารถให้ทาน Bain Syrup ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สกัดจากน้ำมันปลาทูน่า (DHA70%) กลิ่นผลไม้รวม ควบคู่กันไปหลังทานมื้อเช้าได้
- น้ำมันปลา Bain Syrup มีรสชาติอร่อย ทานง่าย
- ประกอบด้วย DHA เข้มข้นสูงถึง 70% มีค่าทางชีวภาพสูง (High Bio-availability) ทำให้ดูดซึมและคงตัวอยู่ในกระแสเลือดได้นาน
- มี Omega 3, Vitamin A, D, E และ B 12 ช่วยเสริมสร้างเซลล์สมอง บำรุงระบบประสาท และสายตา
- ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง อารมณ์แจ่มใส ความจำดี มีสมาธิสูง
- เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง
- กระตุ้นความอยากอาหาร ทำให้มีพลังในการทำกิจกรรมหลือเฟือ พร้อมสำหรับการเรียนรู้ตลอดวัน
ที่มา : 1
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เมนูปลาหลังคลอด รวมเมนูอาหารแม่หลังคลอด แม่ลูกอ่อนควรกินอะไรให้ฟื้นฟูเร็ว
ทารกกินปลาได้ไหม ลูกเริ่มกินปลาได้เมื่อไหร่ พร้อมเมนูปลาสำหรับทารก
https://www.megawecare.co.th
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!